ภายในใจของหัวจิ้งเต็มไปด้วยความกรุ่นโกธร ดีจริงๆ หลี่อิ๋งอิ๋ง! ตนเองยังคิดว่าหย่าซีนั้นจะหลอกลวงเธอ อีกทั้งยังส่งข่าวไปยังจวนเสนาบดีอีกด้วย เพื่อสอบถามเรื่องราวให้กระจ่าง มิคิดว่าจะเป็นการรังแกตนเองด้วยซ้ำ ถือว่าตัวเองเป็นหลานของท่านเสนาบดีแล้วจะรังแกผู้อื่นได้หรือ ? น่าขันสิ้นดี
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น พลันเห็นพ่อบ้านเดินเข้ามา ในตอนที่หัวจิ้งกำลังโมโหอยู่นั้น ใบหน้าสื่อถึงอารมณ์ไม่ค่อยดี พลางตอบรับด้วยเสียงเย็น ๆ ว่า " มีอะไรงั้นหรือ ? "
พ่อบ้านเมื่อเห็นดังนั้น จึงรีบร้อนพูดตอบว่า "องค์หญิง เมื่อครู่คนของจวนเสนาบดีมาหาพะยะค่ะ พลันกราบทูลว่า วันนี้ลูกพี่ลูกน้ององค์หญิงไปวัดจิ้งซีเพื่อสวดมนตร์ข้อพรให้กับท่านเสนาบดีและฮูหยิน ด้วยการเดินทางที่ยากลำบาก ทำให้รู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก จะให้มาเข้าเฝ้าองค์หญิงเวลานี้ก็มิควร จึงส่งคนมากราบทูลองค์หญิงพะยะค่ะ. พรุ่งนี้ตอนเช้า. พี่สาวหลี่ขององค์หญิงจึงจะเดินทางมาเข้าเฝ้า"
หัวจิ้งเงียบไปสักพักจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ยออกมา "อวยพรหรือ ? ฮ่าฮ่า. นางหลี่อิ๋งอิ๋งชั่งมีทักษะในการพูดโกหกมากกว่าองค์หญิงผู้นี้มากนัก! ได้ หากพรุ่งนี้นางมาพบข้า ข้าจะให้นางคุกเข่าสามครั้งคำนับเก้าครั้ง"
พ่อบ้านรู้สึแปลกใจเป็นอย่างมาก พี่สาวหลี่และองค์หญิงแต่เดิมล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด แม่ว่าช่วงนี้จะมิได้ไปมาหาวสู่กันเลยก็ตาม มิรู้ว่าพี่สาวหลี่ไปทำอะไรไว้ จึงทำให้องค์หญิงโมโหได้ ในใจได้แต่เพียงคาดเดาไปต่างๆ นานา ทว่าเบื้องหน้ากลับแสดงความเคารพด้วยความนอบน้อม "กระหม่อมเข้าใจแล้ว กระหม่อมจะกลับไปส่งข่าวให้ท่าน "
"ช้าก่อน" หัวจิ้งว่าพลางถอนหายใจออกมาและยืนขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา นางรู้ว่า. หากนางพูดแบบนี้ไปอาจจะเป็นการฉีกหน้าหลี่อิ๋งอิ๋งได้ มันจะเป็นการดีกว่าหากจะไม่นางได้หักหน้าตนเอง ทว่า หากต่อหน้าต่อตาท่านตาและท่านยายหากนางกล้าพูดนินทาว่าร้ายให้ข้าได้ คนที่พลาดที่สุดก็คือตัวนางเอง ท้ายที่สุดอถ้าหากว่าวันนี้หลี่อิ๋งอิ๋งอยู่แต่ในจวนแล้วล่ะก็ ความสัมพันธ์ของท่านตาและท่านยายล้วนดีกว่านาง ถึงแม้พวกท่านจะเคารพนางในฐานะเจ้าหญิง. แต่ว่าหากหลี่อิ๋งอิ๋งใช้ช่องว่างพูดจาให้ร่้ายตนแล้ว นางก็จะมีช่องว่างกับพวกเขามาก หากมีอะไรเกิดขึ้นภายภาคหน้า ก็จะตัดการได้ยากแล้ว
นางไม่ได้โง่เขลา อีกทั้งยังเข้าใจดีว่า แม้ว่าฉากหน้าท่านตาท่านยายจะเป็นข้าราชบริพาร ทว่าพวกเขายังต้องพึ่งพาเสด็จแม่อีกมาก และพวกเขาไม่สามารถจะขุ่นเคืองอะไรเธอได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวจิ้งขมวดคิ้วลงเล็กน้อย สมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว "เจ้ายังมิต้องรีบกลับ เปิ่นกงจู่จะไปจวนเสนาบดีด้วยตนเอง " เมื่อพูดจบจึงบอกกับสาวใช้ข้างกายว่า "ช่วยเปิ่นกงจู่ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์"
เมื่อเปลี่ยนเป็นชุดอาภรณ์กระโปรงสีไข่หานแล้ว ชุดช่วยขับให้ใบหน้าของหัวจิ้งอ่อนโยนลงสักส่วน หัวจึงพยักหน้าลงเล็กน้อย เรียกให้คนตระเตรียมรถม้า และจึงวานให้สาวใช้ไปบอกกับหย่าซีและจึงเดินทางไปยังจวนเสนาบดี
ในยามนี้ ท่านตามิได้อยู่ที่จวนเป็นแน่ อีกทั้งท่านยายจึงน่าสงสารเป็นอย่างมาก แต่เดิมลูกสาวก็แต่งเข้าไปอยู่ในวังแล้ว แม้ว่าจะเป็นถึงฮองเฮา ทว่าก็ไม่เหมือนลูกสาวที่แท้จริงของนาง นางจึงให้อิสระกับหัวจิ้งมาก หากเริ่มลงมือตั้งแต่ท่านยาย จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หัวจิ้งนั่งอยู่บนรถม้าเป็นเวลานาน ก่อนจะทำการตัดสินใจ นึกถึงคำพูดทั้งหลายที่ตระเตรียมมาอย่างดี. จำไว้ในสมอง ชั่วครู่ จึงเดินทางมายังจวนเสนาบดีแล้ว
เมื่อหัวจิ้งเดินลงมาจากรถม้า ยามเฝ้าประตูหน้าจวนก็จำได้ รีบนร้อนทำความเคารพด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วจึงพูดว่า "องค์หญิงเสด็จมาถึงแล้ว"
หัวจิ้งพยักหน้ารับคำ พลางหมุนกายกลับไปถามว่า "ท่านยายอยู่ที่ไหนงั้นหรือ?"
ยายเฝ้าประตูรีบร้อนตอบ"ฮูหยินเสนาบดีอยู่ที่ตำหนักจิ้งหย่าพะยะค่ะ" หัวจิ้งพยักหน้าเล็กน้อย ตำหนักจิ้งหย่านั้นเป็นจวนที่ท่านยายอาศัยอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง