เฉี่ยนอินก็รีบกล่าวว่า "เมื่อวานนี้ขณะที่กลับจากพระราชวัง พระชายาเจอผู้ลอบสังหารระหว่างทางเพคะ เหล่าสายลับนั้นถูกล่อไปที่อื่นแล้ว ตอนนั้นเหลือเพียงแต่พระชายาและคนขับรถม้าเพียงสองคนเท่านั้นเพคะ คนขับรถม้าพยายามปกป้องพระชายาให้หนีไปได้ พระชายาจึงรีบหนีและโดนมือสังหารแทงเข้าที่แขนเพคะ แผลนั้นลึกมากเพคะ"
"หมอหลวงได้ตรวจดูหรือยัง?" ดวงตาของจิ่นกุ้ยเฟยมีน้ำตาออกมาเล็กน้อย นางกล่าวอย่างเร่งรับ
หยุนชางกำลังจะตอบรับ จากนั้นก็ได้ยินเสียงของจักรพรรดิหนิงดังมาจากนด้านนอก " หมอหลวงอะไรกัน? ใครไม่สบายหรือ?"
ทุกคนในตำหนักหยุดพูดในทันที จากนั้นก็ยืนขึ้นและถวายบังคม
จักรพรรดิหนิงกล่าวว่า "นั่งได้" จากนั้นก็เดินไปประทับที่ที่นักหลัก และถามอีกครั้งว่า " เหตุใดพวกเจ้าจึงพูดถึงหมอหลวง? ใครไม่สบายหรือ?"
จิ่นกุ้ยเฟยมิได้เอ่ยปาก หยุนชางก็ไม่พูดกระไรเช่นกัน แต่หลิวชิงหย่ายิ้มเบา ๆ และชำเลืองมองสีหน้าของหยุนชางและพูดเบา ๆ ว่า "เมื่อวานนี้พระชายาถูกลอบสังหารในระหว่างทางที่กลับจวนเพคะ และได้รับบาดเจ็บที่แขน เหมือนว่าแผลนั้นลึกมากเพคะ"
เมื่อจักรพรรดิหนิงได้ยินเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้ว จากนั้นจึงหันไปมองหยุนชาง "เป็นเช่นนี้จริงหรือ?"
หยุนชางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้ายอมรับ "ใช่เพคะ แต่ว่าท่านอ๋องได้สั่งให้หมอหลวงมาดูอาการแล้วเพคะ"
"เรียกหมอหลวงท่านไหนไปหรือ?" จักรพรรดิหนิงถามอีกครั้ง แต่หยุนชางยังไม่ทันได้ตอบ เขาก็พูดต่อว่า "ท่านหมอใหญ่ของสำนักหมอหลวงเข้าเวรวันนี้พอดี เมื่อสักครู่เจิ้นก็ได้ตามตัวเขามาพบเช่นกัน หัวหน้าเจิ้ง เจ้าไปตามท่านหมอใหญ่หลิวมา"
หยุนชางรีบกล่าวว่า "เป็นเพียงแผลเล็กๆ ก็เท่านั้นเองเพคะ ไม่เป็นกระไรมากหรอกเพคะ"
"บาดเจ็บเล็กน้อยหากไม่ดูแลให้ดี รักษาช้าไปก็จะกลายเป็นโรคหนัก เสด็จแม่ของเจ้าเป็นห่วงอย่างมาก ฉะนั้นก็ให้ท่านหมอใหญ่หลิวตรวจดูหน่อยก็แล้วกัน" จักรพรรดิหนิงพูดอย่างเฉยเมย แววตาของเขามองไปที่ใบหน้าของหยุนชาง จากนั้นก็มองไปที่จิ่นกุ้ยเฟย " เฉินซีอยู่ที่ใด?"
จิ่นกุ้ยเฟยหันไปกล่าวต่อนางกำนัลว่า "ไปอุ้มองค์ชายน้อยออกมาเถิด"
นางกำนัลตอบกลับอย่างรวดเร็ว และเดินเข้าไปในห้องโถงชั้นใน หลังจากนั้นไม่นานก็อุ้มเฉินซีออกมา เฉินซีกำลังหลับอยู่ จักรพรรดิหนิงยิ้มและรับเขามาจากอ้อมแขนของแม่นม และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เจ้าตัวน้อยเอาแต่กินแล้วก็นอน เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าตัวหนักขึ้นทุกที?"
หลิวชิงหย่าอมยิ้มเล็กน้อย และมองไปที่เฉินซีด้วยรอยยิ้ม และพูดเบา ๆ ว่า "ตอนนี้องค์ชายน้อยอยู่ในวัยกำลังโตเพคะ เมื่อตอนกลับมาที่วังครั้งแรก เขาดูคล้ายกับจิ่นกุ้ยเฟยอย่างมาก แต่ตอนนี้เมื่อโตขึ้นบ้างแล้ว ตาและคิ้วดูคล้ายกับฝ่าบาทอย่างมากเลยเพคะ เพียงแต่ว่าปากน้อยๆ นั้นเหมือนกับจิ่นกุ้ยเฟยมากที่สุดแล้วเพคะ"
เมื่อจักรพรรดิหนิงได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะลั่น และทำให้เฉินซีที่อยู่ในอ้อมแขนตื่นขึ้นมา เขาลืมตาขึ้นและกำลังจะร้องแล้ว แต่เมื่อเห็นจักรพรรดิหนิงยิ้มอย่างมีความสุข เขาก็ลืมที่จะร้องไห้ทันที ดวงตาน้อยๆ นั้นเบิกกว้างและมองจ้องไปที่จักรพรรดิหนิง
หยุนชางมองจิ่นกุ้ยเฟยที่เย็นชาต่อจักรพรรดิหนิง นางก็แอบถอนหายใจ คำว่ารักที่มันยากที่จะเข้าใจจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง