ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 587

หยุนชางรู้มานานแล้วว่าหากลั่วชิงเหยียนรู้เรื่องนี้แล้วเขาจะต้องคาดคั้นถามนางอย่างแน่นอน นางจึงได้เตรียมข้ออ้างไว้แต่แรก "เรื่องกำจัดไพร่พลขององค์หญิงใหญ่สำคัญมาก แต่เหล่าทหารอวี้หลินคุ้นเคยเพียงเมืองจิ่นเท่านั้น ข้ากังวลว่าจะเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นจึงได้ตามไปด้วย ก่อนไปข้าก็ได้เตรียมตัวอย่างดี ความเร็วที่เราเดินทางก็ไม่เร็วนัก อีกทั้งข้ายังรู้วิชาแพทย์ ดังนั้นจึงจะไม่เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นแน่"

ลั่วชิงเหยียนถอนหายใจเบาๆ "ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพื่อข้า แต่ต่อไปนี้เจ้าห้ามทำเช่นนี้อีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าก็ห้ามไม่ใส่ใจร่างกายของเจ้าอีก"

หยุนชางคิดไม่ถึงว่าเขาจะให้อภัยตนเองอย่างง่ายดาย นางจึงผงกศีรษะรับคำอย่างรวดเร็ว

ต่อมาอีกหลายวันเซี่ยหวนอวี่ก็ยังไม่ได้ออกว่าราชการ ลั่วชิงเหยียนเข้าวังไปครั้งหนึ่ง แต่เมื่อกลับมากลับมีสีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนัก เขาเพียงบอกว่าเซี่ยหวนอวี่ต้องการใช้โอกาสนี้กวาดล้างราชสำนักเสียหน่อย เขาจึงอยู่เป็นเพื่อนกับหยุนชางในจวน

หยุนชางก็คร้านจะใส่ใจเรื่องที่เกิดเรื่องต่อ เวรยามในพระราชวังลดลงเล็กน้อย เรื่องราวมากมายในวังเข้าถึงหูหยุนชาง วันนั้นหนิงเชียนส่งจดหมายจากวังในบอกว่าลั่วชิงเหยียนและเซี่ยหวนอวี่ดูเหมือนจะทะเลาะกันใหญ่โต นางกำนัลที่อยู่นอกตำหนักกล่าวว่าพวกเขามีปากเสียงกันค่อนข้างรุนแรงและในบทสนทนานั้นยังเอ่ยถึงพระชายารุ่ยอ๋องไม่หยุดหย่อน

หยุนชางเดาในใจอยู่นานก็เดาไม่ออกเลยว่าทำไมพวกเขาถึงทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามลั่วชิงเหยียน

จวบจนวันที่หกเซี่ยหวนอวี่จึงออกราชโองการออกว่าราชการอีกครั้ง

ในวันแรกของการออกว่าราชการนั้นก็ได้มีการออกราชโองการอีกหลายฉบับจัดการกับเหล่าขุนนางจำนวนมาก หลิ่วจิ้นถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหากบฏและยังมีขุนนางอีกจำนวนมากที่หยุนชางไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน มีทั้งถูกลดตำแหน่ง หนักหน่อยก็โดนประหาร

อย่างไรก็ตามรายชื่อขุนนางที่ต้องโทษเหล่านี้ส่วนมากนั้นสายลับเคยมารายงานนางแล้วว่าเป็นผู้ที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติในระหว่างที่เซี่ยหวนอวี่หายตัวไป

การลงมืออันรวดเร็วเช่นนี้ของเซี่ยหวนอวี่ แค่มองก็รู้ว่าได้เตรียมการมาตั้งแต่ต้นแล้ว

เตรียมการไว้แล้ว... หยุนชางยกยิ้มที่มุมปาก เกรงว่าการหายตัวไปครั้งนี้คงอยู่ภายใต้การควบคุมของเซี่ยหวนอวี่เช่นกัน

จิ้งจอกเฒ่า หยุนชางแอบคิดในใจ นางสงสารที่นางถูกเขาหลอกใช้

อีกสองวันต่อมาเป็นวันแต่งงานขององค์ชายเจ็ด หยุนชางถูกลั่วชิงเหยียนกักตัวอีกครั้ง เป็นเวลานานแล้วที่นางไม่ได้ออกจากจวน นางจึงใช้โอกาสที่องค์ชายเจ็ดแต่งงานนี้ขึ้นรถม้าไปด้วยกันกับลั่วชิงเหยียนเพื่อไปร่วมงานเฉลิมฉลอง

หยุนชางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย ตามหลักแล้วหลิ่วจิ้นกำลังจะถูกประหารชีวิต จวนหลิ่วกำลังถูกทำลายลง เช่นนั้นหลิ่วฉูฉู่ที่เดิมทีจะได้เป็นชายารองขององค์ชายเจ็ดจะยังคงได้แต่งงานหรือไม่?

เมื่อนางถามคำถามนี้กับลั่วชิงเหยียน เขาก็ยิ้มและตอบว่า "ทำไมจึงจะแต่งงานไม่ได้เล่า แม้ว่าหลิ่วฉูฉู่จะไม่ได้สูงส่งเท่าใดนัก แต่นางก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหญิงเปี่ยมความสามารถอันดับหนึ่งในเมืองจิ่น อีกทั้งยังเป็นเพียงชายารอง จะไปสำคัญอะไร อีกอย่างเมื่อรับคนสกุลหลิ่วแต่งเข้าไปแล้ว ต่อไปอาจเกิดเรื่องอะไรอีกก็ยังไม่แน่"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยุนชางก็อึ้งงัน นางนึกไปถึงว่าแม้ว่าภายนอกองค์ชายเจ็ดจะดูอ่อนโยน แต่จิตใจของเขากลับเป็นดังอสรพิษ ยามนี้เมื่อหลิ่วฉูฉู่ไม่มีประโยชน์อันใดกับเขา เกรงว่านางคงจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี

น่าเสียดายที่หญิงสาวผู้มีนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นฮวาอวี้ถงจะต้องถูกลิขิตให้ไม่มีความสุขกับการแต่งงานครั้งนี้

งานแต่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ แม้ว่าองค์ชายเจ็ดจะสุขภาพอ่อนแอ แต่เขาก็สั่งสมชื่อเสียงอันดีงามอย่างมากในหมู่ประชาชน แม้เป็นวันกลางฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็นอย่างยิ่ง ตลอดทางจากจวนของนางไปจนถึงจวนองค์ชายเจ็ดสุด หยุนชางก็เห็นผู้คนมากมายมาร่วมมุงดู

ทั้งชายาเอกและชายารองแต่งเข้าจวนในวันเดียวกัน งานแต่งนั้นจึงจัดอย่างอลังการ ทั่วทั้งเมืองจิ่นราวกับนำผ้าสีแดงมาคลุมไว้ มองเห็นเป็นสีแดงไปไกลถึงสิบลี้ก็เป็นเพียงเรื่องเท่านี้

หยุนชางและลั่วชิงเหยียนเข้าไปในจวนอ๋องเจ็ดด้วยกัน เขาออกไปรับเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว พ่อบ้านก็กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทักทายแขก เมื่อเห็นหยุนชางและลั่วชิงเหยียน เขาก็รีบสั่งให้คนพาทั้งสองไปยังห้องที่ใช้รับรองแขกผู้สูงศักดิ์ทันที

ในห้องนั้นมีเพียงคนจากจวนกั๋วกงและจวนซู รวมทั้งเหล่าองค์หญิงและราชบุตรเขย องค์หญิงเหล่านั้นต่างก็ผ่านพิธีปักปิ่นและได้มีจวนองค์หญิงเป็นของตนเองแล้ว หยุนชางจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับพวกนางนัก พวกนางเดินเข้ามาย่อกายเคารพหยุนชางและลั่วชิงเหยียนแล้วจึงกลับไปนั่งลงอีกครั้ง

ฮวากั๋วกงและกั๋วกงฮูหยินต่างก็มาถึงแล้ว หยุนชางและลั่วชิงเหยียนจึงตรงไปทักทายและนั่งพูดคุยอยู่ด้านข้างพวกเขา

ซูฉีและฮูหยินของเขาก็นั่งอยู่แล้วเช่นกัน ซูฮูหยินดูเป็นผู้ที่เข้าหายาก ในมือของนางถือลูกประคำไว้และไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาเลย

หยุนชางมองสำรวจอย่างละเอียดแล้วดูเหมือนว่ายังไม่มีคนจากในวังมาถึง ตามหลักแล้วเมื่อมีองค์ชายแต่งงาน แม้ว่าเซี่ยหวนอวี่จะไม่มา อย่างน้อยมารดาขององค์ชายก็ควรจะมา แต่ไม่รู้ว่ามารดาขององค์ชายเจ็ดจะจัดการอย่างไร

เมื่อผ่านไปราวครึ่งชั่วยามก็เห็นฮองเฮานำเหล่านางกำนัลเข้ามาในจวน มองดูอยู่ครู่หนึ่งก็ไปที่ห้องด้านข้าง

หยุนชางดึงแขนเสื้อของลั่วชิงเหยียนและชี้ไปที่ฮองเฮาราชินีที่เดินผ่านลานมาให้เขาดู ลั่วชิงเหยียนครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจึงดึงหยุนชางให้ลุกขึ้นออกจากบ้านไป

องค์หญิงคนอื่นๆ ก็เห็นแล้วเช่นกันจึงตามลั่วชิงเหยียนและหยุนชางไปพร้อมกับสามีของพวกนาง

ไม่ว่าอย่างไรฮองเฮาก็มาแล้ว พวกเขาที่เป็นองค์หญิงองค์ชายก็ต้องไปถวายพระพร

ประตูห้องรับรองของฮองเฮามีนางกำนัลเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นลั่วชิงเหยียนและคนอื่นๆ ก็เข้าไปรายงานแล้วจึงเชิญพวกเขาเข้าไป

"ถวายพระพรเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ" ทุกคนเดินไปข้างหน้าฮองเฮาแล้วทำความเคารพ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง