หลังจากนั้นไม่นาน เฉี่ยนอินก็นำน้ำอุ่นเข้ามาเทลงในถังไม้ที่วางอยู่หลังฉากกั้น หยุนชางเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปแล้วถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็นั่งลงในอ่าง เฉี่ยนอินเดินเข้ามา แล้ววางเสื้อผ้าสะอาดที่เตรียมไว้บนเบาะ จากนั้นก็หยิบผ้าขึ้นมาและขัดตัวให้หยุนชาง แต่ตัวนางนั้นเอนกายไปใกล้หยุนชาง และพูดด้วยเสียงที่เบาจนได้ยินกันเพียงสองคนว่า "ท่านอ๋องเป็นห่วงมาทั้งคืนนะเพคะ ท่านสั่งสายลับมาถามไถ่สามสี่ครั้งแล้วเพคะ"
หยุนชางตะลึง ก่อนที่นางจะออกไป นางบอกกับจิ้งอ๋องว่านางแค่ออกมาดูสถานการณ์ แต่นางมิได้บอกว่าจะไปที่ไหน และนางไม่ได้กลับมาทั้งคืน ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเป็นห่วง หยุนชางรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา นางอมยิ้ม มีคนคอยคิดถึงเป็นห่วงตลอดนั้น ช่างเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยนะ
หลังจากอาบน้ำ เฉี่ยนอินก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วออกจากกระโจม หยุนชางเดินไปหาจิ้งอ๋องและหยิบหนังสือในมือของเขาออก จิ้งอ๋องเงยหน้าขึ้นมามองหยุนชาง หยุนชางก็อมยิ้มขึ้นมา
" ข้าขอโทษ ที่ทำให้เป็นห่วง"
จิ้งอ๋องมิได้กล่าวกระไร เพียงแต่มองไปที่หยุนชางด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเล็กน้อย หยุนชางยื่นมือออกแล้วจับมือจิ้งอ๋อง มือของจิ้งอ๋องเย็นเล็กน้อย หยุนชางจึงนวดมือให้เขาเหมือนที่เขาเคยทำ จากนั้นจึงกล่าวว่า " ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ได้เวลาพักผ่อนแล้ว"
จิ้งอ๋องเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงลุกขึ้นยืน และปล่อยให้หยุนชางจูงมือพาเขาไปนั่งลงข้างๆ เบาะ หยุนชางยื่นตำราพิชัยสงครามออกมา เพียงแต่สนามรบและตำราพิชัยสงครามนี้มันต่างกันมากเกินไป "ในสนามรบนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ข้าไม่กล้าที่จะประมาท ฉะนั้นจึงได้เห็นถึงความสำคัญของมันเช่นนี้ ท่านอ๋องคงไม่รู้ตัวว่าท่านอ๋องนั้นยอดเยี่ยมเช่นไร ก่อนหน้านี้ที่ข้าอภิเษกสมรสกับท่านอ๋อง ก็เพียงเพราะอยากร่วมมือกับท่านอ๋องเพื่อจัดการกับตระกูลหลี่เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ ตระกูลหลี่ได้แตกสลายไปแล้ว แต่ข้ากลับ... หญิงสาวที่อยากครอบครองท่านอ๋องนั้นมีมากจนเกินไป แต่ด้วยความที่ข้าเป็นองค์หญิง จึงได้ครองตำแหน่งพระชายาไป..."
อาจเป็นเพราะสายตาของจิ้งอ๋องนั้นลึกซึ้งเกินไป เมื่อหยุนชางกล่าวคำเหล่านี้ นางรู้สึกลำบากเล็กน้อย หลังจากหยุดไปครู่เดียว นางจึงกล่าวต่ออีกว่า "อันที่จริงแล้ว ข้าไม่มีความฝันใดๆ ข้าหวังเพียงแค่อยากจะเข้มแข็งกว่าเดิม ปกป้องคนที่ข้าต้องการปกป้อง เพื่อไม่ให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ คนที่ข้าต้องการปกป้องนั้นก็มีไม่มาก มีเสด็จแม่ เสด็จพ่อ ท่านตา และเฉินซี แต่ตอนนี้ ข้ากลับต้องคิดอีกว่า ข้าต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ จึงจะมีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอ๋อง บางทีในอนาคต ท่านอ๋องอาจมีตำแหน่งหรืออำนาจที่สูงกว่าตอนนี้ ฉะนั้นข้าจึงต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น จึงจะไม่เป็นตัวถ่วงและภาระของท่านอ๋อง"
จิ้งอ๋องก้มหน้าลง แต่เขากลับอมยิ้มขึ้นมา เขายื่นมือออกไปดึงหยุนชางมาข้างๆ ตน น้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย "เจ้าดีมากแล้ว" หลังจากพูดเช่นนั้นไป เขาก็กอดหยุนชางไว้ในอ้อมกอด "ในเมื่อเจ้าคิดอยากจะทำสิ่งเหล่านี้ เจ้าก็ไปทำเถิด แต่จำไว้ว่า เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี หากว่าเจอปัญหาอะไร อย่าลืมบอกข้า อย่าได้แบกรับปัญหาไว้เพียงคนเดียว เจ้าจะเป็นภรรยาของข้าตลอดไป"
ประโยคสุดท้ายนั้นดูพูดออกมาอย่างกะทันหันเล็กน้อย แต่กลับเหมือนเป็นคำสัญญา หยุนชางตกตะลึงแล้วพยักหน้าและตอบด้วยเสียงต่ำๆ ว่า "ตกลง"
จิ้งอ๋องจุ๊บที่หน้าผากหยุนชางเบา ๆ แล้วจึงกล่าวว่า "พักผ่อนเถิด"
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนเตียงและเข้าไปในผ้าห่ม นางมองไปที่จิ้งอ๋องพร้อมรอยยิ้ม จิ้งอ๋องเอามือแตะศีรษะของหยุนชาง จากนั้นก็ดับไฟลงแล้วนอนลงเช่นกัน
ในความมืดมิดนั้น หยุนชางอมยิ้มเล็กน้อย อันที่จริงทั้งนางและจิ้งอ๋องนั้นไม่ได้หลงใหลในความรักมาเท่าไหร่นัก นางเป็นเช่นนี้เพราะประสบการณ์บางอย่างในชาติก่อนทำให้นางไม่กล้าที่จะทุ่มเทมากนักกับความรัก ส่วนเขานั้นเป็นเช่นนี้อาจเพราะนิสัยเย็นชาที่มีมาตั้งแต่ยังเด็ก ฉะนั้นอภิเษกสมรสมานานเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงเฉยเมยเล็กน้อย เพราะทั้งสองนั้นอภิเษกโดยมีจุดประสงค์บางอย่าง แต่คราวนี้หลังจากที่จิ้งอ๋องมาที่เมืองคังหยางแล้ว นางรู้สึกได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนนั้นดูเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่ามันเปลี่ยนไปในทางที่ดี ทั้งสองเริ่มคิดถึงอีกฝ่ายและเริ่มเป็นห่วงกัน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง