งานเลี้ยงเล็กๆที่องค์หญิงใหญ่จัดขึ้นในจวน เป็นไปตามที่หยุนชางคาดไว้ มันไม่ใช่งานเลี้ยงเล็กๆจริงๆ มีการเชิญขุนนางคนสำคัญในราชสำนักและสมาชิกราชวงศ์ ไม่ต่างจากงานเลี้ยงในวังเลย ก่อนที่หยุนชางลงจากรถม้า นางเห็นหลิ่วจิ้นพาภรรยาของเขาลงจากรถม้าและได้รับการต้อนรับเข้าสู่จวนองค์หญิงใหญ่
หยุนชางหัวเราะเบาๆ "โจ่งแจ้งเยี่ยงนี้ องค์หญิงใหญ่คิดจริงๆหรือว่านางสามารถซ่อนตัวจากสายตาของทุกคนด้วยการที่เรียกตัวเองว่านับถือพระพุทธเจ้าได้?"
ลั่วชิงเหยียนมองคนที่เข้าๆออกๆ แล้วยิ้มด้วย "ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่จัดงานเลี้ยงเล็กๆเยี่ยงนี้ทุกสามหรือสี่วันเกือบทุกปี เพื่อเชิญคนเหล่านี้"
"โอ้?" หยุนชางเลิกคิ้ว องค์หญิงใหญ่ทรงเป็นคนฉลาดที่รู้จักความสับเปลี่ยนความคิด และทรงมีความอดทน
ลั่วชิงเหยียนเปิดประตูรถม้า และเดินลงไป หันหลังกลับและช่วยพยุงหยุนชางลงจากรถม้า เด็กเฝ้าประตูเคยเห็นลั่วชิงเหยียนและหยุนชางเมื่อวันก่อนและเมื่อเขาเห็นพวกเขา ก็รีบก้าวเข้าไปหาทั้งสองและทำความเคารพ "รุ่ยอ๋อง พระชายารุ่ย เชิญทางนี้ขอรับ
หลังจากเข้าประตูจวน พระหนุ่มก็เข้ามาต้อนรับ เขาถือถาดในมือที่มีป้ายไม้ไผ่สี่อันข้างใน "รุ่ยอ๋อง พระชายารุ่ย งานเลี้ยงเล็กๆถูกจัดขึ้นในลานสี่ลาน ลานที่ท่านอ๋องและพระชายาได้เข้าร่วมนั้นขึ้นอยู่กับป้ายที่ท่านทั้งสองพลิกกลับมา ต้องขอประทานอภัยโทษนะ ใครจะพลิกป้ายนี้ขอรับ"
ลั่วชิงเหยียนยิ้มและก้มหน้ามองหยุนชาง "ชางเอ๋อร์ เจ้าพลิกเถิด"
หยุนชางหัวเราะด้วยเสียง "พู" "ข้าได้ยินมาว่าฮ่องเต้เลือกสนมในวังหลังโดยการพลิกป้าย วันนี้ข้าโชคดีที่ได้ลองสัมผัสความรู้สึกในการพลิกป้าย" ขณะที่พูด ก็เอื้อมมือไปสุ่มหยิบป้ายไม้ไผ่แล้วพลิกกลับ ด้านบนแผ่นไม้ไผ่มีคำว่า "เหมย(ดอกท้อ)" เขียนอยู่
หยุนชางเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ดีเลย ดอกท้อเป็นสิ่งที่ข้าโปรดที่สุด"
"เช่นนั้นต้องแสดงความยินดีกับพระชายาแล้วขอรับ คือสวนดอกท้อ" พระหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มว่า "อาตมาจะให้ คนพาท่านอ๋องและพระชายาไปนะขอรับ" หลังจากพูดจบ เขาก็โบกเรียกสาวใช้ และให้สาวใช้พาหยุนชางไปที่สวน
ครั้งที่แล้วที่หยุนชางและคนอื่นๆ มา พวกเขาไปที่ลานห้องโถงดอกไม้เท่านั้น ทิวทัศน์ภายในไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน สาวใช้พาพวกเขาเดินข้ามไปลานห้องโถงดอกไม้ ผ่านทางเดินยาว เลี้ยวขวา และเดินไปอีกซักพักก่อนจะถึง หน้าลานที่มีคำว่า "สวนดอกท้อ" อยู่ด้านหน้าสวน
สาวใช้พูดอย่างสุภาพ "นี่คือสวนดอกท้อเพคะ เชิญท่านอ๋องและพระชายาเข้าไปได้เพคะ"
กลางฤดูหนาว ทันทีที่ก้าวเข้าไปในสวนดอกท้อ ก็ได้กลิ่นของดอกท้อ ในสวนป่าท้อ เห็นหญิงสาวสองสามคนยืนอยู่ที่ลานบ้าน กำลังเพลิดเพลินกับชมดอกท้อด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวเหล่านั้นหยุนชางไม่รู้จักสักคน แต่รูปโฉมของพวกนางทั้งหมดนั้นช่างโดดเด่นยิ่งนัก ยังมีชายหนุ่มอีกหลายคนนั่งคุยสนทนากันตรงทางเดิน แต่หยุนชางเห็นว่าสายตาของชายหนุ่มเหล่านั้นจับจ้องไปที่หญิงสาวที่กำลังชมดอกท้อ
"ท่านอ๋องรุ่ย" หยุนชางที่กำลังมองดูรอบๆ ก็ได้ยินคนเรียก ทันใดนั้น สายตาทุกหนทุกแห่งก็ตกมาที่ลั่วชิงเหยียนและหยุนชาง
หยุนชางหันศีรษะไปพร้อมกับลั่วชิงเหยียนและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งโบกมือให้ลั่วชิงเหยียน ลั่วชิงเหยียนพูดเบาๆว่า "คือรองเจ้ากรมพิธีการ เมิ่งหยุนกวน"
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ ในก่อนหน้านี้ในพิธีคัดเลือกหญิงดีงาม ลั่วชิงเหยียนมักจะไปที่กรมพิธีการ ดังนั้นเขาจึงเริ่มสนิทกับคนนี้สินะ
ทุกคนในกลุ่มหันกลับมา หยุนชางเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยสองคน คนหนึ่งคือหลิ่วหยินเฟิง และอีกคนคือหลี่เฉี่ยนโม่
ลั่วชิงเหยียนเดินไปพร้อมกับหยุนชางและพยักหน้าไปทางทุกคน รองเจ้ากรมพิธีกการหันมามองหยุนชาง นัยน์ตาวาววับด้วยความประหลาดใจ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "นี่ควรเป็นพระชายารุ่ย? ข้าได้ยินมาว่ารุ่ยอ๋องทรงรักพระชายารุ่ยมาก วันนี้ได้พบพระชายารุ่ย ข้ารู้แล้วว่าทำไม..."
หยุนชางรู้สึกขบขันกับคำพูดที่ไร้เหตุผลของเขา เขาหันศีรษะและเห็นเสิ่นอี๋หลานยืนอยู่ที่ประตูบ้านยิ้มให้นาง หยุนชางคำนับให้ทุกคน ยิ้มและเดินเข้าไปหาเสิ่นอี๋หลาน "เจ้ามาด้วยหรือ ท่านยายล่ะ"
เสิ่นอี๋หลานพูดด้วยรอยยิ้ม "อากาศหนาวเกินไป ท่านฮูหยินบอกว่าไม่อยากออกมาเดินเล่น จึงให้ข้ามาแจ้งองค์หญิงใหญ่"
หยุนชางมองผ่านนาง มองไปด้านหลังโดยไม่เห็นใครเลย จึงถามอีกครั้งว่า "เหยียนเอ๋อร์ เจ้ามิได้พามาด้วยหรือ?"
เสิ่นอี๋หลาน ขดริมฝีปากของนางเมื่อได้ยินคำพูดนั้น "ที่นี่มีแต่บรรยกาศเลวร้าย จะพาเขามาได้อย่างไร ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนท่านฮูหยินจะดีกว่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง