ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเฉี่ยนอินรายงานเข้ามา "ท่านอ๋อง พระชายา จิ่งเหวินซีมาทางนี้แล้วเพคะ"
หยุนชางงุนงง "เจ้าไม่ได้บอกข้าว่านางมักจะเข้าออกทางประตูหน้าเป็นประจำหรอกหรือ? พวกเราก็เลยมารออยู่ที่ประตูหลังแทน เหตุใดวันนี้จึงมาทางประตูหลังเสียล่ะ?"
เฉี่ยนอินเองก็รู้สึกสับสน นางตอบกลับเสียงอ่อน "ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเห็นนางใช้ประตูหน้าจริงๆนะเพคะ มาวันนี้หม่อมฉันเองก็ไม่รู้"
แต่ว่าตอนนี้หาใช่เวลาที่จะมาตำหนิกันเอง หยุนชางจ้องมองหญิงสาวที่สวมผ้าคลุมหน้าผืนบางๆ สวมชุดสีชมพูค่อยๆเดินมา ที่ตรงนี้ก็มีคนอยู่เพียงไม่กี่คน หยุนชางและจิ้งอ๋องแม้จะแต่งตัวไม่ได้โดดเด่นในวันนี้ แต่ก็อาจเป็นที่สังเกตของสายตาบางคู่ได้
จิ้งอ๋องครุ่นคิดแล้วจูงหยุนชางออกไปจากบริเวณนั้น เขาพานางเดินห่างออกไป
หยุนชางรู้ว่าจิ้งอ๋องคิดอย่างไร จิ่งเหวินซีหากต้องการเข้าไปในหอเฉียนสุ่ย จะต้องเดินผ่านจุดที่จิ้งอ๋องเคยนั่งรินน้ำชา เมื่อถึงตอนนั้นก็จะถูกสงสัยเอาได้ จึงรีบเดินออกมาให้ห่างจากจุดเดิมไว้ก่อน แล้วอีกประเดี๋ยวก็ค่อยย้อนกลับมาดู
แต่ในขณะที่กำลังก้าวเดินไปไม่ถึง 10 ก้าว ก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังแว่วมา ฟังดูคล้ายเสียงคนเปิดประตู หลังจากนั้นก็เป็นเสียงล้อรถม้าค่อยๆเคลื่อนตัว
หยุนชางรู้สึกสงสัย จุดที่นางเดินผ่านมาเห็นๆอยู่ว่าไม่มีรถม้า หรือว่าคนจากในหอเฉียนสุ่ยออกมากันแล้ว? เมื่อเฉี่ยนอินมาถึง ก็เลยมีรถม้าออกมา ผู้ที่ออกมาคือใครกันแน่นะ? หัวจิ้ง? หรือจะเป็นชางเจียคังหนิง?
หยุนชางใคร่รู้ยิ่งนัก นางจึงพยายามแอบดู ก็ได้เห็นว่ามีรถม้าขับผ่านออกมาจากหอเฉียนสุ่ยจริงๆ รถม้ามิได้หรูหรามากนัก ลักษณะคล้ายรถม้าของคนทั่วๆไป รถม้าขับผ่านหน้าหยุนชางไป นางมองไม่เห็นว่าผู้ที่อยู่ในรถม้านั่นคือผู้ใด เห็นแค่เพียงชายผ้าสีชมพูปลิวสะบัดอยู่ที่รถม้า
หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงสารถีฟาดแส้ลงบนหลังม้า ม้าก็รีบผละออกไปในทันที
เมื่อเห็นรถม้าลับตาไปแล้ว หยุนชางและจิ้งอ๋องก็พากันกลับมายังจุดที่จิ้งอ๋องเคยรินน้ำชา ผู้ที่อยู่ด้วยกันตรงนั้นก็มีเพียงสายลับของจิ้งอ๋อง เขารายงานต่อจิ้งอ๋องว่า "รถม้านั่นเปิดแง้มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย หม่อมฉันมองไม่เห็นว่าผู้ใดอยู่ในรถม้า เห็นเพียงแค่ชายผ้าสีชมพูพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางพยักหน้า สีชมพู ลำพังเพียงแค่สีของชายเสื้อคงจะบอกได้ยากว่าคนในรถม้านั่นคือผู้ใด
จิ้งอ๋องเดินมาสำรวจที่ประตู เขาตรวจสอบร่องรอยการเคลื่อนไหวของรถม้าแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "คงจะเป็นชางเจียคังหนิง"
"ชางเจียคังหนิง?" หยุนชางครุ่นคิด "พระองค์รู้ได้อย่างไรเพคะ? ตามหลักแล้ว จิ่งเหวินซีก็สนิทสนมกับหัวจิ้งมาก เหตุใดจู่ๆนางจึงออกไปกับชางเจียคังหนิงล่ะเพคะ?"
จิ้งอ๋องยิ้ม แล้วชี้ไปที่รอยล้อเกวียนของรถม้าที่อยู่บนพื้น "ดูจากร่องรอยตรงจุดนี้ที่ดูหนักแน่น ข้าพอจะเดาน้ำหนักตัวของผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าได้ ดูแล้วคงจะไม่ใช่หัวจิ้ง แม้นางจะกำลังตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่น่าจะใช่นางอยู่ดี"
หยุนชางรู้ดีว่าสิ่งที่จิ้งอ๋องกล้าพูดออกมา ย่อมหมายความว่าเขาพินิจพิเคราะห์ทุกอย่างดีแล้ว นางมองไปที่ประตูหอเฉียนสุ่ยแล้วเกิดความลังเล "ในเมื่อชางเจียคังหนิงได้ออกไปแล้ว ผู้อารักขาประจำหอเฉียนสุ่ยก็คงจะติดตามเขาไปจำนวนหนึ่ง หากจะแอบเข้าไปข้างในตอนนี้ก็ถือว่ามีโอกาสสำเร็จสูง แต่ว่า หากเข้าไปได้แล้ว หม่อมฉันกับหัวจิ้งก็ไม่มีเรื่องใดที่ต้องเจรจากัน ตอนนี้หม่อมฉันอยากไปดูว่าจิ่งเหวินซีออกไปทำอะไรกับชางเจียคังหนิงที่ด้านนอกเพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง