ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 345

จักรพรรดิหนิงได้ยินดังนั้น พลันตะตะลึงอยู่นาน จึงโบกมือแล้วกล่าวออกมาว่า "เจ้าให้เวลาเจิ้นได้ครุ่นคิดสักหน่อยเถิด"

หยุนชางมิได้รีบร้อนอันใด นางพยักหน้าลง แล้วจึงหันกายเดินออกจากตำหนักฉินเจิ้ง ทว่าริมฝีปากกลับแย้มยิ้มเล็กน้อย เสด็จพ่อของนางกำลังชั่งใจเปรียบเทียบทุนและกำไรอยู่ มิเช่นนั้นเขาคงจะตอบตกลงนานแล้ว เมื่อส่งเรื่องให้องครักษ์เงาจัดการแล้วล่ะก็ อีกไม่นานข่าวคงจะไปถึงหนิงหัวจิ้งโดยเร็ว เพื่อแจ้งข่าวว่าหลี่อี้หรานจากไปแล้ว หากนางรู้ว่าหลี่อี้หรานทำใจไม่ได้เพราะพระราชโองการแต่งตั้งฮองเฮาของจักรพรรดิหนิงและตายจากไปล่ะก็ หัวจิ้งจะทำเช่นไรกัน?

นางรู้จักนิสัยของหัวจิ้งเป็นอย่างดี แม้ว่าหลี่อี้หรานจะปฏิบัติต่อนางไม่ดีสักเท่าไหร่ หากแต่นางก็สั่งสอนหนิงหัวจิ้งด้วยใจเสมอมา ตามนิสัยของหนิงหัวจิ้งแล้วนั้น เกรงว่าจิ่งเหวินซีคงจะมิได้อยู่ดีนักหรอก

หนิงหัวจิ้งจึงกลายเป็นแพะรับบาปที่ดีที่สุด

เมื่อกลับมาถึงวังจิ้งอ๋องแล้วนั้น นางมีเรื่องที่ต้องหารือพูดคุยกับจิ้งอ๋องไม่น้อยเลย จิ้งอ๋องพลางมองนางด้วยรอยยิ้ม "ดูเหมือนว่าในพระราชวังวันนี้ เสนาบดีจิ่งคงจะตั้งป้อมต่อเจ้าไม่น้อยเลย ทำไมเจ้าถึงต้องการให้ท่านเจ้าอาวาสอู๋น่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเล่า ? เพียงไปซื้อตัวปรมาจารย์หลิวซวีมาก็พอแล้วมิใช่หรือ ?"

หยุนชางพลันยิ้มออกมาเล็กน้อย "แน่นอน ว่าต้องทำให้สองพ่อลูกตระกูลจิ่งนั้นสับสน พวกเขาเพียงคิดว่า หม่อมฉันจะต้องให้เจ้าอาวาสอู๋น่ามาทำลายแผนการพวกเขาเป็นแน่ จึงให้ท่านเจ้าอาวาสอู๋น่าพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลออกมา หากแต่คนทั่วไปคงรู้ว่า. ระหว่างท่านเจ้าอาวาสอู๋น่ากับปรมาจารย์หลิงซวีนั้นเป็นเหมือนดั่งน้ำกับไฟที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ พบหน้ากันครั้งใดล้วนแต่ชักดาบใส่กันตลอด แม้ว่าหม่อมฉันจะมีความสัมพันธ์อันดีกลับเจ้าอาวาสอู๋น่า หากแต่ปรมาจารย์หลิงซวีคงมิตั้งตนเป็นปรปักษ์กับหม่อมฉันมากนัก ฉะนั้น หากเป็นดั่งที่พ่อลูกตระกูลจิ่งพูดไว้แล้ว ทุกอย่างล้วนปลอดภัยเป็นอย่างมาก พวกเขาเพียงแค่ต้องคิดหาทางจัดการกับท่านเจ้าอาวาสอู๋น่าเพียงเท่านั้น"

"โอ้ ?" จิ้งอ๋องพลางเลิกคิ้วขึ้น"จากที่เจ้าพูดหวางเฟยก็สนิทสนมกับปรมาจารย์หลิงซวีงั้นหรือ? "

หยุนชางยิ้มออกมาเล็กน้อย "แม้หม่อมฉันจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้าง หากแต่หม่อมฉันยังมิเคยได้พบตัวจริงเลยสักครา จึงพูดถึงความสัมพันธ์อันดีมิได้ "

จิ้งอ๋องพลันเหม่อลอยไปชั่วครู่ "อื้ม ? ทำไมหวางเฟยจึงดูมั่นใจนักเล่า ?"

"ความลับเพคะ " หยุนชางพลางหัวเราะเสียงดังออกมา พลันถูกจิ้งอ๋องกระชากให้มานั่งบนตั่ง หยุนชางยังมิทันได้สติกลับมา กลับถูกจิ้งอ๋องพลิกตัวลง พร้อมกดนางลงไปอยู่ใต้ร่างเขาเสียแล้ว "หวางเฟยมีความความลับต่อเปิ่นหวางงั้นหรือ ได้ เมื่อวานก่อนเราทั้งสองกำลังพูดถึงแผนจำลองการรบบนกระบะทรายอยู่ กลับถูกอะไรบางอย่างรบกวนเข้า"

จิ้งอ๋องพูดถึง "อะไรบางอย่าง "ด้วยน้ำเสียงเนิบ ๆ อีกทั้งยังจงใจจ้องมองไปยังหยุนชางด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หยุนชางที่ได้เห็นดังนั้น ใบหน้าพลันเห่อร้อนขึ้นมา จิ้งอ๋องจึงหัวเราะเสียงเบา ๆ พร้อมบอกว่า "เปิ่นหวางจำได้ว่า ผลการต่อสู้ ยังมิทันได้สรุปผลแพ้ชนะเลย มิเช่นนั้นหวางเฟยมาช่วยเปิ่นหวางเล่นแก้เบื่อเป็นอย่างไร ?"

หยุนชางขมวดคิ้ว พลันถอนหายใจออกมา แต่เดิมจิ้งอ๋องมิได้เป็นคนเช่นนี้มิใช่หรือ นางรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก หากได้เห็นตอนนี้แล้ว อดไม่ที่จะถอนหายใจออกมา อีกแล้ว อีกแล้วหรือ

ยังมิทันจะได้ตอบรับ จิ้งอ๋องพลันอุ้มหยุนชางขึ้นมา แล้วเดินไปที่เตียง พลางยิ้มแล้วกล่าวว่า "วันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้กระบะทราย หากแต่วางลงบนตัวหวางเฟยเป็นอย่างไร ทั้งภูเขา ที่ราบ เชิงเขา ป่าไม้ หวางเฟยลองคิดดู เปิ่นหวางจักต้องข้ามภูเขาผ่านที่ราบ อีกทั้งยังต้องเข้าไปในป่าลึกอีก"

หยุนชางได้ฟังราวกับกำลังจะสำลักน้ำตาย ลั่วชิงเหยียนผู้นี้ มิใช่ว่าเป็นบุคคลที่ราษฏรบอกเล่าว่าเป็นเทพเจ้าสงครามที่โหดเหี้ยมและเย็นชาเป็นที่สุดหรอกหรือ ? เหตุใดจึงพูดเรื่องลามกอนาจารได้หน้าไม่อายเช่นนี้

ทว่าจิ้งอ๋องก็ไม่สามารถทำตามในสิ่งที่เขาต้องการได้ เมื่อพูดถึงการสำรวจภูเขานั้นพลันได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากข้างนอกดังเข้ามา จิ้งอ๋องขมวดคิ้วด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า "ให้ตายสิ ว่ามา. เกิดอะไรขึ้น ?"

"อื้ม" หยุนชางนิ่งไปสักพัก ที่จริงแล้วในตอนที่อยู่เมืองจิ้งหยางนั้น นางก็รู้ได้ทันทีว่าจักรพรรดิแคว้นเซี่ยนั้นล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของจิ้งอ๋องแล้ว จะอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องมาตรวจสอบด้วยตนเองเป็นแน่ "ท่านจะจัดการอย่างไร ?"

ภายในแววตาจิ้งอ๋องนั้น เต็มไปด้วยความสับสน เขาส่ายหน้าเบาๆ พร้อมพูดว่า "ข้ายังมิได้เตรียมการอันใด ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางที่ควรจะเป็นเถิด"

หยุนชางมิได้พูดอันใดออกมา นางรู้ว่าจิ้งอ๋องเป็นคนที่ทำอะไรล้วนแต่ตั้งใจเสมอ แม้ปากจะบอกว่าให้เป็นไปตามทาง เกรงว่าเขาคงจะตระเตรียมการเรียบร้อยไว้หมดแล้ว จึงมิจำเป็นต้องกังวลเรื่องใดอีก

แม้ตอนนี้หลี่อี้หรานจะตายไปแล้ว เหลือแต่เพียงหัวจิ้งเท่านั้น หยุนชางพลันหลี่ตาลง หากแต่หนิงหัวจิ้งนั้น ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง นางไม่รีบไม่ร้อน พร้อมจะค่อย ๆ บดขยี้มันไปช้า ๆ

รอจนกว่าจะจัดการกับจิ่งเหวินซีเสร็จ แล้วจึงค่อย ๆ ปูทางให้เสด็จแม่และเฉินซี นางคงจะไม่มีเรื่องให้กังวลอะไรในแคว้นหนิงมากนัก เมื่อแต่งให้สามีก็ต้องเชื่อฟังสามี นางพร้อมที่จะเดินตามจิ้งอ๋องไปทุกที่

หยุนชางพลันยิ้มออกมา "ไม่เป็นไร ไม่ว่าท่านจะเลือกอะไร หม่อมฉันก็พร้อมที่จะสนับสนุนท่านเสมอ"

จิ้งอ๋องพลางเงยหน้ามองหยุนชาง เพียงรู้สึกว่าภายใต้แสงไฟสีนวลที่ส่องมานั้น สตรีที่อยู่ตรงหน้านางสวยกว่าสิ่งใดบนโลกนี้เสียอีก ภายในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแวววับ จิ้งอ๋องยิ้มพลางยกมือขึ้นลูบไรผมของนาง พร้อมกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ ว่า "ข้าคิดดูแล้ว สิ่งที่ข้าต้องการที่สุดคือการให้เจ้ามีลูกให้กับข้า เจ้าพร้อมหรือไม่ ?"

หยุนชางพลันตกตะลึง พลางเลิกคิ้วขึ้น จ้องมองไปยังจิ้งอ๋อง ข้างใต้โต๊ะนั้น นางค่อย ๆ ยกเท้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเหยียบไปที่เท้าของจิ้งอ๋องอย่างเต็มแรงว่า "เปิ่นหวางเฟยขอพูดกับท่านตามตรง ท่านช่วยจริงจังหน่อยได้ไหมเล่า หากหม่อมฉันรู้ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้ หม่อมฉันจะไม่แต่งให้ท่านเป็นแน่ !"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง