ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 648

"ก่อนที่หม่อมฉันจักเดินออกมาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ทว่า เมื่อหม่อมฉันเดินออกมาแล้ว กลับเข้าใจขึ้นมาได้ว่า เกรงว่า ความรู้สึกของเสียนฮูหยินที่มีต่อความโปรนปรานต่อฝ่าบาทคงจะมิได้นิ่งเงียบเช่นนี้กระมัง นั่นคงเป็นเพราะเสียนฮูหยินรักใคร่ฝ่าบาทมากเกินไป ถึงได้เป็นเหตุผลให้กระทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้ แม้ว่าหม่อมฉันจะมาอยู่ที่แคว้นเซี่ยได้ไม่นาน มิได้เข้าวังมาบ่อยนักจึงมิได้พบเห็นเสียนฮูหยินบ่อย ๆ หากแต่ หม่อมฉันกับค้นพบว่า เสียนฮูหยินชื่อชอบไปเดินเล่นที่ตำหนักฉงเฟยของฝ่าบาทเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านั้นที่เซียงกุ้ยผินเป็นที่โปรดปรานก็เช่นกัน บางครั้งหม่อมฉันเดินไปที่ตำหนักเซียงจู๋นั้น มักจะเจอเสียนฮูหยินอยู่เสมอ หลังจากนั้น เมื่อฮุยจาวอี๋เป็นที่โปรดปรานแล้ว ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน "

สายตาของหยุนชางพลันจับจ้องไปที่สีหน้าของเสียนฮูหยิน พร้อมค่อย ๆ รอบสังเกตุอย่างละเอียดถึงปฏิกิริยาของนางในทุก ๆ ครั้ง

"อีกทั้ง หม่อมฉันยังพบอีกว่า ทั้งครั้งที่ได้เดินไปที่ตำหนักฉงเฟยนั้น เสียนฮูหยินมักจะตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ ตั้งแต่ทรงผมเครื่องหน้ารวมไปถึงเครื่องประดับต่าง ๆ เกรงว่าเสียนฮูหยินคงจะคิดว่า หากตนเองก้าวเดินเยอะกว่าสนมที่เป็นที่โปรดปรานแล้ว จะต้องสามารถได้เห็นฝ่าบาทมากกว่าพวกนางอย่างแน่นอน บางครั้งหม่อมฉันก็พบเสียนฮูหยินที่อื่นบ้างเป็นบางครั้ง หากแต่เสียนฮูหยินมิได้ตั้งใจแต่งองค์ทรงเครื่องเฉกเช่นที่ตำหนักเซียงจู๋อีกเลย เมื่อครั้งที่ฝ่าบาทประชวรนั้น หลังจากว่าความยามเช้า. ฮองเฮาเหนียงเหยียงพลันมีคำสั่งว่า ห้ามให้สนมคนใดเข้าไปรบกวนฝ่าบาทที่กำลังพักผ่อน เมื่อฝ่าบาทประชวรไปได้ไม่นาน วันที่สองก็เกิดเรื่องขึ้นกับรุ่ยอ๋อง หม่อมฉันที่เดินออกมาจากตำแหน่งเซี่ยงจู๋นั้น กลับพบกับเสียนฮูหยินที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนฝ่าบาท"

หยุนชางพลันลอบมองเสียนฮูหยินที่ยังคงนั่งอยู่เงียบ ๆ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสงบ

"การกระทำของเสียนฮูหยินคือการที่หลงรักฝ่าบาทมากจนเกินไปเพคะ. เพียงแค่เห็นสนมที่เพิ่งเข้าวังมา สามารถทำให้ฝ่าบาทโปรดปรานได้เช่นนี้ อีกทั้งยังสามารถตั้งครรภ์ของจักรพรรดิได้รวดเร็วเช่นนี้. ภายในใจจึงอดไม่ได้ที่จะอิจฉาริษยาขึ้นมา เกรงว่า ก่อนหน้านั้นเสียนฮูหยินที่มิได้ลงมือกับสนมนางอื่น ๆ คงเป็นเพราะไม่โอกาสให้นางได้กระทำต่างหาก ทว่า เป็นเรื่องบังเอิญอย่างมาก เนื่องจากเป็นเพราะฮุยจาวอี๋ได้ตั้งครรภ์ จึงต้องย้ายมาที่ตำหนักเซียงจู๋ แล้วต้องการเครื่องเรือนบางอย่าง นั่นจึงเป็นโอกาสที่เสียนฮูหยินจะลงมือได้"

หยุนชางพูดมาเนิ่นนาน เสียนฮูหยินกลับมิได้ปริปากออกมาสักคำ กลังจากที่หยุนชางหยุดพูดนั้น เสียนฮูหยินจึงหัวเราะออกมา "หม่อมฉันยังคงยืนยันคำเดิม. การจะเล่นงานใครย่อมต้องมีเหตุผล" เมื่อพูดจบ พลันหันมาหาหยุนชาง สายตาที่เต็มไปด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก พร้อมรอยยิ้มที่ส่งมาด้วยความสดใส "พระชายารุ่ยอ๋องคงคิดว่า ขัดขวางอาเนี่ยนได้คนหนึ่ง ก็จะสามารถขัดขวางคนอื่นได้หรือ ? ด้วยรูปร่างของรุ่ยอ๋องเช่นนี้ ช้าเร็วจักต้องมีสักวันหนึ่ง ที่เขามิได้มีเพียงหวางเฟยเป็นสตรีเพียงคนเดียวเป็นแน่ เมื่อถึงเวลาที่รุ่ยอ๋องมีภรรยาเพิ่มขึ้นอีกเป็นกลุ่มเมื่อใด เมื่อนั้น คงจะเห็นผู้มาใหม่แล้วร้องให้. พร้อมได้ยินคนเก่าหัวเราะเยาะกระมัง คงจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดบ้าง. จะช้าหรือเร็ว สักวันหนึ่งพระชายารุ่ยอ๋องก็จะเข้าใจได้เอง"

"งั้นหรือ ? " ลั่วชิงเหยียนที่นั่งอยู่ด้านข้างมาตลอดได้ยินเช่นนั้น พลันค่อย ๆยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

หยุนชางพลางหันหน้าไปมองลั่วชิงเหยียน ลั่วชิงเหยียนมิได้พูดอันใดออกมาอีก หยุนชางยิ้มเล็กน้อย พร้อมมองไปทางเสียนฮูหยินด้วยรอยยิ้มธรรมดาว่า "เกรงว่า หม่อมฉันคงจะไม่มีวันนั้นนะเพคะ. หากมีวันนั้นขึ้นมา. หม่อมฉันก็คงไม่เป็นเฉกเช่นเสียนฮูหยิน ที่สูญเสียนตัวตนไป ทั้งที่ควรจะมีอารมณ์และมารยาทมากกว่านี้"

เซี่ยหวนอวี่พลางกล่าวด้วยความเย็นชาออกมาว่า "เจ้าพูดจบหรือยัง ? "

ทั่วร่างของเสียนฮูหยินพลันสั่นเทา พร้อมยิ้มด้วยรอยยิ้มขมขื่นขึ้นมา แล้วจึงหุบปากพร้อมกับหลับตาลงมา

ภายในตำหนักมิมีผุ้ใดกล่าวอันใดออกมาอีก ผ่านไปเพียงชั่วครู่ พลันได้ยินข้ารับใช้ที่เซี่ยหวนอวี่ส่งไป พลางวิ่งอย่างรีบร้อนกลับมารายงานว่า"รายงานฝ่าบาท. ช่างฝีมือสกุลเฉียนกินยาพิษฆ่าตัวตายแล้วพะยะค่ะ"

เซี่ยหวนอวี่ได้ยินเช่นนั้น. พลางลุกขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกธรเกรี้ยว"เกิดอันใดขึ้น ? ก่อนหน้านั้นมิได้ให้พวกเจ้าเฝ้าเอาไว้แล้วงั้นหรือ ? ทำไมถึงปล่อยให้มันจบชีวิตเองได้ ? "

ข้ารับใช้ผู้นั้นพลันตกใจขึ้นมา พร้อมรีบร้อน "ผัวะ"คุกเข่าลงมา "ก่อนหน้านู๋ไฉเฝ้ามองดูอยู่พะยะค่ะ. ทว่า ฝ่าบาทตรัสว่าอย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น อย่าได้เพิ่งทำอันใดกับคนผู้นั้น. เมื่อได้ยินข้ารับใช้ที่ปลอมกายอยู่ภายในราชวังกล่าวว่า วันนี้ช่างฝีมือเฉียนเป็นดั่งปกติเฉกเช่นทุกวัน หลังจากเช้าแล้ว เขามักจะนั่งหลับอยู่มุมห้องตลอดพะยะค่ะ ก่อนหน้าที่ยังไม่มีคำสั่งออกมา เขาก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน จึงไม่มีผู้ใดเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด จนถึงเมื่อครู่ ถึงได้รู้ว่า คนผู้นั้นไม่มีลมหายใจแล้วพะยะค่ะ"

เซี่ยหวนอวี่พลันขมวดคิ้วลง สายตาพลางกวาตามองไปทั่วร่างของเสียนฮูหยิน พร้อมตบลงบนที่เก้าอี้ แล้วจึงโบกมือไปมาเป็นเชิงว่า "พวกเจ้าออกไปเสีย"

เนื่องจากว่าช่างฝีมือเฉียนปลิดชีพตนเองไปแล้ว เบาะแสอันที่หนึ่งพลันได้ถูกหายไป ทำได้เพียงกวาดสายตามองร่างของช่างฝีมือผู้นั้นว่ามีหลักฐานอันใดปรากฏออกมาบ้าง

ผ่านไปครู่หนึ่ง หนิงเฉี่ยนพลันนำข้ารับใช้กลับมา เมื่อหนิงเฉี่ยนเห็นหยุนชางและผู้คนทั้งหมดอยู่ด้านนอกตำหนักนั้น พลันชะงักไปชั่วครู่ หยุนชางจึงรีบร้อนทูลต่อเซี่ยหวนอวี่ว่า "ฝ่าบาทเพคะ. หม่อมฉันก็พบยาหมาเฟ่ยส่านและยาชนิดอื่น ๆ ที่มีกลิ่นชะมดอยู่ด้วยเช่นกัน จึงได้ส่งคนไปนำหมอตี๋ผู้นั้นมาด้วย"

"เป็นอย่างไรบ้าง ? " เซี่ยหวนอวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง พลันเข้าใจสิ่งที่จะสื่อได้แล้ว สายตาจึงจ้องมองไปยังข้ารับใช้ผู้นั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง