จิ้งอ๋องไม่เคยชอบเข้าร่วมงานเลี้ยงชมวิวทิวทัศน์อะไรเหล่านี้เลย นอกจากนี้หัวจิ้งและจิ้งอ๋องก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน จู่ๆทำไมจึงได้ส่งคำเชิญถึงจิ้งอ๋องนะ?
หยุนชางเพียงอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วรีบตอบ "ได้สิ ข้าไม่ได้อยู่ในวังมาหลายปีแล้วและก็ไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักใครเลย สามารถใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักคนอื่นเสียหน่อย ว่ากันว่าหญิงสาวทุกคนในราชสำนักต่างก็มีพรสวรรค์และสวยงามราวกับดอกไม้ เพียงแค่คิดข้าก็รู้สึกว่าข้ากำลังตั้งตารออยู่เลย"
หลังชิงเอ๋อร์พาหยุนชางกลับไปที่ลานแล้วก็จากไปอย่างเร่งรีบ เฉี่ยนอินเดินค้นหากลับไปกลับมาอยู่ในลานหลายรอบแล้วจึงกลับมาบอกนางว่า "ข้าดูแล้ว ข้างนอกมีคนเฝ้าอยู่เจ็ดคน แต่ไม่มีใครอยู่ในลาน ข้าเดาว่าพวกเขาคงกลัวองค์จะไล่พวกเขา"
หยุนชางพยักหน้าและไม่พูดอะไร แต่กลับเป็นฉิงยีเอ่ยปากขึ้น "ในจวนองค์หญิงนี้เต็มไปด้วยคนขององค์หญิงหัวจิ้ง เราต้องระวังตัวให้มากเพื่อให้ตกอยู่ในกับดักของนาง วันนี้หากองค์หญิงงป้องกันไว้แต่แรกจัดคนไว้ที่หอยวี่หมั่นรอไว้ล่วงหน้า เกรงว่าเรื่องในวันนี้จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง"
หยุนชางยิ้ม "ฉิงยี เจ้าไม่ฉลาดเท่าท่านแม่ เจ้าดูสิ ท่านแม่ตั้งครรภ์และนางยังเข้าไปอยู่ในวังชีอู๋ นี่เป็นเพราะอะไรกัน? เพราะวังชีอู๋เป็นที่ของฮองเฮา หากเกิดเรื่องกับนางขึ้นในวังชีอู๋แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ฮองเฮาก็จะไม่สามารถปัดความรับผิดชอบไปได้ ตอนนี้ข้าอาศัยอยู่ในจวนขององค์หญิงหัวจิ้ง หากข้าเป็นอะไรไป คนที่จะซวยก็คือ..."
"องค์หญิงหัวจิ้ง" เฉี่ยนอินหัวเราะคิกคัก "องค์หญิงช่างฉลาดจริงๆ"
หยุนชางยิ้มและมองเฉี่ยนอิน นางถอนหายใจอย่างจนปัญญาแล้วพูดขึ้นอีกว่า "ดังนั้นชีวิตน้อยๆของข้าจึงปลอดภัยอยู่ชั่วคราว แต่หัวจิ้งพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาข้าเข้ามาอศัยอยู่ที่จวนองค์หญิงแห่งนี้ คิดว่าคงไม่ได้ให้มาอยู่สบายๆแน่ ให้ข้ามาเรียนรู้เรื่องจัดงานเลี้ยงหรืออะไรนั่น ตอนนี้ข้ายังไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไร แต่ว่าเรื่องจะจัดการนางยังไงข้ามีความคิดอยู่บางอย่าง"
เฉี่ยนอินได้ยินดังนั้นก็รีบโน้มตัวไปข้างหน้า มองหยุนชางตาปริบๆ "ในที่สุดองค์หญิงก็จะจัดการกับผู้หญิงคนนั้นแล้วใช่หรือไม่เพคะ?"
หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "ใช่แล้ว ทุกครั้งเป็นนางที่ลงมือกับข้า ทุกครั้งข้าต้องคอยเป็นฝ่ายรับมือ คราวนี้อย่างไรก็ต้องถึงตาข้าลงมือบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ?"
"องค์หญิงมีความคิดดีๆอะไรหรือเพคะ?" เฉี่ยนอินรีบถาม
หยุนชางกระพริบตาและกระดิกนิ้วเป็นสัญญาณให้ทั้งสองเข้ามาใกล้ ทั้งสองจึงรีบลุกขึ้นมา หยุนชางกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของพวกนาง ทั้งสองคนได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทางมีความสุขมาก ผ่านไปซักพักฉิงยีจึงยิ้มและพูดว่า "ข้าเห็นว่าวันนี้ ท่านฮูหยินดูเคร่งครัดในศาสนาพุทธมาก นางมององค์หญิงถือคัมภีร์พระพุทธศาสนาเดินผ่านไป แม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไร แต่ข้ามองนางแล้ว นางดูมีความสุขมาก หากทำตามวิธีนี้ขององค์หญิง นางจะต้องเชื่ออย่างแน่นอน"
หยุนชางพยักหน้าเล็กน้อย ในใจแอบคิดว่าเรื่องบางเรื่องถูกกำหนดไว้ให้เกิดขึ้น ดังนั้นนางจึงไม่อาจลังเลจนปล่อยโอกาสอันดีเยี่ยมนี้ไป
เจ้านายและข้ารับใช้ทั้งสามพูดกันครู่หนึ่งแล้วก็พักผ่อน
หลังจากรับประทานอาหารเช้าในวันที่สอง หัวจิ้งก็นำคนมาและขอให้หยุนชางเข้ามาฟังว่า "การจัดงานเลี้ยง ถ้าเป็นเช่นงานเลี้ยงเล็กๆที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้ ต่างก็เชิญเหล่าคนเก่งและหญิงงามมา สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำหนดหัวข้อหลักของงาน หัวข้อต้องสง่างาม ตัวอย่างเช่นในครั้งนี้องค์หญิงหัวจิงตั้งหัวข้อหลักเป็นความฝันชั่วชีวิต เมื่อกำหนดหัวข้อได้แล้วก็ต้องเตรียมการเรื่องทั้งหมดให้สอดคล้องกับมัน เช่น การจัดแต่งงานเลี้ยง การแต่งหน้าและการสร้างบรรยากาศบางอย่าง แม้แต่วิธีรับแขกเข้ามาและส่งแขก การเต้นรำของนางรำ ชื่อของอาหารแต่ละจานก็ต้องสัมพันธ์กับหัวข้อหลักนี้อย่างใกล้ชิด"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง