เมื่อทั้งสองทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ลั่วชิงเหยียนก็สั่งให้สายลับเสริมกำลังคุ้มกันจวน เขาเกรงว่าองค์ชายเจ็ดจะโมโหและจะลงมือทำการใดอีก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาไม่ปกตินักจะปล่อยให้คนฉวยโอกาสไม่ได้
หลังจากจัดการเสร็จแล้ว เขาก็ไปเดินเล่นกับหยุนชางในจวนและพักผ่อนแต่หัวค่ำ
วันต่อมาเป็นวันที่สามหลังปีใหม่ยังคงงดว่าราชการ แต่ลั่วชิงเหยียนกลับตื่นแต่เช้าตรู่ เมื่อหยุนชางตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เมื่อเห็นว่าลั่วชิงเหยียนไม่อยู่ข้างกายนางจึงถามขึ้นว่า "ท่านอ๋องไปไหน?"
ฉินยีรีบตอบว่า "ห้องหนังสือเพคะ ไปได้สักพักแล้ว เมื่อครู่หม่อมฉันไปส่งชาเห็นว่ามีคนมาเยี่ยมดูเหมือนว่าจะมีเรื่องเพคะ
หยุนชางครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าน้อยๆ หลังจากล้างหน้า นางก็รับประทานอาหารเช้าแล้วจึงนั่งลงแต่งตัวหน้าคันฉ่อง
"เฉี่ยนจั๋วล่ะ?" หยุนชางมองไปรอบๆ และไม่เห็นว่าเฉี่ยนจั๋วและเฉี่ยนหลิ่วอยู่ในห้องจึงถามขึ้นอีก
ฉินยียิ้มและกล่าวว่า "เฉี่ยนจั๋วคิดว่าเมื่อพระชายาตื่นมาจะต้องอยากรู้เรื่องของจวนท่านอ๋องเจ็ดและคนขับรถม้าผู้นั้นเป็นแน่ นางกับเฉี่ยนหลิ่วจึงแยกกันออกไปสืบข่าว หม่อมฉันเห็นว่าไม่นานพระชายาก็คงตื่นจึงได้กำชับทั้งสองให้รีบกลับมา พวกนางก็น่าจะใกล้กลับมาแล้วเพคะ"
หยุนชางพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
คำพูดของฉินยีนั้นไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย หยุนชางยังไม่ทันเกล้ามวยเสร็จ เฉี่ยนจั๋วและเฉี่ยนหลิ่วก็กลับมา
เฉี่ยนจั๋วเดินมาที่ด้านหลังของหยุนชางอย่างรวดเร็ว "พระชายา หม่อมฉันสืบความได้ว่าเมื่อวานนี้ท่านอ๋องเจ็ดคุกเข่าอยู่นอกตำหนักไท่จี๋ทั้งคืน พร่ำบอกว่าเขาถูกปรักปรำและขอให้ฝ่าบาททำการสอบสวนอย่างละเอียด"
"หือ?" หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็เลิกคิ้วพร้อมแย้มยิ้ม "ร่างกายเช่นนั้นของเขาสามารถคุกเข่าได้ทั้งคืนหรือ?"
"นั่นสิเพคะ" เฉี่ยนจั๋วผงกหัวซ้ำๆ "ได้ยินว่าคุกเข่าทั้งคืนเลยเพคะ แต่พระชายาพูดไม่ผิดเลย เช้าวันนี้ท่านอ๋องเจ็ดก็หมดสติไป แต่แม้ว่าเขาจะหมดสติไปแล้ว ฝ่าบาทก็ไม่ได้ส่งเขากลับจวนและไม่ได้ให้คนไปตามหมอหลวงมา ฝ่าบาทให้เขานอนอยู่หน้าตำหนักไม่ขยับไปไหนเลยเพคะ คิดว่าฝ่าบาทคงจะโกรธเป็นอย่างมากจริงๆ"
หยุนชางหยิบริบบิ้นผ้าไหมสีฟ้าออกมาจากลิ้นชักพลางยิ้มแล้วยื่นให้ฉินยี "ผูกผมก็พอแล้ว ไม่ต้องใช้ปิ่นอะไรพวกนั้นหรอก"
ฉินยีพยักหน้ารับ หยุนชางยิ้มเย็น "อุบายทนทุกข์กายนับว่าแสดงได้ไม่เลวเลย"
"โชคดีที่ฝ่าบาทไม่ได้ยกโทษให้เขาเพราะเรื่องนี้ กรรมตามสนองแท้ๆ" นัยน์ตาของเฉี่ยนจั๋วเปล่งประกายยินดี
หยุนชางกลับส่ายหัวเอ่ยอย่างนุ่มนวล "ไม่ ฝ่าบาทใจอ่อนลงแล้ว"
"หา?" เฉี่ยนจั๋วตกตะลึงและไม่ค่อยเข้าใจนัก "แต่เห็นๆ ว่าฝ่าบาทไม่ใส่ใจท่านอ๋องเจ็ดนี่เพคะ ไม่ใช่ว่าท่านอ๋องเจ็ดหมดสติไปแล้วหรือ? แต่ก็ยัง…"
ฉินยีช่วยหยุนชางผูกผมแล้วจึงหวีหางม้านั้น "บางครั้งก็อย่ามองแค่เพียงผิวเผิน โดยเฉพาะกับเหล่าคนในราชวงศ์ บางครั้งยิ่งใส่ใจก็ยิ่งดูเฉยเมย"
ดวงตาของเฉี่ยนจั๋วเต็มไปด้วยความข้างใจและยังมีท่าทางราวกับว่าไม่เข้าใจ
หยุนชางเห็นว่าเขาขมวดคิ้วมุ่น นางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ยิ้มและไปลากลั่วชิงเหยียนมา "ท่านอ๋อง ดูสิว่าเอวของข้าใหญ่ขึ้นเล็กน้อยหรือไม่ ลูกของเราโตขึ้นอีกแล้ว"
ลั่วชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็หันกลับมาเพ่งมองหยุนชาง สายตาของเขาอ่อนลงเล็กน้อย หลังเพ่งพินิจดูอยู่ชั่วครู่ เขาก็ส่ายหัวและพูดว่า "ไม่นี่ ข้าว่ายังเล็กเหมือนเดิม..."
หยุนชางเห็นท่าทางงุนงงของเขาก็หัวเราะออกมาพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า "วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว งดว่าราชการเป็นวันสุดท้ายแล้ว นานๆ จะไม่ต้องทำงานเสียที สองวันก่อนก็มัวแต่ยุ่งกับการฉลองปีใหม่ ดังนั้นวันนี้ออกจากจวนไปเดินเที่ยวเป็นเพื่อนข้าเถอะเพคะ ท่านเคยบอกว่าจะไปวัดเป็นเพื่อนข้าตอนตรุษจีน"
ลั่วชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย "แต่ว่า..." เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าเปี่ยมหวังของหยุนชางก็ใจอ่อน เขาจึงพยักหน้า "ก็ดี ออกไปเดินเล่นกันเถอะ"
หยุนชางยิ้มและตอบว่า "พวกเราไม่คุ้นเคยกับเมืองจิ่น เดี๋ยวให้มามาสองคนนั้นตามไปและหาวัดที่ใกล้หน่อยไปเดินเล่น"
ลั่วชิงเหยียนไม่มีความคิดเห็นใด หยุนชางจึงได้ขอให้ฉินยีและเฉี่ยนหลิ่วเตรียมตัว เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ทั้งหมดก็ขึ้นรถม้าไป
วัดที่อยู่รอบเมืองจิ่นนั้นไม่น้อยเลย หยุนชางเลือกวัดหลิงอิ่นที่อยู่ใกล้
วัดหลิงอิ่นอยู่ทางตะวันออกของเมืองจิ่น เมื่อรถม้าออกจากเมืองลั่วชิงเหยียนก็ขมวดคิ้วขึ้น "มีคนตามมา" เขาพูดแล้วจึงแหวกม่านออกสั่งให้คนไปจัดการเสีย
หยุนชางรีบจับมือของเขาและยิ้มขึ้น "ในแคว้นเซี่ย พวกเราก็เป็นคนที่ทุกคนจับตามอง ยิ่งมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หากพวกเขาอยากตามก็ให้ตามมาเถอะ ตราบใดที่ไม่ได้ทำอะไร พวกเราก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกเพคะ อย่างไรพวกเราก็เพียงไปจุดธูปบูชาพระกันเท่านั้น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง
สนุกมากค่ะ ขอบคุณนะคะ...
ทำไมถึงอ่านบทที่ 18 และอื่นๆต่อไปไม่ได้...