ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 273

บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องการคัดเลือกนางสนม จักรพรรดิหนิงรู้สึกว่าเขาเป็นหนี้พระสนมจิ่น ดังนั้นเขาจึงยอมรับคำขอของพระสนมจิ่นโดยไม่ลังเล แม้ว่าคำขอนั้นจะยากที่จะยอมรับก็ตาม

จักรพรรดิหนิงกลัวว่าหยุนชางจะต้องเสียเปรียบที่ชายแดน ดังนั้นเขาจึงให้ทหารสายลับกลุ่มเล็กๆ ตามหยุนชางและปฏิบัติตามคำสั่ง เขายังได้สั่งพระราชโองการ ป้ายทอง และดาบศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถตัดสินใจทำก่อนแล้วค่อยรายงานในภายหลัง เมื่อพระราชโองการมาถึงจวนจิ้งอ๋อง หยุนชางก็ตกตะลึงเช่นกัน แม้ว่านางจะรู้ว่าพระสนมจิ่นเห็นด้วย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่นางไม่คิดว่าพระราชโองการจะมาถึงเร็วเช่นนี้ได้

เมื่อเห็นท่าทีที่ตะลึงงันของพ่อบ้าน หยุนชางครุ่นคิด หากว่าชักช้ากว่านี้ และจิ้งอ๋องได้ทราบข่าว เกรงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ดังนั้นนางจึงให้เฉี่ยนอินรีบจัดสัมภาระ พอวันรุ่งขึ้น ก็พาคนออกเดินทาง

การเดินทางในร่างหญิงสาวนั้นไม่สะดวก ดังนั้นหยุนชางจึงแต่งกายเป็นชาย และในเวลาสิบกว่าวันพวกเขาทั้งหมดก็ถึงนอกเมืองคังหยาง

เมืองคังหยางดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามเลย ผู้คนในเมืองยังคงดูผ่อนคลาย บนถนนก็เต็มไปด้วยผู้คน ดูเหมือนว่าจะเจริญรุ่งเรืองมาก หยุนชางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว รู้สึกว่าสถานการณ์นี้แปลกไปเล็กน้อย

หยุนชางให้ทหารสายลับรออยู่นอกเมือง เข้าสู่เมืองคังหยางด้วยตัวนางเอง แต่ไม่ได้ไปที่จวนฉีโดยตรง แต่เดินเข้าไปในโรงเตี้ยมที่ดูคึกคักแห่งหนึ่ง

ห้องส่วนตัวในโรงเตี้ยมเต็มหมดแล้ว หยุนชางจึงนั่งในห้องโถงกว้างบนชั้นสอง หลังจากสั่งอาหารแล้วหยุนชางก็เงยหน้าขึ้นมองเสี่ยวเอ้อร์ที่ร้าน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พี่เสี่ยวเอ้อร์ เรามาจากเมืองหนานซี เดิมได้ยินว่าเมืองคังหยางเกิดศึกสงคราม ก็เลยอยากมาดูกิจการในคังหยางได้รับผลกระทบหรือไม่ แต่ว่า ทำไมมันดูไม่เหมือนมีศึกสงครามเลย?"

เมืองหนานซีเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากในแคว้นหนิง หยุนชางกลัวว่าถ้านางบอกว่ามาจากเมืองหลวง จะดึงดูดความสนใจของคนอื่น จึงได้อ้างขึ้นมา

เสี่ยวเอ้อร์ของโรงเตี้ยมหัวเราะ "คุณชายคงไม่ทราบสินะขอรับ เดิมทีเราคิดว่าสงครามครั้งนี้ คงจะต้องปิดโรงเตี้ยมลงแล้ว แต่คาดไม่ถึงเลย หึหึ เกรงว่าแคว้นเซี่ยคงจะเกรงกลัวชื่อเสียงของแม่ทัพฉีของเรา เดือนกว่าแล้ว ทหารของแคว้นเซี่ยก็แค่กล้าที่จะตั้งค่ายห่างออกไปหลายสิบไมล์ และส่งคนมาดูเป็นครั้งคราวเท่านั้น เหมือนเต่าหดหัวเลย ข้าว่านะ สงครามนี้ เกรงว่าจะสู้ไม่ได้แน่ แม่ทัพฉีเป็นทหารผ่านศึกของแคว้นหนิง และการต่อสู้นั้นดุเดือดมาก เกรงว่าก็ไม่ด้อยไปกว่าจิ้งอ๋องมากนัก"

หยุนชางเอามือเคาะที่โต๊ะเบาๆ เหลือบมองดูเสี่ยวเอ้อร์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง และกล่าวว่า "จริงหรือ ถ้าเช่นนั้นข้าก็กังวลโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ดูเหมือนว่ามีแม่ทัพฉีคอยดูแล เมืองคังหยางจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน" รับไว้ตามใจ

หลังจากนั้นก็เอาเงินให้เสี่ยวเอ้อร์สองตำลึง หยุนชางขมวดคิ้ว แม่ทัพของแคว้นเซี่ยคือรัชทายาทแคว้นเซี่ย และมีหลิ่วหยินเฟิงเป็นกุนซือ หากหยุนชางไม่รู้สถานการณ์ของแม่ทัพทั้งสองฝ่าย เกรงว่าที่เสี่ยวเอ้อร์พูดมา นางคงจะเชื่อแล้ว เพียงแต่ว่า เคยได้ฟังจิ้งอ๋องพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน และศึกษหาข้อมูลเป็นการพิเศษ และตอนนี้ได้ยินสิ่งที่เสี่ยวเอ้อร์ในโรงเตี้ยมพูด ความสงสัยในใจของนางก็เพิ่มมากขึ้น

"คุณชาย แม่ทัพฉีมีเก่งกาจมากจริงๆ หรือขอรับ?" เฉี่ยนอินก็สวมชุดผู้ติดตาม จ้องมองที่หยุนชางด้วยดวงตาที่สดใส

หยุนชางยิ้มอย่างเย็นชา "ใช่ เก่งกาจ หยิ่งทะนงได้เก่งกาจ" แม้แต่ทำให้คนในคังหยางนี้ก็ยังชื่นชมเขามาก เกือบจะเชื่อเขาอย่างสมบูรณ์

ระหว่างรออาหาร หยุนชางคาดเดาความคิดของหลิ่วหยินเฟิงอย่างละเอียด การกระทำของหลิ่วหยินเฟิง มีวัตถุประสงค์อย่างน้อยสองประการ หนึ่งคือการทำให้ผู้คนในอีกสองเมืองระมัดระวังตัว ใช้ความแข็งแกร่งของทหารอีกสองเมือง ประการที่สองทำให้ฉีหล่างตระหนักว่า แคว้นเซี่ยเกรงกลัวเขาและไม่กล้าโจมตี ดังนั้นเขาจึงหยิ่งทะนงมากขึ้น รอให้ฉีหล่างหละหลวมความระมัดระวัง แล้วโจมตีด้วยความไม่ทันระวัง ฉีหล่างจะไม่สามารถป้องกันได้

หยุนชางเคาะโต๊ะเบาๆ และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงจากชั้นล่าง "เจ้าพูดอะไรนะ ไม่มีห้องว่าง ข้าฉียวี่จือต้องการห้อง ยังต้องจองล่วงหน้าหรือ เรียกเถ้าแก่ของพวกเจ้ามา ข้าอยากรู้ มีกฎเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?"

"คุณชายสามได้โปรดใจเย็นๆก่อนขอรับ ข้าน้อยจะให้คนไปถาม และหาห้องให้ท่าน ท่านรอสักครู่ขอรับ... ข้าน้อยจะไปเตรียม ชาให้ท่าน" จากนั้นก็เป็นเสียงที่อ่อนน้อมของเจ้าของร้าน

ฉียวี่จือ...

หยุนชางหันไปมองที่ชั้นล่างและเห็นเด็กผู้ชายอายุยี่สิบปี ยืนอยู่ชั้นล่าง สวมเสื้อสีม่วงและถือพัดในมือ รูปลักษณ์ของเขานับได้ว่าดูดี แต่คิ้วตาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง และดวงตาที่มองไปยังเถ้าแก่โรงเตี้ยมนั้นมีความดูถูกเล็กน้อย

ฉียวี่จือบุตรชายคนที่สามของฉีหล่าง อายุยี่สิบเอ็ดปี และยังไม่ได้แต่งงาน แต่มีนางสนมมากกว่ายี่สิบคนในจวน มีนิสัยเย่อหยิ่งและเผด็จการ และเขาถือได้ว่าเป็นจอมเผด็จการในคังหยาง และเขามักสร้างปัญหาให้วุ่นวายในเมือง แต่เนื่องจากพ่อของเขาคือฉีหล่าง มีคนเพียงไม่กี่คนที่กล้าทำให้เขาขุ่นเคือง

หยุนชางเห็นเสี่ยวเอ้อร์รีบขึ้นไปชั้นบน เคาะประตูห้องส่วนตัว และเข้าไปถาม หลังจากนั้นไม่นาน คนในห้องส่วนตัวก็เดินออกมา แต่สีหน้าของพวกเขาดูไม่พอใจเล็กน้อย

ฉียวี่จือได้รับการต้อนรับจากเถ้าแก่เข้าไปในห้องส่วนตัว

"ชิ ไม่ใช่เพราะมีพ่อเป็นแม่ทัพเหรอ กำเริบอะไรกัน เถ้าแก่ ข้าถามเจ้าว่ามีห้องส่วนตัวหรือไหม แล้วเจ้าตอบว่าไม่มี ทำไมพอฉียวี่จือถามขึ้นมา กลับมีห้อง?" ในห้องโถงชั้นล่าง มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง