ถูกคนที่สถานะสูงกว่ากดขี่ ฮูหยินจ้าวตาเป็นประกายมองไปยังหัวจิ้ง ยกมือชี้ไปที่นางอย่างสั่นเทาและกล่าวว่า "เป็นเจ้า จะต้องเป็นเจ้าแน่"
เมื่อหัวจิ้งได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกไร้เหตุผลจึงขมวดคิ้วและพูดว่า "ท่านหมายความว่าอย่างไร? ข้าอะไร?"
ฮูหยินจ้าวสงบลงแล้ว สายตาของนางหนักแน่นมากและกล่าวว่า "นอกจากเจ้า ในจวนนี้จะยังมีใครสถานะสูงไปกว่าอิ๋งเจี๋ยอีกเล่า ตั้งแต่เขาแต่งงานกับเจ้าก็ถูกเจ้าสั่งให้ย้ายเข้าไปอยู่ในจวนองค์หญิง ถูกกดดันไปเสียทุกอย่าง จะต้องเป็นเจ้าอย่างแน่นอน"
หัวจิ้งจึงได้เข้าใจว่าฮูหยินจ้าวหมายความว่าอย่างไร นางยิ้มเย็น "เสียแรงที่ข้าเรียกท่านว่าแม่มาเสียตั้งนาน ยามปกติท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างถากถางดูถูกและวางอำนาจต่อข้ามาตลอด วันนี้ฟังคำพูดข้างเดียวของพระที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่แยกแยะผิดถูกเอาความผิดทั้งหมดมาลงที่ข้า ลูกของท่านก็ยังไม่เป็นไร ท่านเชื่อในคำพูดของพระนี่ขนาดนี้ เขาต่างหากที่กำลังสาปแช่งบุตรชายของท่าน"
หยุนชางได้ยินถ้อยคำนั้นจึงรีบก้าวไปข้างหน้า "ฮูหยิน ศิษย์พี่เพียงแต่ทำนายไปตามอักษรเท่านั้น นอกจากนี้ตอนนี้ท่านราชบุตรเขยก็อยู่ในสนามรบไกลออกไปที่ชายแดน จะถูกเสด็จพี่กดขี่ไปได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นพวกเราลองส่งคนไปที่ชายแดนเพื่อสอบถามสถานการณ์ของเขาแล้วค่อยวางแผนระยะยาว ท่านคิดว่าอย่างไร?"
ฮูหยินจ้าวมองหัวจิ้งด้วยสายตาแหลมคม เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนชางก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา สะบัดแขนเสื้อหันหลังเดินออกจากห้องอาหารไป
"เสด็จพี่ ฮูหยินใหญ่เพียงแค่รักลูกชายของนางมากเท่านั้น ท่านอย่าคิดมากไปเลย ข้าจะออกไปส่งศิษย์พี่อู๋ตี้ก่อน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสืบข่าวสานการณ์ในสนามรบอย่างไร ไม่เช่นนั้นเสด็จพี่ลองไปขอร้องเสด็จแม่ให้นางหาคนไปสอบถามเรื่องท่านราชบุตรเขย เพื่อทำให้คนสบายใจ" หยุนชางจับเสื้อผ้าของหัวจิ้งเบาๆและพูดอย่างนุ่มนวล
หัวจิ้งแค่นเสียงพูดอย่างเย็นชา "ข้าต้องให้คนไปถามข่าวคราวของจ้าวอิงเจี๋ยมาอยู่แล้ว พอถึงเวลานั้นให้นางดูสิว่าใครถูกใครผิดกันแน่" หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังกลับออกไปจากห้องอาหารเช่นกัน
หยุนชางมองไปที่แผ่นหลังของหัวจิ้ง ดวงตาของนางมีแววขบขัน จนกระทั่งแผ่นหลังของหัวจิ้งค่อยหายลับไป นางหันกลับมาและพูดกับอู๋ตี้ว่า "ขอโทษนะเจ้าคะ ศิษย์พี่อู๋ตี้"
อู๋ตี้พนมมือเข้าหากันและให้พร "อมิตตาพุทธ บาปกรรม บาปกรรม"
หยุนชางยิ้มบางๆ "ชางเอ๋อร์ส่งศิษย์พี่กลับไปดีกว่า"
หยุนชางพาอู๋ตี้ออกมาจากจวนองค์หญิงและบอกลาเขา แล้วหันไปมองดูจวนองค์หญิงอันหรูหราตระการตาท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สะท้อนเข้ามา ที่ประตูจวนเขียนว่า "จวนองค์หญิงซีผิง" ฉิงยีและเฉี่ยนอินมองตามสายตาของหยุนชางไป เฉี่ยนอินกระพริบตาและยิ้มว่า "องค์หญิง จวนองค์หญิงของท่านควรชื่อ'จวนองค์หญิงจินหลิง' นะเพคะ ปกติจวนขององค์หญิงจะตั้งชื่อตามศักดิ์ เมื่อคิดถึงตอนแรกที่องค์หญิงหัวจิ้งเห็นแผ่นป้ายนี้เข้าก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย ฮ่าฮ่า"
"ซนจริง" หยุนชางหันไปมองเฉี่ยนอินแล้วพูดยิ้มๆ "ในเมื่อวันนี้ออกมาแล้ว ไปเดินเล่นในเมืองเสียหน่อยดีกว่า ข้ากลับมาที่วังนานแล้วแต่ข้ายังไม่เคยไปเดินเล่นในเมืองเลย"
ฉิงยีพยักหน้า "ตอนที่กลับวังมามองดูผ่านรถม้าที่วิ่งอย่างเร่งรีบ รู้สึกว่าทุกวันนี้ในเมืองรุ่งเรืองกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้คนอยากลองไปสัมผัสดูอย่างละเอียด ข้าจะไปบอกพ่อบ้านก่อนนะเพคะ"
หยุนชางพยักหน้า "ไปเถอะ ข้ากับเฉี่ยนอินจะรอเจ้าอยู่ที่นี่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง