เมื่อพูดจบ หนิงเชียนก็ยืนนิ่งพลางมองไปที่ฮองเฮา แล้วสะบัดหน้าหนี
ฮองเฮาพิโรธมาก "เจ้ากำลังจะทำให้คนในตำหนักเจ้าต้องเดือดร้อน"
หนิงเชียนได้ฟังดังนั้นก็ยิ้ม "ฮองเฮาตรัสถูกต้องแล้วเพคะ" พูดจบ นางก็ควานไปใต้แขนเสื้อแล้วหยิบตุ้มหู 1 คู่กับเงินออกมา 1 ก้อน "ไม่กี่วันก่อน หม่อมฉันเห็นว่าคนในตำหนักเซียงจู๋ชักจะเจริญไมตรีกับคนตำหนักอื่นมากเป็นพิเศษ ตุ้มหูและเงินนี้ หม่อมฉันไปได้มาจากตัวของจูเอ๋อร์ อย่างที่หม่อมฉันเคยพูดไปว่า ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในตำหนักของหม่อมฉันล้วนได้มาจากกรมวัง ของพวกนี้จึงมิใช่ของของตำหนักเซียงจู๋เพคะ หม่อมฉันเองก็ไม่ทราบว่าของพวกนี้นั้นมาจากไหน และเหตุใดจึงมาอยู่ที่ตัวจูเอ๋อร์ได้ หรือจะมีผู้ใดสั่งการให้จูเอ๋อร์ทำอะไรบางอย่าง? จูเอ๋อร์ ไหนเจ้าลองว่ามาซิ ของพวกนี้เจ้าไปได้มาได้อย่างไร?"
จูเอ๋อร์ตัวสั่นงันงก นางค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองฮองเฮา แล้วรีบกราบทูล "หม่อมฉันจะพูดเองเพคะ หม่อมฉันจะพูดออกมาให้หมดทุกสิ่งทุกอย่างเลย หย่านู๋เพคะ ของพวกนี้หย่านู๋เป็นผู้มอบให้กับหม่อมฉัน และยังมีผงยาพิษนั่นอีกที่หย่านู๋เป็นผู้มอบให้ หย่านู๋ยังบอกหม่อมฉันด้วยว่า ขอเพียงช่วยให้งานของฮองเฮาสำเร็จลุล่วง ภายภาคหน้าฮองเฮาคงจะช่วยให้หม่อมฉันได้เลื่อนตำแหน่งได้เป็นแน่เพคะ"
"เหลวไหล ข้าจะทำเรื่องที่น่าละอายต่อฟ้าดินเช่นนั้นได้อย่างไร" ฮองเฮาทอดพระเนตรไปยังตุ้มหูและเงินที่อยู่ในมือของหนิงเชียน "อีกอย่าง สิ่งของด้อยราคาสองสิ่งนี้หาใช่ของของข้าไม่ มันเป็นแค่ของที่พวกบ่าวไพร่ใช้กัน พวกนางจะหยิบยื่นให้กันมันจะแปลกตรงไหน? จะใช้มันมาเป็นหลักฐานมัดตัวข้าได้อย่างไร"
"ของที่พวกบ่าวไพร่ใช้กันหรือเพคะ?" หนิงเชียนหัวเราะ "ฮองเฮามิทรงทราบหรือเพคะ ว่าบริวารในตำหนักของหม่อมฉันเป็นเพียงนางกำนัลขั้น 1 เงินที่พวกนางได้รับในแต่ละเดือนก็ไม่เกิน 2 ตำลึง ตุ้มหูนี่ทำมาจากไพฑูรย์ ส่วนเงินก้อนนี้ก็มีมากถึง 100 ตำลึง ล้วนมีตราประทับของกรมวัง บริวารของหม่อมฉันเห็นทีจะไม่สามารถมีของพวกนี้เอาไว้ในครอบครองได้หรอกเพคะ"
"ก็อาจเป็นของที่เจ้านายชั้นสูงประทานให้ก็ได้นี่?" ฮองเฮาเลิกคิ้ว นางรู้สึกว่าความอดทนของนางเริ่มจะหมดลงแล้ว
" เจ้านายชั้นสูงประทานให้?" หนิงเชียนลูบคลำไปที่ตุ้มหู "หากเป็นเจ้านายชั้นสูงประทานให้ บ่าวไพร่คนไหนจะกล้าดีส่งมอบให้ผู้อื่นต่อล่ะเพคะ? ไยฮองเฮามิทรงเชิญขันทีจากกรมวังมาลองถามถามดูล่ะเพคะ แค่นั้นก็น่าจะทำให้ทรงทราบได้แล้ว"
หยุนชางสังเกตเห็นฮองเฮาทรงแอบกำพระหัตถ์อยู่ใต้แขนเสื้อเอาไว้จนแน่น นางก็ยิ่งมั่นใจว่า ของนั่นต้องเป็นของที่คนของนางที่ชื่อหย่านู๋มอบให้ หย่านู๋เป็นนางกำนัลที่คอยช่วยฮองเฮาแต่งตัว นางทำงานได้ดี ฮองเฮาจะพระราชทานรางวัลให้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ว่าผงยาพิษนั่น อาจจะเป็นของที่หย่านู๋ส่งไปให้กับจูเอ๋อร์เอง จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับฮองเฮา อันนี้ก็ตอบยาก
"ไปเชิญตัวหัวหน้าขันทีมาที่นี่" เซี่ยหวนอวี่มองไปยังบรรดาหญิงสาวที่มาเข้าเฝ้าตรงหน้า สายตาของเขาแน่นิ่ง
ไม่นานนัก ก็มีคนนำตัวหัวหน้าขันทีเข้ามา หนิงเชียนยิ้มเล็กน้อย นางส่งตุ้มหูและเงินไปให้หัวหน้าขันที "รบกวนท่านหัวหน้าเติ้งช่วยดูที ของสองสิ่งนี้ เป็นของของตำหนักใด?"
หัวหน้าขันทีรับคำและค้อมตัวรับเอาสิ่งของมาดู เขาพลิกดูสมุดบันทึกที่ขันทีคนข้างๆถือมาด้วย หลังจากตรวจสอบอยู่สักพัก จึงได้คำตอบว่า "ทูลเซียงกุ้ยผิน ตุ้มหูไพฑูรย์และเงินก้อนนี้ เมื่อ 3 เดือนก่อน ได้ถูกมอบให้กับเหมยกุ้ยเหรินพ่ะย่ะค่ะ"
"เหมยกุ้ยเหริน?" ฮองเฮาตรัสแแล้วมองไปยังเซี่ยหวนอวี่ "ฮ่องเต้เพคะ เหมยกุ้ยเหรินผู้นี้......"
เซี่ยหวนอวี่ทอดพระเนตรไปที่พระธำมรงค์หยกบนมือ เมื่อได้ฟังฮองเฮาเอ่ยถามเช่นนี้แล้ว เขาก็หันไปทอดพระเนตรฮองเฮาด้วยสีพระพักตร์แน่นิ่ง "เจ้าลองถามนางกำนัลที่คอยช่วยเจ้าแต่งตัวดูสิ ว่าเหตุใดนางจึงมีของของตำหนักเหมยกุ้ยเหริน"
ฮองเฮาทรงนิ่งอึ้งไปสักพัก นางเห็นสีพระพักตร์เซี่ยหวนอวี่ไม่ค่อยจะดีแล้ว นางจึงรีบตอบ "เพคะ หม่อมฉันดูแลคนในตำหนักเว่ยยางในปกครองของหม่อมฉันไม่ดีเอง ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้ เป็นความผิดของหม่อมฉันเองเพคะ"
ตรัสจบก็ให้ขันทีไปนำตัวหย่านู๋มาจากตำหนักเว่ยยาง
แต่ยังไม่ทันที่ขันทีจะออกไปตามรับสั่ง "ทูลฮ่องเต้และฮองเฮา หย่านู๋ได้ปลิดชีพตัวเองด้วยการผูกคอตายไปแล้วเพคะ หม่อมฉันได้พบกับจดหมายลาตาย 1 ฉบับ เชิญฮ่องเต้และฮองเฮาทอดพระเนตรดูเถิดเพคะ" พูดจบก็นำจดหมายถวายให้แด่เซี่ยหวนอวี่
เซี่ยหวนอวี่รับจดหมายมาอ่าน เขาขมวดคิ้ว แล้วส่งจดหมายต่อให้กับฮองเฮา ฮองเฮารีบรับจดหมายมาอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วนางจึงขมวดคิ้วพลางตรัสว่า "จดหมายลาตายที่หย่านู๋เขียนขึ้นมานี้ ระบุว่าเหมยกุ้ยเหรินเป็นผู้บงการให้นางทำเช่นนี้ ในจดหมายบอกว่า นางและเหมยกุ้ยเหรินเป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เหมยกุ้ยเหรินได้จับตัวน้องชายและน้องสาวของนางมาข่มขู่ บังคับให้นางทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้ขึ้นมา เดิมทีนางคิดว่า หลังจากเรื่องนี้แล้วเสร็จ เหมยกุ้ยเหรินจะปล่อยตัวน้องชายและน้องสาวของนาง แต่กลับได้ข่าวมาว่าเหมยกุ้ยเหรินถูกจับไปอยู่ตำหนักเย็นแล้ว ความผิดที่ได้ทำไปคงจะถูกเปิดโปงในไม่ช้า นางจึงจำใจเลือกที่จะจบชีวิตลงด้วยตัวเองเช่นนี้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง