เมื่อกั๋วกงฮูหยินได้ยินลั่วชิงเหยียนถามเช่นนั้นก็อึ้งไป นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวออกมาอย่างลังเล "ไม่ใช่หรือ? หรือว่าไม่ใช่ท้องแรกหรือ?" หลังจากพูดแล้วนางก็หันไปมองหยุนชางที่ยิ้มฟังพวกเขาคุยกันอยู่ด้านข้าง
ลั่วชิงเหยียนก็มองตามกั๋วกงฮูหยินไปที่หยุนชางเช่นกัน หัวใจของเขาดูเหมือนจะถูกบีบรัดแน่น
หยุนชางยิ้มบางเบา เสียงของนางอ่อนโยนนุ่มนวล "แน่นอนว่าเป็นท้องแรก"
กั๋วกงฮูหยินครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะดึงสติกลับมาและหันไปมองลั่วชิงเหยียนที่ดูเหมือนจะกำลังอึ้งไปและพูดเบาๆ "รุ่ยอ๋องยังไม่รู้เรื่องที่เจ้าท้องหรือ?"
รอยยิ้มของหยุนชางยิ่งกว้างขึ้น นางพยักหน้าก่อนจะตอบว่า "ใช่เจ้าค่ะ ท่านอ๋องเพิ่งฟื้นและมีเรื่องมากมายที่จะต้องบอกเขา ข้าเลยลืมเรื่องนี้ไปเสียได้"
น้ำเสียงของนางราบเรียบจนไม่อาจราบเรียบไปกว่านี้ได้อีก
ลั่วชิงเหยียนยังไม่หายจากอาการตกใจ
กั๋วกงฮูหยินหัวเราะ "เจ้านี่ เรื่องยุ่งๆ พวกนั้นจะสำคัญเท่าเรื่องนี้ได้อย่างไร เจ้าจงใจเสียมากกว่า"
แย่แล้ว ถูกกั๋วกงฮูหยินเปิดโปงเจตนาของนางออกมาอย่างชัดเจน
หยุนชางก้มศีรษะลงและยิ้มบางๆ และมุมปากของนางยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"ชางเอ๋อร์ เจ้าท้องหรือ? จริงหรือเปล่า? เจ้าท้องแล้วจริงหรือ?" ลั่วชิงเหยียนที่ดูเหมือนจะได้สติแล้วรีบพุ่งเข้าไปหาหยุนชางและคุกเข่าลงด้านหนึ่งอยู่เบื้องหน้าพลางจ้องมองนาง
หยุนชางพยักหน้าแล้วขยิบตาให้ลั่วชิงเหยียน
สิ่งที่เขากำลังรอคอยก็คือการพยักหน้าของนางเมื่อครู่ เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็กอดหยุนชางและหัวเราะเสียงดัง "ดียิ่งนักๆ เจ้าตั้งครรภ์แล้ว มีลูกของเราแล้ว ลูกของเรา... " เสียงนั้นถูกกลืนหายไปในลำคอ
หางตาของหยุนชางร้อนผ่าวและเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมา
เมื่อกั๋วกงฮูหยินเห็นดังนั้นก็รีบกล่าวว่า "ระวังหน่อย ชางเอ๋อร์ตอนนี้ไม่อาจทำเช่นนี้ได้"
ลั่วชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็รีบวางหยุนชางกลับลงบนเก้าอี้แล้วรีบสำรวจไปทั่วตัวหยุนชางอย่างประหม่า "ชางเอ๋อร์ไม่เป็นไรนะ? ข้าทำให้เจ้าเจ็บหรือเปล่า? ข้า... ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าเพียงแต่มีความสุขมากไปหน่อย" เขารีบปล่อยมือที่กอดหยุนชางไว้ ท่าทางลังเลราวกับอยากจะกอดนางแต่ก็กลัวที่จะทำนางเจ็บ ดวงตาของเขาฉายแววสับสน
หยุนชางยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อย นางยื่นมือออกไปจับมือของลั่วชิงเหยียนและยิ้มบางๆ ให้เขา
"ไม่ได้เรื่อง" เมื่อเห็นท่าทางของลั่วชิงเหยียน ฮวากั๋วกงก็แค่นเสียงออกมา เพียงแต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
กั๋วกงฮูหยินดึงแขนของฮวากั๋วกงและถลึงตามองเขา เมื่อเห็นคู่หนุ่มสาวตรงหน้ามีท่าทางเช่นนี้ก็รู้ว่าพวกเขามีเรื่องให้ต้องคุยกันอีกมากมาย นางจึงลุกขึ้นและลากฮวากั๋วกงออกมาจากห้องรับแขกไปเงียบๆ อย่างรู้งาน
ลั่วชิงเหยียนในตอนนี้ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาอีกนอกจากหยุนชาง เขาเพียงยืนขึ้นและโอบหยุนชางเข้าสู้อ้อมกอดอย่างระมัดระวัง ในปากก็พึมพำว่า "ดีจริงๆ ข้าจะได้เป็นพ่อคนแล้ว"
หยุนชางปล่อยให้เขากอดไว้ตามใจโดยรอยยิ้มที่มุมปากไม่หายไปเลยสักนิด
ผ่านไปครู่ใหญ่ลั่วชิงเหยียนจึงสงบลงเล็กน้อย ปล่อยมือจากหยุนชางแล้วรีบวิ่งไปบอกให้ข้ารับใช้เพื่อให้ไปเรียกหมอมา ทำให้พ่อบ้านคิดว่าเกิดเรื่องขึ้นจึงได้ให้คนไปเชิญหมอมาอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง