หนิงเฉี่ยนตอบและสั่งให้นางกำนัลเตรียมอาหาร นางกำนัลเตรียมอาหารเต็มโต๊ะ เซี่ยหวนอวี่เดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วเงยหน้าขึ้น "นั่งลงกันเถิด พวกเจ้าแต่ละคนมิใช่คนที่มากพิธีกระไรอยู่แล้ว มิจำเป็นต้องแสร้งทำเช่นนี้ต่อหน้าเจิ้นหรอก"
หยุนชางยิ้ม แต่ไม่เข้าใจว่าคำว่า "แสร้งทำ" เป็นคำชมหรือคำด่ากันแน่
กฎในวังนั้นเข้มงวดมาก ปกติแล้วเสวยพระกระยาหารห้ามออกเสียงใดๆทั้งนั้น พวกเขาสี่คนเสวยพระกระยาหารค่ำพร้อมกัน จากนั้นเซี่ยหวนอวี่ก็อยู่ต่อที่ตำหนักเซียงจู๋และเล่นหมากรุกกับลั่วชิงเหยียนอยู่ข้างๆ
หนิงเฉี่ยนสั่งให้คนใช้เตรียมอาหารส่งไปที่ตำหนักในให้กับหลินโยวหราน จากนั้นนางก็นั่งชมทั้งคู่เล่นหมากรุกอยู่ข้างๆพร้อมกับหยุนชาง
เมื่อเล่นหมากรุกมาถึงครึ่งทาง ฉินยีก็กลับมาแล้ว ดูท่าทีแล้วนางคงรีบมาพอสมควรเพราะว่านางหอบเล็กน้อย หยุนชางมองดูคนสองคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนกระดานหมากรุก นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเรียกฉินยีเดินเข้าไปทางตำหนักใน
"มีเรื่องอะไรก็คุยกันที่นี่สิ เจ้าจะเดินไปไหน?" เสียงของเซี่ยหวนอวี่ดังขึ้น เสียงของเขานิ่งสงบ แต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกหนาวเหน็บเล็กน้อย
หยุนชางลืมตาขึ้นมามองเซี่ยหวนอวี่ แววตาของเขายังคงจ้องไปที่กระดานหมากรุก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้นั่งลง และกล่าวต่อฉินยีว่า " สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เขาว่าอย่างไร?"
ฉินยีมองไปที่เซี่ยหวนอวี่อย่างระแวง แววตาของนางสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินหยุนชางกล่าวเช่นนี้ นางก็ตอบอย่างรวดเร็วเช่นกัน "หม่อมฉันได้นำท่อนไม้นั้นไปให้ช่างไม้ตรวจดูแล้วเพคะ ช่างไม้กล่าวว่า น้ำมันที่อยู่บนท่อนไม้นั้นมิใช่ปัญหา แต่โดยทั่วไปแล้วน้ำมันที่ใช้แปรงพื้นผิวของเครื่องใช้เป็นน้ำมันตุง ซึ่งน้ำมันตุงมีกลิ่นแรง สตรีมีครรภ์ไม่ควรดมกลิ่นนี้เท่าไหร่ มิเช่นนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตร อีกทั้งดูจากท่อนไม้ท่อนนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะทำให้กลิ่นของน้ำมันตุงอ่อนลงเล็กน้อย จึงได้ใส่เครื่องเทศผสมลงไป ซึ่งเครื่องเทศเหล่านั้นก็ไม่ดีต่อสตรีมีครรภ์เช่นกันเมื่อทั้งสองผสมเข้ากัน จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น หากว่าดมกลิ่นนั้นเป็นเวลานาน ลูกในครรภ์คงอยู่ได้ไม่ถึงสามเดือนเพคะ"
หยุนชางขมวดคิ้ว แผนการนี้ร้ายกาจมาก หากมิใช่เพราะว่าหารสัมผัสถึงกลิ่นของนางละเอียดอ่อนจึงได้กลิ่นนั้น เช่นนี้คงไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
และถึงแม้จะถูกค้นพบ แต่น้ำมันตุงเดิมก็ใช้แปรงพวกพื้นผิวของเครื่องใช้ภายในบ้านอยู่แล้ว เครื่องใช้ทั้งหมดในพระราชวังก็คงทำขึ้นในลักษณะนั้น ฉะนั้นก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก
"พวกเจ้าพูดถึงไม้กระไรกัน?" ดูเหมือนว่าเซี่ยหวนอวี่และลั่วชิงเหยียนเพิ่งจะเล่นจบไปหนึ่งเกม จากนั้นก็หันมาถามหยุนชางอย่างนิ่งๆ
หยุนชางจึงรีบลุกขึ้นยืน " ทูลฝ่าบาทเพคะ ก่อนหน้านี้หม่อมฉันพบบางอย่างในตำหนักข้างที่ฮุ่ยจาวอี๋อาศัยเพคะ ภายในตำหนักข้างนั้นทั้งโต๊ะ เก้าอี้ เตียง ฉากกั้นห้อง ตู้และโต๊ะเครื่องแป้งต่างก็เป็นเครื่องใช้ที่ทำขึ้นมาใหม่ และมันส่งกลิ่นหอมบางๆ หากไม่ดมอย่างละเอียดก็คงไม่ได้กลิ่นนั้นเพคะ หม่อมฉันสงสัยจึงหยิบท่อนไม้ชิ้นเล็กๆ จากเตียงไม้มะฮอกกานีที่ฮุ่ยจาวอี๋ใช้อยู่แล้วนำออกมาจากพระราชวังเพคะ จากนั้นจึงเอาไปให้ช่างที่มีชื่อเสียงนอกวังตรวจดูเพคะ"
สิ่งที่ฉินยีกล่าวมาเมื่อสักครู่นี้ พวกเขาก็คงได้ยินอย่างชัดเจน ฉะนั้นจึงมิต้องกล่าวซ้ำ
เซี่ยหวนอวี่ยังไม่ตอบสนองใดๆ ลั่วชิงเหยียนกลับขมวดคิ้วขึ้นมาและเดินไปข้างๆหยุนชางพร้อมกล่าวว่า "เมื่อสักครู่เจ้ายืนอยู่ในห้องนั้นไปครึ่งวัน เจ้าไม่เป็นกระไรใช่หรือไม่ ตอนนี้เจ้าก็ตั้งครรภ์อยู่เช่นกัน ... "
หยุนชางยิ้มและตบมือของลั่วชิงเหยียนเบาๆและกระซิบว่า "ไม่เป็นกระไรหรอก กลิ่นนั้นไม่ถือว่าแรงมาก หากว่าจะส่งผลไม่ดี อย่างน้อยต้องอาศัยอยู่ในนั้นไปหลายวันก่อนจึงจะส่งผล ข้าแค่ยืนอยู่ที่นั่นครู่เดียว ไม่เป็นกระไรหรอก"
"และอาการผื่นแดงของฮุ่ยจาวอี๋ที่ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วนั่น เป็นเพราะว่าร่างกายของฮุ่ยจาวอี๋ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว และยังแพ้ท้องหนักอีกด้วย ภาวะครรภ์ไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ ฉะนั้นจึงได้เกิดผลออกมาทันทีที่อาศัยไปเพียงไม่กี่วัน แต่โชคดีที่นางเกิดอาการขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นหากผ่านไปอีกสองสามวัน กลิ่นของเครื่องใช้เหล่านั้นก็คงจางหายไปบ้างแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นก็คงหาทางเริ่มตรวจสอบได้ยาก" หยุนชางยิ้มและถอนหายใจเบา ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง