บทที่ 329 ห้อมล้อมจิ้งอ๋อง – ตอนที่ต้องอ่านของ ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
ตอนนี้ของ ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง โดย หลานโยวรู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 329 ห้อมล้อมจิ้งอ๋อง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เสียงการต่อสู้ดังชัดขึ้นมากเรื่อยๆ ราวกับเสียงนั้นอยู่ตรงหน้าไม่ไกลนัก บนเขามีต้นไม้ใบหญ้ารกทึบ แม้เสียงนั้นจะอยู่แค่เพียงเอื้อม แต่ก็ยังมองไม่เห็นอยู่ดี เดินทางต่อไปไม่นานนัก ก็ปรากฏเงาเงาหนึ่งลอยแวบเข้ามา หยุนชางรีบหลบ นางขี่ม้าอ้อมกอหญ้ากอหนึ่ง พลันก็ได้เห็นภาพกลุ่มคนกำลังต่อสู้กัน
หยุนชางหยิบมีดสั้นขึ้นมา นางจ้วงแทงทหารแคว้นเซี่ยที่อยู่ใกล้ตัวนางที่สุด แล้วรีบถามทหารแคว้นหนิงที่กำลังสู้รบอยู่ "จิ้งอ๋องอยู่ไหน?"
ทหารแคว้นหนิงมีเลือดอาบเต็มหน้า นัยน์ตาแดงก่ำ เขาเตรียมหยิบปืนมาจ่อหยุนชาง "เจ้าเป็นใคร?"
"ทหารกองเสริมมาช่วยแล้ว นำข้าไปพบจิ้งอ๋องเดี๋ยวนี้" หยุนชางพูดเสียงกร้าว
ทหารนายนั้นนิ่งไปสักพัก ท่าทางเขายังไม่ปักใจเชื่อ เขามองสำรวจรอบๆตัวหยุนชาง ก็ไม่เห็นวี่แววของทหารกองเสริม ได้ยินแต่เสียงม้าวิ่งและเสียงเดินเข้ามาใกล้ เขาใจชื้นขึ้นมาทันที แล้วรีบหันไปบอกพวกพ้องว่า "พี่น้องทั้งหลาย ทหารกองเสริมมาช่วยแล้ว พวกเรารอดแล้ว!"
เสียงแห่งความปรีติดังขึ้น หยุนชางจับตัวทหารผู้นั้นไว้ แล้วถามเขาอีกครั้ง "จิ้งอ๋องอยู่ที่ไหน?"
ทหารนายนั้นจึงได้สติ แล้วรีบตอบ "จิ้งอ๋องเข้าไปลึกกว่านี้แล้ว หลิ่วหยินเฟิงกุนซือแคว้นเซี่ยส่งคนเข้าไปไล่ตามแล้ว ในมือของจิ้งอ๋องตอนนี้ คงจะเหลือคนอยู่ไม่ถึง 5 ร้อย ส่วนทหารแคว้นเซี่ยยังเหลือไพร่พลกว่า 2 หมื่นนาย"
หยุนชางตกใจมาก พลันนางก็ได้ยินเสียงเฉี่ยนอินตะโกนมา "พระชายา ช้าๆหน่อยเพคะ"
หยุนชางหันไปมอง ก็เห็นเฉี่ยนอินนำเหล่าทหารมุ่งหน้าตามมา
"ให้คนอยู่จัดการศึกตรงนี้ 2 พันคน คนอื่นๆตามข้ามา" หยุนชางรีบขึ้นม้าแล้วมุ่งหน้าไปตามทางที่จิ้งอ๋องเข้าไป
5 ร้อยคนรับมือกับคน 2 หมื่น 5 ร้อยคนรับมือกับคน 2 หมื่น......
ในสมองของหยุนชางครุ่นคิดอยู่แต่จำนวนเหล่านี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีมีดมากรีดทิ่มแทงดวงใจของนาง
ไม่ไกลจากตำแหน่งของหยุนชางมากนัก มีกระท่อมเล็กๆอยู่หลังหนึ่ง คงจะเป็นที่พักผ่อนของเหล่าพรานป่า ข้างๆกระท่อมมีกลุ่มคนยืนอยู่ ท่ามกลางคนเหล่านั้นมีชายชุดดำกำลังนั่งอยู่ เสื้อผ้าบนแขนของเขาฉีกขาด และมีเลือดซึมออกมา
"ท่านอ๋อง ขอหม่อมฉันทำแผลให้พระองค์เถอะนะพ่ะย่ะค่ะ" ผู้ชายที่อยู่ข้างๆค้อมตัวลงมาพูด
ชายชุดดำผู้นั้นก็คือจิ้งอ๋อง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนก้อนหิน ในมือกำกิ่งไม้เอาไว้ แล้วขีดเขี่ยไปบนพื้นดิน
เขียนไปได้สักพัก จิ้งอ๋องก็เงยหน้า เมื่อเห็นสีท้องฟ้าแล้วก็พูดว่า "พวกเราอดทนต่อไปอีกนิดเดียวนะ เสี่ยวจิ่วรู้จักสภาพพื้นที่ตรงนี้ดี คงจะอดทนอยู่ได้จนฟ้ามืด รอให้ฟ้ามืดแล้ว ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น"
สายลับข้างกายจิ้งอ๋องนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า "ท่านอ๋อง พวกเราในที่นี้มีฝ่ายแคว้นเซี่ยคอยสอดแนมอยู่ ที่ที่หม่อมฉันนำพระองค์มาเป็นที่ที่คนหาเจอได้ยาก แต่ก็คงใช้หลบจากฝ่ายแคว้นเซี่ยได้อีกไม่นาน หม่อมฉันเกรงว่าจะมีคนคอยทำสัญลักษณ์กำกับตามหลังพวกเราอยู่ แต่หม่อมฉันได้ไปตรวจดูแล้วกลับไม่พบสิ่งผิดปกติ ท่านอ๋องควรแยกทางกับพวกหม่อมฉัน พวกหม่อมฉันจะออกไปล่อทหารแคว้นเซี่ย ท่านอ๋องมีวิทยายุทธสูงส่ง จะต้องรอดพ้นจากสายตาที่คอยสอดส่องความเคลื่อนไหวของพระองค์ได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ"
จิ้งอ๋องได้ฟังก็ยิ้มแล้วส่ายหน้า "พวกเราทุกคนจะต้องปลอดภัย พวกเจ้าล้วนเป็นคนสนิทที่ข้าคัดสรรฝึกฝนมาด้วยตัวเอง จะให้ข้าทอดทิ้งพวกเจ้าไปได้อย่างไร"
เขานิ่งอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองชายชุดสีกรม "กุนซือหลิ่ว ไม่ได้พบกันนานเลยนะ"
หลิ่วหยินเฟิงแสยะยิ้ม "ได้พบกับจิ้งอ๋องคราวก่อนเห็นจะเป็น 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นข้ายังได้ดื่มเหล้าร่วมกันกับพระองค์ด้วย แม้จะไม่อยากพบหน้ากันอีกเพราะเป็นศัตรูกัน แต่ว่า หม่อมฉันก็นับถือและชื่นชมพระองค์อยู่ไม่น้อย ความองอาจในการออกศึก การวางแผนที่รัดกุมรอบด้าน ฝีมือของพระองค์อาจจะเหนือกว่าอดีตฮ่องเต้แคว้นหนิงเสียด้วยซ้ำ"
"ขอบคุณท่านกุนซือที่กล่าวชม เห็นทีวันนี้ข้าคงตกอยู่ในเงื้อมมือของท่านกุนซือเสียแล้ว ชัยชนะครั้งนี้คงจะต้องตกเป็นของท่าน" จิ้งอ๋องยิ้มให้อย่างสุขุม "ไม่ทราบว่าภายในใจของกุนซือหลิ่ว คิดว่าระหว่างข้าและองค์รัชทายาทแคว้นเซี่ย ผู้ใดเลิศกว่าผู้ใดด้อยกว่ากัน?"
เมื่อหลิ่วหยินเฟิงได้ยิน เขาหรี่ตาจ้องมองไปที่จิ้งอ๋อง "จิ้งอ๋องถามคำถามเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?"
"นกดีรู้จักเลือกไม้ฉันใด คนจะก้าวหน้าก็ต้องรู้จักเลือกที่ทำงานและหัวหน้าฉันนั้น กุนซือหลิ่วคงเห็นว่าข้ามีฝีมือเหนือชั้นกว่าเซี่ยโหเหยียนนั่นไม่น้อย ไยท่านไม่เลือกมาอยู่กับข้า ข้าพร้อมจะสนับสนุนและสร้างอนาคตร่วมกันกับท่าน" ลั่วชิงเหยียนมองลึกเข้าไปในดวงตาของหลิ่วหยินเฟิง
หลิ่วหยินเฟิงเองก็มองจิ้งอ๋องอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วยิ้ม "แต่หม่อมฉันหลิ่วหยินเฟิงไม่รู้ว่าไม้ที่ดีเป็นอย่างไร หม่อมฉันรู้จักแค่เพียงความภักดีและยึดมั่นในอุดมการณ์ตราบจนชั่วชีวิต"
"งั้นหรือ?" ลั่วชิงเหยียนทำเสียงเศร้า "ช่างน่าเสียดายจริงๆเลยนะ"
หลิ่วหยินเฟิงหัวเราะ "จิ้งอ๋องเลิกอ้อมค้อมกับหม่อมฉันได้แล้ว เสียเวลาเปล่า พระชายาของพระองค์ถูกหม่อมฉันลวงไปอีกทางหนึ่งแล้ว คงจะมาช่วยพระองค์เอาไว้ไม่ทัน ก่อนที่หม่อมฉันจะไล่ตามพระองค์มา หม่อมฉันก็ได้ทำสิ่งสิ่งหนึ่ง คือสั่งให้คนโบกธงโห่ร้องอยู่ที่ตีนเขา ป่าวประกาศว่าจิ้งอ๋องคือคือองค์ชายแห่งแคว้นเซี่ย เป็นหนอนบ่อนไส้ที่พวกเราส่งเข้าไปสอดแนมความเคลื่อนไหวของแคว้นหนิง......"
เมื่อจิ้งอ๋องได้ฟังก็ตกใจเล็กน้อย เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น เขายิ้มออกมา "ช่างน่าเสียดายจริงๆ เดิมทีข้ามีคำพูดบางคำอยากพูดกับนาง แต่ดูแล้ว คงจะหมดโอกาสเสียแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง