หยุนชางไม่แน่ใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร นางมองจิ้งอ๋อง แต่ก็เห็นเขายกหนังสือขึ้นมาบังไว้แล้วเดินไปเอนกายลงบนเบาะ "ยาเย็นแล้ว เจ้าเอาไปอุ่นด้วยตนเองแล้วค่อยนำมาให้ข้า"
"..." หยุนชางพูดไม่ออกได้แต่พึมพำเสียงเบา "เอาแต่ใจ!" แต่นางก็ยกชามยาพลางยิ้มแล้วเดินออกไป
หลังจากรอให้จิ้งอ๋องดื่มยาเสร็จก็ได้เวลาพักผ่อนแล้ว หยุนชางปรนนิบัติจิ้งอ๋องอาบน้ำเรียบร้อยแล้วจึงเรียกเฉี่ยนอินเข้ามาทำความสะอาด จากนั้นนางจึงอาบน้ำบ้าง เมื่อออกจากห้องสรงมาก็เห็นจิ้งอ๋องนอนอยู่บนเตียงแล้ว
หยุนชางยิ้มเดินไปที่เตียง ถอดรองเท้าแล้วล้มตัวลงนอน "วันนี้ท่านคุยอะไรกับเสด็จพ่อในตำหนักฉินเจิ้งหรือ? เขา...รู้ตัวตนของท่านแล้วทำให้ท่านลำบากหรือเปล่า?"
จิ้งอ๋องเอื้อมมือไปคว้าหยุนชางมากอดไว้ในอ้อมแขน หยุนชางได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ และหน้าอกของเขาที่กำลังสั่นอยู่ "เขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิเซี่ยมีท่าทีเช่นไรหลังจากรับรู้ถึงการมีอยู่ของข้าจึงยังไม่คิดทำอะไรข้าชั่วคราว นอกจากนี้ข้ายังมีเงื่อนไขกับเขาข้อหนึ่ง ตอนนี้แคว้นหนิงไม่มีแม่ทัพที่มีฝีมือนัก นอกจากนี้เรื่องของหลี่จิ้งเหยียนเพิ่งจบลงและทางเหนือยังคงทำสงครามกับแคว้นเย้หลางอยู่ ความสูญเสียนั้นไม่น้อยเลย ตอนนี้ก่อนที่เขาจะทำอะไร เขาต้องชั่งน้ำหนักเป็นอย่างมาก แม้ว่าบางครั้งข้าจะดูแคลนเสด็จพ่อของเจ้าอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขามีคุณสมบัติเป็นจักรพรรดิ อย่างน้อยเขาก็รู้วิธีหาผลประโยชน์จากความสัมพันธ์เหล่านี้"
หยุนชางเงียบไปอยู่นาน ในใจรู้สึกอึดอัด นางคิดในใจว่าเสด็จพ่อเป็นจักรพรรดิที่ใช้ได้ แต่เขาไม่ใช่สามีและพ่อที่ดีเลย หากได้เป็นจักรพรรดิแล้ว ผู้ชายทุกคนก็จะกลายเป็นแบบนี้หรือไม่? อาจารย์ชิงชางบอกว่านางมีดวงชะตาได้เป็นฮองเฮา แต่ไม่รู้ว่าหากจิ้งอ๋องได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์แล้วจะเป็นเหมือนเสด็จพ่อของนางหรือไม่ วังหลังสาวงามมากมายล้วนรักไปหมดเสียทุกคน
ราวกับว่าจิ้งอ๋องจะเข้าใจว่าหยุนชางคิดอะไรอยู่ เขายิ้มเล็กน้อยแล้วกระซิบที่หูของหยุนชางว่า "สิ่งที่ข้าพูดในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการพูดเล่นๆ เท่านั้น ปีนี้ข้าอายุยี่สิบแปดปีแล้ว เรื่องต่างๆ ก็พอมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง แค่มีเจ้าก็พอแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม อย่าได้พูดล้อเล่นเช่นนั้นอีกเด็ดขาด ข้าไม่ชอบใจเลย"
หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปอยู่นานแล้วจึงพยักหน้าอย่างแรงและฝังศีรษะของนางเข้าไปในอ้อมแขนของจิ้งอ๋อง ในใจของนางเต็มไปด้วยคลื่นแห่งความอ่อนโยนจนนางแทบจะจมลงไป หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่นางจึงระงับความแสบที่ปลายจมูกของนางได้ หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองจิ้งอ๋อง ดวงตาของนางเปล่งประกาย "ท่านอ๋อง ท่านเคยบอกว่าเมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว ท่านกับข้าจะเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ท่านอ๋อง พวกเรามาเข้าหอกันเถอะ!"
จิ้งอ๋องตะลึงงันและใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้สติคืนกลับมา แต่เส้นเลือดที่หน้าผากเขากลับกระตุกเล็กน้อย "หนิงหยุนชาง เจ้ากำลังเล่นตลกกับข้าอยู่ใช่หรือไม่? เจ้าก็รู้ว่าข้าบาดเจ็บอยู่และแทบไม่มีแรงด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับบอกข้าว่าเจ้าอยากเข้าหอกลับข้างั้นหรือ? หือ?"
"หือ?" คำสุดท้ายนั้นดังก้องไปมา หยุนชางรับรู้ได้ถึงอารมณ์สุขโกรธเศร้าดีใจที่ผสมปนเปกันไป บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์นั้นรุนแรงเกินไป หยุนชางจึงอึ้งไปอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างขลาดๆ "หา? ข้าลืมไปว่าท่านได้รับบาดเจ็บจนไม่ไหวแล้ว..."
ก่อนที่จะพูดจบหยุนชางก็เห็นสายตาของจิ้งอ๋องแฝงไปด้วยแววอันตราย "หนิงหยุนชาง เจ้ากล้าล้อเล่นกับข้างั้นหรือ เจ้ากล้าบอกว่าข้าไม่ไหว ดูแล้วหากข้าไม่ทำตามความปรารถนาของเจ้าในวันนี้แล้ว เจ้าคงจะไม่หยุดท้าทายความอดทนของข้าแน่"
ก่อนที่หยุนชางจะทันได้ตั้งตัว นางก็ถูกปิดปากและส่งเสียงอู้อี้อยู่นานก็ยังไม่มีโอกาสได้เอ่ยปากอธิบาย สุดท้ายนางจึงได้แต่เลิกต่อต้านลงอย่างเงียบๆ ผ่านไปสักพักจิ้งอ๋องจึงได้ยอมปล่อยนาง หยุนชางมองจิ้งอ๋องอย่างงุนงง แต่กลับเห็นภาพตัวเองในสายตาของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง