หัวหน้าพ่อบ้านส่ายหน้า "หลังจากทราบเรื่อง หม่อมฉันก็สั่งปิดทุกทางเข้าออกของจวนในทันที และได้ปรึกษากับลั่วอี้ ให้เขาส่งสายลับไปคอยจับตาความเคลื่อนไหวของทุกคนในจวน แต่ว่า คำสั่งปิดทางเข้าออกจวนคงจะใช้เป็นคำสั่งระยะยาวไม่ได้ เพราะจะต้องมีคนคอยออกไปซื้ออาหารการกินและข้าวของเครื่องใช้พ่ะย่ะค่ะ......"
หยุนชางเดินครุ่นคิดไปมา นางพูดขึ้นมาว่า "เช่นนั้นก็ปิดประตู 1 คืน เรามีเวลาเพียงคืนเดียวเท่านั้น จะต้องหาตุ๊กตาผ้านั่นให้เจอภายในคืนนี้ให้ได้"
"ค้นจวน?" หัวหน้าพ่อบ้านครุ่นคิด "แต่ว่าจวนของเรามีพวกข้ารับใช้เก่าแก่ของอดีตรัชทายาทอยู่ หากเราค้นจวนกระทันหัน เกรงว่าพวกเขาจะเกิดความสงสัยเอาได้นะพ่ะย่ะค่ะ"
"เช่นนั้นเราต้องคิดหาสาเหตุที่ทำให้ต้องค้นจวน" ลั่วชิงเหยียนขมวดคิ้ว "ไปบอกว่าเครื่องประดับหยกที่พระชายาพกติดตัวตลอดเวลาหายไป เกรงว่าในจวนจะมีโจรผู้ร้าย คืนนี้ทุกคนห้ามเข้านอกออกในจวนเป็นอันขาด และจงยอมให้เข้าไปตรวจค้นด้วย"
หัวหน้าพ่อบ้านรับคำ แล้วรีบไปจัดการ
หยุนชางและลั่วชิงเหยียนมองหน้ากัน พวกเขานั่งอยู่ในห้อง เฉี่ยนอินยกน้ำชามาถวาย หยุนชางยกถ้วยน้ำชาขึ้นมา "ในจวนมีคนมากหน้าหลายตา เป็นความผิดของหม่อมฉันเอง ที่ตอนเข้ามาในจวนไม่ได้ไล่บ่าวไพร่คนเก่าคนแก่ของอดีตรัชทายาทออกไปจากจวนเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนส่ายหน้า "ไล่ออกไปได้แล้วอย่างไร สิ่งใดจะเกิดมันก็ต้องเกิด พวกเราพาคนจากข้างนอกจำนวนหนึ่งเข้ามาในจวน ผู้ที่ต้องการส่งคนเข้ามาสอดแนมเรา ทำให้เราต้องพบเจอกับปัญหาเช่นครานี้ ที่ผ่านมาเราคิดแค่เพียงไม่ให้คนอื่นๆเข้ามาในห้องส่วนตัวก็คงจะวางใจได้ แต่พวกเรากลับลืมคิดไปว่า ผืนดินทุกจุดของจวนรุ่ยอ๋องแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับข้า มีคนต้องการเล่นงานข้า ก็ไม่จำเป็นต้องบุกเข้ามาลงมือภายในห้องอย่างเดียว"
แล้วคนทั้งสองก็เงียบไป
เวลาค่อยๆเดินผ่านไป จนมาถึงช่วงเที่ยงคืน
ด้านนอกมีเสียงคนพูดคุยกันฟังไม่ถนัดเท่าใดนัก กาน้ำชาที่อยู่ตรงหน้าของหยุนชางถูกเติมน้ำเข้าไป 3 ครั้งแล้ว
"หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้! จะไปไหนน่ะ?" เสียงดังขึ้นมาจากด้านนอก หยุนชางรีบลุกแล้วตามไปดู ก็เห็นบ่าวไพร่กำลังถือคบเพลิง ท่าทางเหมือนกำลังไล่ล่าใครบางคน
หยุนชางหันไปส่งสัญญาณให้เฉี่ยนอิน เฉี่ยนอินปรบมือ ก็มีเงาดำ 2 เงาปรากฏกายขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ก็จับตัวผู้ต้องสงสัยมาได้
หยุนชางจ้องมองชายวัยประมาณ 30 ปี เขาไม่ใช่คนรูปงาม ท่าทางของเขาช่างดูลุกลี้ลุกลนยิ่งนัก
"เจ้าจะวิ่งไปทำไม?" สายลับผลักเขาลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกเจ็บเป็นอย่างมาก
หัวหน้าพ่อบ้านเดินมาบอกว่า "ทูลท่านอ๋อง เขาคนนี้มีชื่อว่าโจวอี้ เป็นบ่าวไพร่ในห้องครัว เมื่อครู่นี้พวกเราได้ทำการค้นที่พักของเขา ก็ได้เห็นเขากำลังขุดดิน ท่าทางเหมือนกำลังฝังอะไรบางอย่าง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เดินไป เขาก็คิดจะวิ่งหนีออกไปนอกจวน เมื่อเขาพบว่าประตูด้านหลังมีคนคอยเฝ้ายาม เขาก็พยายามที่จะวิ่งไปทางอื่นพ่ะย่ะค่ะ"
หยุนชางจ้องมองโจวอี้ นางเห็นว่าบริเวณอกของเขาเหมือนมีสิ่งของซุกซ่อนอยู่ด้านใน "นำของออกมาจากอกเขา"
สายลับรับคำ เขาเดินเข้าไปแล้วพยายามจะหยิบของออกจากอกของโจวอี้ โจวอี้เห็นดังนั้นแล้วก็กอดอกไว้แน่น ไม่ยอมให้สายลับเฉียดใกล้
สายลับสองคนพยายามช่วยกัน คนหนึ่งจับตัวเขาเอาไว้ อีกคนพยายามยื้อแย่งสิ่งของ ในที่สุดก็นำวัตถุต้องสงสัยออกมาได้สำเร็จ
เป็นเสื้อชั้นในสีชมพูปักลายดอกกุหลาบ
หยุนชางขมวดคิ้ว "นี่มันอะไรกัน?"
โจวอี้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นว่าของถูกแย่งไปให้คนอื่นๆดูแล้ว เขาก็รีบคุกเข่าในทันที "ไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเถิดพระชายา โปรดทรงไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันไม่ควรลักลอบทำเรื่องน่าอายกับสาวใช้ในจวน ขอพระชายาได้โปรดให้อภัยหม่อมฉันด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง