เนื่องจากได้รับจดหมายมาล่วงหน้าแล้ว ฉีหล่างแม้จะไม่เต็มใจ ก็ทำได้เพียงนำทหารออกมารอต้อนรับเท่านั้น มีพลทหารคุกเข่ารออยู่ที่กระโจมด้านหน้า พลางเห็นชายสวมใส่อาภรณ์สีดำอุ้มคนหนึ่งเดินเข้ามา ผู้คนล้วนรีบร้อนย่อกายทำความเคารพพร้อมกับพูดว่า "ยินดีต้อนรับจิ้งอ๋องพะยะค่ะ"
จิ้งอ๋องไม่ทันได้เห็นพวกเขา ฝีเท้าที่ไม่แม้แต่จะชะลอความเร็วลง เขาผลักประตูกระโจมออก แล้วจึงเดินเข้าไปข้างใน พลันได้ยินน้ำเสียงดุจเย็นชาดังออกมาว่า "ไปตามหมอ"
อากาศยามเดือนสิบสองนั้นหนาวมาก แม้จะเป็นเพียงคำง่าย ๆ เพียงสามคำแต่กลับทำให้นายพลที่ฆ่าศัตรูมาเป็นร้อยเป็นพันกลับหนาวสั่นได้ เสมือนกับความหนาวเย็นที่แทรกเข้าไปยังกระดูก
หมอที่ประจำในกองทัพรีบร้อนออกมา เมื่อมาถึงพลันคุกเข่าหน้าตั่งที่หยุนชางนอนอยู่ พลันตรวจดูชีพจร ผ่านไปเพียงชั่วครู่ เมื่อเห็นแววตาอาฆาตของจิ้งอ๋องเขาจึงพูดออกมาอย่างสั่นเครือว่า"ทูลท่านอ๋อง อาการของหวางเฟยมิได้ร้ายแรงมาก เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอไปเท่านั้น จึงต้องดื่มยาบำรุงร่างกายให้มาก มิจำเป็นต้องใช้ยาแต่อย่างใด พะยะค่ะ"
จิ้งอ๋องยื่นมือออกมากุมมือหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดของเขา คิ้วพลันขมวดขึ้นทว่ามิได้เอ่ยอันใดออกมา ในตอนที่ท่านหมอกำลังจะเปลี่ยนใจสั่งยาให้นั้น จึงได้ยินเสียงของจิ้งอ๋องพูดออกมาว่า "เจ้าออกไป"
หมอถึงกลับรู้สึกหลุดพ้นจากความตาย พลางรีบร้อนนำกล่องยาเดินออกไปนอกกระโจม เมื่อกวาดสายตาจึงเห็นนายพลทั้งหลายที่ยืนอยู่หน้าประตูจ้องมองด้วยสายตาที่แผดเผา ทำให้หมอทหารรู้สึกอดไม่ได้จึงพูดออกมาว่า "หวางเฟยสบายดี"
นายพลทั้งหลายพลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองไปยังสีหน้าของจิ้งอ๋องนั้น พวกเขาคิดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับหวางเฟย ภายในใจรู้สึกกังวลไปครู่หนึ่ง อีกด้านพวกเขาก็ค่อย ๆ เชื่อในตัวหยุนชางแล้ว อีกด้านหนึ่งพวกเขาเกรงว่าหากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะไม่อาจหลีกเลี่ยงไม่รับโทษจากท่านอ๋องได้
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดนั้น กลับพบว่าประตูกระโจมได้ถูกเปิดออกมาอีกครั้ง ร่างของจิ้งอ๋องก็ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่างรีบร้อนย่อกายทำความเคารพ "ท่านอ๋อง"
จิ้งอ๋องพลางพยักหน้ารับ "ให้คนส่งยาบำรุงเข้ามาและต้มน้ำมาให้ข้าสักสองสามถัง"
ฉีหล่างหมุนกายกลับไปสั่งข้ารับใช้ และหันมาหาจิ้งอ๋องพลางพูดขึ้นมาว่า "ท่านอ๋อง. กองทัพแคว้นเซี่ย"
ก่อนที่จะพูดจบ จิ้งอ๋องพลางตัดบทว่า "ตอนนี้ผู้บัญชาการสูงสุดของค่ายนี้เป็นพระชายา มิใช่เปิ่นหวาง. หากมีอะไรจะซักถามให้รอจนกว่าพระชายาจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน" จิ้งอ๋องพลางกวาดสายตามองไปยังนายพลเหล่านี้ พลันสายตามาหยุดมาที่ฉีหล่าง ในแววตามีความเยาะเย้ยอยู่เล็กน้อย
"เปิ่นหวางได้ยินมาว่า นายพลฉีมิฟังแผนการที่ผู้บัญชาการได้วางแผนไว้ เอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่ จึงทำให้กองทัพต้องเสียไพร่พลเป็นจำนวนมาก เปิ่นหวางเป็นเพียงคนนอก เจ้าจะตัดสินใจอย่างไร ค่อยรอผู้บัญชาการตื่นขึ้นมาตัดสินใจเสีย. แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผู้บัญชาการมาอยู่ท่ามกลางสนามรบ ทว่าตอนที่อยู่ในเมืองหลวงนั้น ทุกวันนางมักจะมาพูดคุยถึงกลยุทธิ์ทางการทหารกับเปิ่นหวางอยู่เสมอ นางมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร แม้แต่เปิ่นหวางก็ยังคิดมิลึกซึ้งได้เท่านาง เปิ่นหวางชื่นชมเป็นอย่างมาก หากแต่ท่านจะดูถูก ดูแคลนเพียงเพราะนางเป็นแค่สตรีเช่นนี้ นี่มิใช่นิสัยที่ทหารผ่านศึกเช่นท่านควรจะมี"
เมื่อจิ้งอ๋องพูดจบ จึงหมุนกายกลับเข้าไปยังกระโจมทหาร เหลือแต่เพียงฉีหล่างที่ยืนอยู่ข้างนอก พร้อมทั้งกัดฟันยืนอยู่ตรงนั้นโดยมิได้พูดอะไรออกมา
เมื่อผ่านไปไม่นาน จึงมีเหล่าทหารนำน้ำร้อนเข้ามา จิ้งอ๋องจึงสั่งให้พวกเขาเทน้ำลงในอ่างอาบน้ำ แล้ว จึงถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของหยุนชางออก พลางอุ้มหยุนชางลงไปในอ่างอาบน้ำ ช่วยเช็ดทำความสะอาดให้ตัวนางอย่างละเอียด แล้วจึงอุ้มกลับมาวางที่เตียง
เมื่อเหล่าทหารเข้ามาเปลี่ยนน้ำนั้น เขาจึงเข้าไปอาบน้ำชำระกายตัวเองด้วย แล้วจึงออกมายังนอกฉากกั้น เพื่อดูเหล่าทหารที่นำอาหารเข้ามาวางไว้ให้ พลางเดินเอาโจ๊กไปที่เตียงนอน พยุงหยุนชางขึ้นมาพร้อมป้อนอาหารให้เธอทีละน้อย ๆ และตนเองก็กินไปด้วย
หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว จึงถอดรองเท้าและขึ้นนอนลงบนเตียง พลางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก และเหยียดแขนออกไปจับหยุนชางให้มานอนในอ้อมแขนของเขา แล้วจึงหลับไป
เมื่อจัดการตีศัตรูให้แตกพ่ายแล้ว เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะชำระล้างร่างกาย รีบร้อนควบม้ามายังเมื่องคังหยาง ในตอนนั้นเขาถึงได้รู้ว่าเขาคิดถึงนางมากขนาดไหน
เมื่อตอนที่ตนเองกำลังสู้รบอยู่นั้น เมื่อได้ยินว่านางขันอาสาขอพระราชโองการมายังเมืองคังหยาง เขาโกธรมาก ทว่านางเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด เมื่อนางออกมาแล้วจึงสั่งให้พ่อบ้านช่วยส่งข่าวมาให้เขา เมื่อจดหมายมาถึงมือเขานั้น นางก็ถึงเมืองคังหยางเสียแล้ว แม้เขาจะรู้สึกรู้สึกอับจนหนทาง ทว่าสถานการณ์สู้รบตรงหน้านั้น เขาจึงทำได้เพียงปล่อยเลยตามเลย และสั่งให้คนมาอยู่ข้างกายนางให้มากขึ้น เพื่อให้นางได้ส่งข่าวสารมาหาเขาบ้าง
เขารู้ว่า ฉีหลางจงใจทำให้นางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากและทำให้นางเป็นทุกข์เล็กน้อย ไม่คาดคิดว่า เมื่อได้ยินรายงานจากองครักษ์เงา นางกลับให้ฉีอวี้เฟิงเป็นชายหนุ่มหน้าหยก เขายิ้มด้วยความโกธรออกมา นางชั่งกล้าจริง ๆ จึงรีบร้อนเขียนจดหมายมาหานาง เพียงเพื่อระบายความโกธรในใจ อีกทั้งจดหมายแผ่นนั้นยังโดนเขาขย่ำไปมาแล้วจึงส่งออกไปหานาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง