หยุนชางพยักหน้าลงเล็กน้อย เมื่อเดินเข้าไป พลันเห็นแสงไฟในตำหนักเซียงจู๋ที่กำลังสว่างอยู่นั้น หากแต่มีนางกำนัลนางหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นหยุนชางนั้นพลันรีบร้อนย่อกายทำความเคารพ "หวางเฟยได้โปรดรอสักครู่นะเพคะ นู๋ปี๋จะไปรายงานฝ่าบาทให้"
หยุนชางพลันหยักหน้ารับคำ พร้อมทบทวนความคิดของตนเองอีกรอบ
"หวางเฟย ฝ่าบาทเชิญด้านในเพคะ " นางกำนัลพลันรีบร้อนเดินออกมาบอก พร้อมพาหยุนชางเดินเข้าไปในตำหนักเซียงจู๋
เซี่ยหวนอวี่กำลังนั่งอ่านตำรอยู่ภายใต้แสงไฟ พลันได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามานั้น จึงเงยหน้าขึ้นมามองหยุนชาง ทว่าสายตาเอนเอียงไปมองหนิงเชียนที่กำลังปักผ้าอยู่ข้าง ๆ พร้อมถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า "ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ตกอกตกใจวิ่งมาเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ ?"
หยุนชางรีบร้อนคุกเข่าลงคำนับ "ฝ่าบาทเพคะ ก่อนหน้าที่หม่อมฉันและท่านอ๋องจักเข้ามาในวังนั้น เนื่องจากฉุกละหุกเกินไป วังท่านอ่องจึงมิได้จัดการทำความสะอาดมากนัก. อีกทั้งวันนี้หม่อมฉันยังเป็นแขกรับเชิญที่ตำหนักกั๋วกงอีก จึงสั่งให้ข้ารับใช้ทำความสะอาดรอบ ๆ วัง มิคาดคิดว่าตำหนักที่ไม่มีคนอยู่เลยนั้น จะเจอตุ๊กตาคุณไสยได้ อีกทั้งบนตุ๊กตาคุณไสยยังมีชื่อและวันเดือนปีเกิดของฝ่าบาทสลักอยู่บนนั้นแปดตัวอักษร "
"อะไรนะ ?" สายตาของเซี่ยหวนอวี่พลันเย็นชาลง
"ในตอนนั้นหม่อมฉันยังมิทันได้กลับเข้าวัง ข้ารับใช้ชราที่เป็นผู้พบเจอตุ๊กตาคุณไสยนั้น มิได้รายงานเข้ามา หากแต่ทำการกระจายข่าวอย่างลับ ๆ เมื่อพ่อบ้านได้รู้เรื่อง กลับพบว่าข้ารับใช้ชราผู้ที่พบเจอกับตุ๊กตาคุณไสยนั้นได้ตายแล้ว. อีกทั้งก็มิพบเห็นตุ๊กตาคุนไสยอีกเช่นกัน หม่อมฉันคิดว่าเรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงมารายงานให้ฝ่าบาททราบในยามดึกดื่นเช่นนี้ นับว่าเป็นโชคดีที่ฝ่าบาทยังมิได้กลับไปพักผ่อน " หยุนชางที่ก้มหัวลงอยู่นั้น เป็นเพราะเมื่อครู่นางเร่งรีบจนเกินไป ทำให้แผ่นหลังมีเหงื่อออกบาง ๆ เสื้อตัวในนั้นชุ่มช่ำไปด้วยเหงื่อ จึงทำให้อึดอัดตัวเล็กน้อย
เมื่อมิได้ยินคำตอบจากเซี่ยหวนอวี่ตอบกลับมา สายตาของหยุนชางจับจ้องไปยังเข่าของตนเอง ที่ปักเป็นรูปดอกเหมยกำลังเบ่งบานอย่างสวยงามนั้น
"รุ่ยอ๋องเข้าวังแล้วงั้นหรือ ?" ผ่านไปสักพักหยุนชางจึงได้ยินน้ำเสียงที่ติดเย็นชาของเซี่ยหวนอวี่ดังออกมา
หยุนชางพลันตอบรับ "มาแล้วเพคะ. ทว่าเวลานี้ ท่านอ๋องมิสะดวกที่จะเข้าวัง จึงสั่งให้หม่อมฉันมารายงานต่อฝ่าบาทแทน ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังรอการประชุมอยู่ที่ตำหนัก"
เซี่ยหวนอวี่พลันตอบกลับ "อื้ม". พร้อมลุกขึ้นยืน "ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เจิ้นจะไปเข้าร่วมการประชุมที่ตำหนักด้วย. หากเจ้าจะกลับวังเมื่อใดนั้นก็บอกหลิวเหวินอัน. ให้เขาจัดหาคนคุ้มครองเจ้าระหว่างทาง"
ความหมายของประโยคนี้คือ เขามิต้องการให้หยุนชางไปเข้าร่วมการประชุมที่ตำหนักด้วย หยุนชางพลันเงียบไปชั่วครู่ จึงตอบกลับมาว่า "เพคะ หม่อมฉันรับทราบ"
เซี่ยหวนอวี่เดินผ่านหยุนชาง. และออกไปนอกวัง"องค์จักรพรรดิเสด็จ " เสียงประกาศพลันดังไปทั่วตำหนักเซียงจู๋
เมื่อรอจนเซี่ยหวนอวี่ออกไปแล้ว. หนิงเชียนจึงให้ข้ารับใช้ที่เหลือถอยออกไป พลางเดินไปยังด้านหน้าของหยุนชางเพื่อหยุงนางขึ้นมา แล้วพาหยุนชางมานั่งยังเก้าอี้ข้าง ๆ "นายท่านปกติท่านเป็นคนที่เมื่อพบเจอปัญหามักจะใจเย็นเสมอมิใช่หรือ ทำไมครานี้ถึงทำอะไรบุ่มบ่ามยิ่งนักเล่า"
เมื่อเห็นหยุนชางนิ่งเงียบไปนั้น หนิงเชียนจึงกระซิบเงียบ ๆ ว่า "นายท่านอยากจะนำหน้าศัตรูอยู่หนึ่งก้าวโดยมารายงานต่อฝ่าบาทนั้น โดยธรรมชาตินั้นไม่ผิดแม้แต่น้อย ทว่า นายท่านมีวืธีที่ดีกว่านั้นมิใช่หรือ ตอนนี้รุ่ยอ๋องก็ปรากฏตัวแล้ว เช่นนั้นนายท่านมิสร้างบทละครจากในพระราชวังในตำหนักและตระกูลขึ้นมาหน่อยหรือ. ถึงตอนนั้น คงเป็นงิ้วที่ดีฉากหนึ่งเลยทีเดียว. อีกทั้งต้องมีคนขุดคุ้ยเรื่องนี้ให้กระจ่างและต้องการทำลายขึ้นมาเป็นแน่ เมื่อค้นพบหัวเรื่องแล้วก็จะต้องเกิดการใส่ร้ายป้ายสีกัน ถึงครานั้น นายท่านก็แค่รับชมอยู่ข้างสนามอย่างสบายใจ อีกไม่นานฆาตกรตัวจริงก็คงโผล่หางออกมาในไม่ช้า"
หยุนชางพลันเงยหน้าขึ้นมามองหนิงเชียนอยู่นาน เพียงชั่วครู่จึงยิ้มออกมาเล็กน้อย "ความคิดของเจ้าดีมาก หากจะเริ่มทำตอนนี้ คงมิสายเกินแก้. วันนี้ข้าคงรออยู่ที่ตำหนักเซียงจู๋ อีกทั้งท่านอ๋องและฝ่าบาทก็เข้าประชุมอยู่ด้วยกัน เช่นนั้นฝ่าบาทจะทำเช่นไรก็ไม่สามารถสงสัยข้าได้"
หนิงเชียนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ พลางพยักหน้ารับคำ "นายท่านช่างมีความปรีชาสามารถ กระหม่อมจะไปจัดหาคนมาดำเนินการตามแผน"
"ตุ๊กตาคุณไสยนั้น อย่าลืมว่าจักต้องใช้เนื้อผ้าของวังมาทำ. ทว่ายังเลือกเป็นเนื้อผ้าที่หายากนัก เป็นเสื้อผ้าของข้ารับใช้ยิ่งดี ทว่าอย่าได้ทิ้งร่องรอยให้สาวตัวได้เป็นอันขาด ทำได้แค่ไหนแค่นั้น เมื่อทำเสร็จแล้วให้คนนำไปวางไว้ ใช้ด้ายเฉินในการปัก ลวดลายในการปักอย่าได้เปิดเผยให้ผู้คนจำได้ชียว" หยุนชางพลันส่งเสียงกระซิบออกคำสั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง