ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 458

เมื่อฮูหยินน้อยหลิ่วได้ยินถ้อยคำนั้น นางก็จ้องไปที่สตรีที่กล่าวคำนั้นออกมาอย่างอาฆาต แต่เป็นเพราะสถานะที่แตกต่าง นางจึงไม่อาจโต้กลับได้ จึงเพียงเอ่ยเบาๆ ว่า "แม้ว่าพวกเราที่นี่ล้วนเป็นชั้นเจ้านาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสูงส่ง" นางพูดพลางปรายตามองไปที่อนุภรรยาของกู้เฉาเกอ นางชะงักแล้วจึงกล่าวเยาะเย้ยขึ้นอีก "นอกจากนี้ เจ้านายไม่ได้คิด แต่พวกข้ารับใช้ก็ไม่แน่"

ฮูหยินใหญ่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว ยกเว้นข้ารับใช้ใกล้ชิดแล้ว ข้ารับใช้ที่เหลือต่างก็รออยู่ด้านนอก ผู้คนที่เดินไปมาในจวนนั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้ารับใช้ในจวนกั๋วกง เมื่อฮูหยินน้อยหลิ่วกล่าวเช่นนี้ มิใช่ว่าเป็นการกล่าวหาว่าข้ารับใช้ในจวนกั๋วกงมือไม่สะอาดหรอกหรือ

"ฮูหยินน้อยหลิ่วนั่งลงสักครู่เถอะ ข้าจะให้คนไปหาที่ศาลาอย่างละเอียดดูว่าหล่นอยู่ที่นั่นหรือไม่" ฮูหยินใหญ่สั่งให้ข้ารับใช้ไปค้นหา

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีข้ารับใช้นำหยกแขวนเล็กๆ อันวิจิตรงดงามเดินเข้ามา

เมื่อฮูหยินน้อยหลิ่วเห็นมันจึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว "หยกแขวนของข้า" นางพูดพลางรีบเดินเข้าไปแย่งหยกคืนมาจากข้ารับใช้ผู้นั้น นางตรวจสอบดูอีกครั้งแล้วจึงเงยหน้ามองไปที่ข้ารับใช้ "ใครเอาหยกแขวนนี้ไป?"

ข้ารับใช้ผู้นั้นรีบพูดว่า "รายงานทุกท่าน ไม่มีใครเอาไป เกรงว่าเมื่อครู่ท่านคงจะลุกขึ้นอย่างรีบร้อนเกินไป หยกแขวนนั้นจึงเกี่ยวกับที่เก้าอี้ ตอนที่ข้าไปหาดูเมื่อครู่ก็เห็นหยกแขวนนี้ห้อยอยู่ที่พนักเก้าอี้ขอรับ"

สายที่ทุกคนมองฮูหยินน้อยหลิ่วแฝงไปด้วยแววขบขันและเยาะเย้ย เมื่อนางเห็นเช่นนั้นนางก็บ่นพึมพำเล็กน้อยและทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง

อาหารมื้อนี้ดำเนินไปอย่างเงียบๆ หลังจากจบมื้ออาหารแล้ว คนส่วนใหญ่ก็จากไป เหลืออยู่เพียงคนที่มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดสนิทสนมกับจวนกั๋วกงเท่านั้น

กั๋วกงฮูหยินก็อายุมากแล้ว นางนั่งอยู่ข้างนอกได้สักพักก็รู้สึกเหนื่อยจึงเรียกให้หยุนชางช่วยพยุงนางกลับห้องพักผ่อน

"ฮูหยินน้อยหลิ่วเป็นลูกสะใภ้ของท่านซือถูหลิ่วจิ้น หลิ่วจิ้นมีเพียงลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคนและหลิ่วหยินเฟิงที่เป็นบุตรบุญธรรม น่าเสียดายที่หลิ่วเฟยเหนียงเหนียงด่วนจากไป ลูกชายของเขาก็ไม่เอาไหนแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่นิสัยไม่ดี ที่ตระกูลหลิ่วสามารถไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งในวันนี้ได้ทีละขั้นๆ นั้น หนึ่งในสามเป็นผลงานของหลิ่วเฟย อีกหนึ่งในสามเป็นเพราะฝ่าบาทสงสารขององค์ชายเจ็ดที่ถูกคนอื่นทำร้ายเมื่อยามเยาว์วัยจนสุขภาพร่างกายไม่ดี ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งในสามก็เป็นเพราะหลิ่วหยินเฟิง เขามีความสามารถมากจนฝ่าบาทให้ความสำคัญอย่างมาก แต่ไม่เคยตกรางวัลแก่เขาเลยและกลับมอบรางวัลทั้งหมดนั้นให้แก่ตระกูลหลิ่วแทน" กั๋วกงฮูหยินพูดราวกับเป็นเพียงบทสนทนาธรรมดาทั่วไป

"ทำไมหรือเจ้าคะ?" หยุนชางรู้สึกประหลาดกับเรื่องนี้ตั้งแต่ยามอยู่ที่แคว้นหนิงแล้ว ชื่อเสียงของหลิ่วหยินเฟิงไม่แพ้องค์ชายคนใดเลย ทั้งยังเป็นคนมีความสามารถอย่างแท้จริง เพียงแต่ตำแหน่งกุนซือแล้ว เขากลับไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการอื่นใดในราชสำนักเลย

"ก่อนที่ลั่วชิงเหยียนจะกลับมา ข้ารู้สึกเสมอว่าฝ่าบาทอยากจะสนับสนุนองค์ชายเจ็ด แม้ว่าเขาจะสุขภาพไม่ดีก็ตาม แต่ใครจะรู้ว่าเขาอ่อนแอจริงหรือไม่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาหมอชื่อดังมากมายต่างก็ไปเยือนที่จวนของท่านอ๋องเจ็ด จริงอยู่ที่ว่าเขาเคยได้ถูกทำร้ายเมื่อตอนยังเด็ก แต่ใครจะรู้เล่าว่าตอนนี้ร่างกายของเขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ที่ฝ่าบาทมอบรางวัลทั้งหมดของหลิ่วหยินเฟิงให้แก่ตระกูลหลิ่วก็เพราะเขาหวังว่าท่านอ๋องเจ็ดจะได้รับการสนับสนุนอย่างดีในราชสำนัก ส่วนหลิ่วหยินเฟิงนั้น ด้วยท่าทีที่ฝ่าบาทมีต่อเขาแล้ว ขุนนางคนอื่นก็ทำได้เพียงแต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้เท่านั้น เมื่อท่านอ๋องเจ็ดขึ้นครองบัลลังก์ หลิ่วหยินเฟิงย่อมต้องช่วยเขา เมื่อถึงเวลานั้นจักรพรรดิใหม่ค่อยตกรางวัลหรือแต่งตั้งก็จะเป็นวิธีที่ดีในการซื้อใจของผู้คน

กั๋วกงฮูหยินหยุดฝีเท้าลงที่หน้าประตู "ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับองค์รัชทายาทอย่างเปิดเผย แต่แท้จริงแล้วกลับคอยวางแผนให้ท่านอ๋องเจ็ดอย่างลับๆ"

หยุนชางพยักหน้า ในใจแอบชื่นชมกั๋วกงฮูหยินผู้นี้ ครั้งแรกที่ฮวากั๋วกงมาเยือนที่จวนอ๋องก็เคยบอกว่านางไม่มีความรู้เรื่องการเมืองและสงครามเลย ทำให้ทั้งสองไม่มีอะไรให้พูดคุยกันได้มากนัก ตอนนั้นหยุนชางจึงคิดว่ากั๋วกงฮูหยินเป็นเพียงสตรีธรรมดาที่เชื่อฟังสามีคอยเลี้ยงดูบุตรหลานอยู่ในจวน แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าหญิงชราผู้นี้มองสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่งกว่านางมากนัก มีเรื่องมากมายที่แม้นางจะอยู่แต่ในจวนก็สามารถมองได้อย่างแจ่มแจ้ง ทั้งยังสอนนางอย่างใส่ใจอีกว่าจะรับมือกับฮูหยินเหล่านั้นอย่างไรและจะหาประโยชน์จากคำพูดของพวกนางอย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง