"ฮี่……" เสียงบัญชาการที่ตะโกนเข้ามากระทันหันทำให้ม้าของคณะหยุนชางตกใจ ฝูงม้าพากันแตกตื่น มีทั้งเสียงบัญชาการสั่งฆ่า และเสียงความชุลมุนของฝูงม้าดังปนกันไปหมด
"ท่านแม่ทัพ นี่มัน……" นายทหารด้านหลังตะโกนมาด้วยความงุนงง ฉีหล่างมิได้เอ่ยคำพูดใดออกมา หยุนชางครุ่นคิด เวลานี้ เกรงว่าฉีหล่างคงกำลังรู้สึกไม่ดีเป็นแน่
ไม่นานนัก ฉีหล่างจึงพูดเบาๆขึ้นมาว่า "ในเมื่อใต้เท้าได้ส่งแม่ทัพจำแลงออกไปปะทะแล้ว และพวกเขาล้วนมีฝีมือเก่งกาจรู้จักทางหนีทีไล่ ทหารที่ติดตามไปด้วยก็เป็นถึงทหารกองเอก จะบาดเจ็บหรือตายไปก็นับว่าเป็นความสูญเสียของแคว้นหนิง"
หยุนชางหัวเราะในใจ "แม่ทัพฉีคงจะลืมไปแล้วว่า หากไม่ใช่ข้าคอยห้ามความคิดของท่านไว้ เกรงว่าคนที่อยู่กลางร่องเขานั้นจะเป็นท่านไปเสียแล้ว…..."
จากนั้นเสียงก็ได้เงียบลง หยุนชางครุ่นคิดแล้วพูดว่า "ข้าขอแสดงความนับถือแม่ทัพผู้อาวุโสทุกท่าน เห็นทีว่าจำนวนครั้งที่พวกท่านออกศึก จะมากกว่าจำนวนข้าวที่ข้าเคยกิน แต่ในบางครั้ง ข้าก็หวังว่าพวกท่านจะไม่หลงไหลได้ปลื้มในความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของตนเองจนเผลอใช้อารมณ์ในการวางแผนการรบ"
หยุนชางไม่อยากระบุถึงใครคนใดคนหนึ่ง นางรู้ว่า ฉีหล่างผู้นี้ หากรู้จักคิดรู้จักทำก็จะเกิดผลดีขึ้นมาไม่น้อย เปรียบดั่งดาบชั้นยอด แต่หากทำงานผิดๆ เกรงว่าจะนำภัยมาสู่แคว้นหนิงได้ คำพูดของนางในวันนี้ เพียงแค่ต้องการให้เขาจดจำความชอกช้ำในวันนี้ไว้ ต่อจากนี้ไป จะคิดการใดก็ต้องไตร่ตรองให้ถ้วนถี่กว่านี้แล้วจึงตัดสินใจภายหลัง
หยุนชางหยิบปี่หยกออกมาจากใต้แขนเสื้อ นางเป่าปี่ พลันชายชุดดำทั้งสามก็ปรากฏกายคุกเข่าลงเบื้องหน้าม้าของหยุนชาง ทหารที่ติดตามหยุนชางต่างพากันตกตะลึง นึกไม่ถึงเลยว่า จะมีคนคอยแอบตามพวกเขามาโดยตลอด
"สั่งการลงไปว่า ให้สายลับกลุ่มแรกกลับมายังปากทางเข้าร่องเขา จัดการทหารเฝ้าประตูของแคว้นเซี่ยให้เรียบร้อย กลุ่มที่ 2 และ 3 ค่อยๆลอบเข้าไปในป่าทึบ อาศัยจังหวะที่ทหารแคว้นเซี่ยไม่รู้ตัว จัดการเก็บพวกเขาทีละคนๆ! กลุ่มที่ 4 และ 5 ไปหลบซ่อนตัวให้ห่างออกไป รอเวลาชูธงโห่ร้องว่าจัดการทหารแคว้นเซี่ยได้ ฆ่ามัน! ส่วนกลุ่ม 6 ให้เฝ้าอยู่ด้านล่างร่องเขา หากมีผู้ใดกระโดดลงไปก็จงสังหารเสียให้หมด!" หยุนชางกำชับเบาๆ น้ำเสียงของนางไร้ซึ้งความรู้สึก แม้กระทั่งเหล่าทหารที่คุ้นชินกับการรบราฆ่าฟันก็ยังอึ้ง พวกเขาจ้องมองหยุนชางด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
สายลับรับคำแล้วถอยออกไป หลังจากนั้นไม่นาน เสียงก้อนหินก้อนใหญ่เกลือกกลิ้งก็ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย
"ใต้เท้าขอรับ ทหารสายลับเหล่านี้ ท่านเตรียมมาจำนวนเท่าใดหรือขอรับ?"คนที่อยู่ข้างหลังถามขึ้นมา
หยุนชางยิ้มแล้วตอบไปว่า "จะสร้างทหารสายลับขึ้นมาสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย ทหารสายลับที่คอยติดตามเสด็จพ่อก็มิได้มีมากนัก ทหารสายลับที่ข้านำมาเมืองคังหยางในครานี้ มีไม่ถึง 1 พันนาย"
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย "แต่ว่า ฝ่ายตรงข้ามมีไพร่พลไม่ต่ำกว่า 3-4 พันนายเลยนะขอรับ…..."
"แล้วอย่างไรล่ะ?" หยุนชางเอ่ยถาม "ทหารสายลับมีดีที่ปฏิภาณไหวพริบ ทักษะการอำพรางตัว ลอบฆ่า ล้วนเป็นยอดฝีมือทุกด้าน หากจะให้มารับมือกับทหารกองเอกของศัตรู ปะทะกัน 1 ต่อ 10 ก็มิใช่ปัญหา ท่านแม่ทัพโปรดรอดูเถิด อย่างน้อยๆ ข้าก็ไม่ยอมส่งคนของตัวเองให้ออกไปตายเปล่าแน่นอน"
ทุกคนในที่นั้นเข้าใจดีว่าหยุนชางกำลังหมายถึงผู้ใด แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อ
ผ่านไปไม่นาน เสียงสั่งฆ่าเริ่มเบาลงและเงียบไป เสียงที่ตามมาหลังจากนั้นคือเสียงฝีเท้าของฝูงม้า ฟังดูแล้ว คงมีคนมากกว่า 3-4 หมื่น
"แย่แล้ว หรือว่ากำลังเสริมของแคว้นเซี่ยกำลังมา?"
หยุนชางยิ้ม "ไม่ใช่กำลังเสริมของแคว้นเซี่ยหรอก……"
เมื่อพูดจบ พลันได้ยินเสียงโห่ร้อง "จัดการทหารแคว้นเซี่ยได้ ฆ่ามัน…..."
เสียงนั้นดังกึกก้องมาก เสียงนั้นรับกันเป็นทอดๆ ราวกับมีคนโห่ร้องอยู่เป็นจำนวนมาก
นายทหารที่ติดตามมาด้านหลังล้วนได้ยินคำสั่งของหยุนชาง เสียงโห่ร้องในตอนนี้เหมือนเสียงที่หยุนชางกำชับไว้ไม่มีผิด พวกเขาเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย พวกเขาเริ่มเข้าใจว่าเสียงฝีเท้าของฝูงม้าและเสียงสั่งฆ่า ก็คือเสียงตัวแทนของทหารสายลับทั้งสองฝั่ง หากเป็นไปตามที่หยุนชางคาดเดา ทหารสายลับทั้งสองฝั่ง ก็คงจะมีไม่ถึงร้อยคน"
..............
ทุกคนเห็นเงาคนค่อยๆจางหายไป พลันเกิดเสียงที่ตกอกตกใจดังขึ้น "เร็วเข้าๆ พวกเราโดนกลศึก ทหารแคว้นหนิงส่งกำลังเสริมเข้ามา รีบสลายทัพเดี๋ยวนี้ พวกเราจะไปรายงานท่านกุนซือ ไม่ให้ท่านกุนซือหลงกลศึก รีบ…..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง