จิ่งเหวินซีพยักหน้าและเดินไปนั่งที่ศาลาในอุทยานหลวง มีคุณหญิงอยู่สองสามคนซึ่งเดิมนั่งอยู่ในศาลาเดิมทีถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีของจิ่งเหวินซี แต่เมื่อจิ่งเหวินซีเดินเข้าไปหาพวกนาง พวกนางก็เดินออกจากศาลาไป จิ่งเหวินซีก็นั่งที่ศาลาราวกับว่าไม่เห็นภาพนั้น จากนั้นก็จ้องมองไปที่ทะเลสาบ
หยุนชางหยุดเดิน นางสะดุดกะทันหันขณะที่เดินขึ้นบันไดของศาลา หยุนชางได้ยินเสียงอุทานดังมาจากข้างหลังว่า " พระชายาระวังเพคะ"
ในขณะที่นางกำลังจะล้มลงบนพื้น หยุนชางก็รีบคว้าแขนของจิ่งเหวินซีเอาไว้อย่างรวดเร็วและพยายามยืนขึ้นจนได้ แต่ดูเหมือนว่านางจะตกใจเล็กน้อย นางจับมือจิ่งเหวินซีไว้ไม่ยอมปล่อย
จิ่งเหวินซีขมวดคิ้ว แววตาของนางมองไปที่มือของหยุนชางที่จับแขนของนางอยู่
หยุนชางยืนนิ่งแล้ว จากนั้นก็ตกตะลึง แล้วจึงปล่อยมือของจิ่งเหวินซีไป และยิ้มด้วยความเก้อเขิน "ขออภัยนะ อาจเป็นเพราะว่ามีน้ำแข็งอยู่บนพื้น พื้นจึงลื่นเกินไปข้ายืนไม่อยู่"
"พระชายาทรงมากพิธีเกินไปเพคะ" จิ่งเหวินซีขมวดคิ้ว แต่นางก็แค่กล่าวอย่างสุภาพ
หยุนชางสั่งให้คนนำขนมมา และย้ายเตาชาเข้ามาแล้วเริ่มชงชา เฉี่ยนอินนำถ้วยชาไปลวกน้ำร้อนแล้ววางลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็หยิบชาสุกมาแล้วทุบเป็นชิ้นเล็ก ๆ วางในเตาชาแล้วต้ม
หยุนชางมองดูเปลวไฟที่ลุกโชนในเตาชา นางอมยิ้มเล็กน้อย และมองดูชุดสีแดงของจิ่งเหวินซี จ้องมองไปที่นาง "ชุดของแม่นางจิ่งในวันนี้ค่อนข้างไม่เหมาะสมเท่าไหร่ วันนี้เป็นวันที่เสด็จพ่อแต่งตั้งฮองเฮา ฉะนั้นในพระราชวังนี้นอกจากเสด็จพ่อและหย่าผินเหนียงเหนียงที่กำลังจะได้เป็นพระราชินีแล้ว คนอื่นๆ ไม่เหมาะสมที่จะสวมชุดสีแดงเช่นนี้ ข้ายังมีเสื้อผ้าอยู่ในวังอยู่บ้าง หากแม่นางจิ่งไม่รังเกียจ ก็ลองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในตำหนักที่ข้าอาศัยก่อนอภิเษกสมรสดีหรือไม่?"
จิ่งเหวินซียิ้มเยาะเย้ย "ฝ่าบาทมิได้ออกพระราชโองการว่าวันนี้ห้ามคนอื่นๆ สวมชุดสีนี้เพคะ"
เมื่อได้ยินจิ่งเหวินซีกล่าวเช่นนี้ หยุนชางก็ไม่แยแส นางยิ้มอย่างเฉยชา ในเมื่อนางไม่ยอมไปเปลี่ยน แสดงว่านางต้องมีจุดมุ่งหมายบางอย่าง นางอยากจะรอดู ว่านางคิดอยากจะทำกระไรในวันนี้
หยุนชางไม่มีอะไรจะพูดกับจิ่งเหวินซีแล้ว นางนั่งที่นี่เพียงเพื่อรอดูว่าจิ่งเหวินซีจะเล่นกลอะไรกันแน่ ทั้งสองนั่งอย่างเงียบ ๆ ได้ยินเพียงแต่เสียงน้ำเดือดดัง "ปู้ดปู้ด"ในเตาชา และมีเสียงสนทนาเบา ๆ ดังเข้าหูหยุนชางจากที่ไม่ไกลมากนัก
"ข้าได้ยินมาว่าพระชายาไม่ถูกกับนางปีศาจที่ทำบ้านเมืองล่มจมนั้นมาตลอด นางปีศาจนี้ยังเคยจะยั่วยวนท่านจิ้งอ๋องมาก่อน เพียงแต่ว่าท่านจิ้งอ๋องกับพระชายานั้นรักกันอย่างมาก นางปีศาจนั้นจึงไม่สำเร็จ ตอนนี้นางเสียตำแหน่งฮองเฮาไปแล้ว นางจึงคิดจะลงมือกับพระชายาหรือ?"
หยุนชางเห็นปฏิกิริยาของจิ่งเหวินซี นางทำเสียง "หึ" อย่างไม่สบอารมณ์ รอยยิ้มบนหน้าของนางก็ค่อยๆ เย็นชาลง
"พระชายางดงามอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีนิสัยที่อ่อนโยนอีกด้วย นางสุภาพและอ่อนโยนต่อทุกคน ส่วนจิ่งเหวินซีนั้นนับว่าเป็นหญิงงาม แต่จิตในโหดเหี้ยม ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินข่าวมาว่านางคิดจะปองร้ายต่อองค์ชายน้อย หากว่าข้าเป็นท่านจิ้งอ๋องล่ะก็ ข้าก็คงเลือกพระชายาจิ้งเช่นกัน"
"ได้ข่าวมาว่าแม่หญิงจิ้งนั้นเดิมทีเป็นคนสนิทขององค์หญิงหัวจิ้งนะ ไม่น่าแปลกใจเลย คนศีลเสมอกันคงอยู่ร่วมกันได้กระมั้ง องค์หญิงหัวจิ้งนั้นไม่รักนวลสงวนตัว จิ่งเหวินซีก็คงไม่ต่างอะไรกับนางมากหรอก" คำพูดเหล่านี้ถือเป็นการดูหมิ่นอย่างยิ่ง หยุนชางหัวเราะเบาๆ แน่นอนว่านางทราบว่านี่คือเสียงของหวังจินเหยียน
จิ่งเหวินซีมิได้สนใจกระไร นางเพียงแต่นั่งเงียบๆ
เฉี่ยนอินต้มชาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็นำชามาถวายสองแก้ว หยุนชางกล่าวเบาๆ ว่า " แม่นางจิ่ง เชิญดื่มชา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง