ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 456

"หนึ่งปีแล้วหรือ..." หยุนชางครุ่นคิด ครั้งแรกที่นางและลั่วชิงเหยียนเข้ากันจริงๆ นั้นเป็นยามที่กลับมาจากคังหยาง นับดูแล้วก็นานถึงครึ่งปีแล้ว ในครึ่งปีมานี้นางและลั่วชิงเหยียนก็ได้เสพสมอารมณ์หมายอยู่บ่อยครั้ง ทำไมท้องของนางจึงไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลย

ยามที่นางจากแคว้นหนิงมา เสด็จแม่เคยเกลี้ยกล่อมให้นางรีบมีลูกเสียที ตอนนั้นนางยังไม่ได้ใส่ใจนัก

แต่เมื่อครู่คำพูดของหยุนกุ้ยเฟยปลุกให้นางตื่นขึ้น หากแคว้นเซี่ยให้ความสำคัญกับทายาทเช่นนั้น ลั่วชิงเหยียนเคยรับปากนางว่าชีวิตนี้เขาจะมีนางเพียงคนเดียว คงยากที่จะมีลูกหลานมากมาย

เป็นดังที่เสด็จแม่เคยกล่าวไว้จริงๆ เมื่อบุรุษมีใจคิดจะกุมอำนาจในใต้หล้า ก็จะมีเรื่องมากมายที่ไม่อาจควบคุมได้ ไม่รู้ว่าหากมีวันใด เซี่ยหวนอวี่ให้เขาเลือกระหว่างบ้านเมืองและการรับอนุ เขาจะเลือกสิ่งใดกัน?

"พระชายา..." เฉี่ยนอินกระซิบเรียกเบาๆ ตอนนี้หยุนชางเหม่อลอยไปไกล นางจึงเงียบลงและยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หยุนชางจึงได้สติขึ้น "เมื่อครู่เรียกข้าหรือ? มีอะไรหรือเปล่า?"

เฉี่ยนอินอ้าปากเล็กน้อยและส่ายหัว "ไม่มีอะไรเพคะ" นางชะงักไปและเอ่ยว่า "หม่อมฉันได้ยินว่าองค์หญิงไท่อันถูกปล่อยออกมาจากคุกแล้ว"

หยุนชางผงกศีรษะ ไทเฮาตายไปแล้วเพื่อแลกกับชีวิตขององค์หญิงไท่อัน เซี่ยหวนอวี่ย่อมไม่อาจจัดการได้อย่างเด็ดขาด การปล่อยตัวองค์หญิงไท่อันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น

"หม่อมฉันได้ยินมาว่าหลังจากที่นางออกมาจากคุกแล้วก็ไม่ไปร้องห่มร้องไห้อยู่ที่ตำหนักเฉียนหลิง จากนั้นจึงค่อยกลับจวนองค์หญิงไปและให้คนเก่าที่เคยอยู่ในจวนแยกย้ายกันไปแล้วยังเชิญอาจารย์มาสอนทุกวัน ทั้งดนตรี หมาก การประดิษฐ์อักษร วาดภาพและแม้กระทั่งเรื่องของสตรี หม่อมฉันไปสืบมาได้ว่าครั้งนี้องค์หญิงไท่อันไม่ได้เพียงแสร้งทำเล่นๆ แล้ว นางตั้งใจเล่าเรียนทุกวันเลยเพคะ" เฉี่ยนอินก้มศีรษะลงมองหยุนชาง "หม่อมฉันมักจะรู้สึกเสมอว่าครั้งนี้นางคงเกลียดพวกเราเข้ากระดูกดำไปแล้วเป็นแน่ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางเก่งกาจแล้วมาจัดการกับพวกเรา เช่นนี้มิใช่ว่าพวกเราจะมีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหรือเพคะ"

หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงหัวเราะออกมาเบาๆ "ยายโง่เอ๋ย ที่นี่คือแคว้นเซี่ย ที่นี่เจ้าไม่ต้องจำว่าใครคือศัตรูของเจ้า เจ้าเพียงต้องจำไว้ว่าใครเป็นมิตร เชื่อข้าเถอะว่าศัตรูของจวนรุ่ยอ๋องของเรานั้นมีมากว่ามิตรมากมายนัก"

เฉี่ยนอินอึ้งไปและคิดว่าอนาคตของนางช่างลำบากนัก ในขณะที่คิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงพ่อบ้านดังขึ้นที่ภายนอก "พระชายา คุณชายหลิ่วหยินเฟิงมาขอพบขอรับ"

หยุนชางเงียบไปชั่วครู่ สุดท้ายจึงส่ายหน้า "เจ้าช่วยข้าบอกปัดหน่อยเถอะ ตอนนี้รุ่ยอ๋องไม่อยู่ที่จวน ข้าเป็นสตรี อย่างไรก็ไม่ควรพบชายอื่น เดิมก็มีคนจ้องจะคิดร้ายต่อรุ่ยอ๋องอยู่แล้ว หากมีข่าวลือไม่ดีแพร่ออกไปคงจะรับมือยาก"

พ่อบ้านขานรับแล้วจึงจากไป

เฉี่ยนอินมองหยุนชางอย่างหยั่งเชิงและถามว่า "พระชายา หลิ่วหยินเฟิงผู้นี้เป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่?"

หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเฉี่ยนอิน เฉี่ยนอินหัวเราะคิกคักแล้วกล่าวว่า "หากบอกว่าเป็นศัตรู เขาก็ดูจะใส่ใจดูแลพระชายาไปเสียทุกสิ่งอย่าง หากใครไม่รู้ก็คงจะนึกว่าเขารักพระชายามากเสียอีก แต่หากจะบอกว่าเป็นมิตร เขาก็ใกล้ชิดกับท่านอ๋องเจ็ดอยู่มาก ได้ยินว่าเขาเป็นอาจารย์ของท่านอ๋องเจ็ดและถูกหลิ่วจิ้นอุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเล็ก หลิ่วจิ้นเป็นตาของท่านอ๋องเจ็ด อย่างไรหลิ่วหยินเฟิงก็ต้องตอบแทนบุญคุณที่เขาเลี้ยงดูมา"

หยุนชางเงียบไปอยู่นานก่อนจะเอ่ยว่า "ข้ารู้สึกว่าเขาไม่เคยคิดร้ายต่อข้า เพียงแต่ข้าไม่อยากจะไปเกี่ยวข้องกับเขามากนัก เป็นดังอย่างที่เจ้าว่ามา ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าเขาใกล้ชิดสนิทสนมกับองค์ชายเจ็ดเป็นอย่างมาก หากข้าพบกับเขาบ่อยๆ เกรงว่าจะทำให้เกิดข่าวลือเข้า"

หยุนชางไม่อยากเอ่ยถึงหลิ่วหยินเฟิงอีก นางลุกขึ้นและกล่าวว่า "ข้าเหนื่อยแล้ว จะไปงีบที่เตียงครู่หนึ่ง ก่อนถึงเวลาอาหารเย็นค่อยปลุกข้าก็แล้วกัน" หยุนชางเอ่ยเบาๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง