หยุนชางยิ้มและตอบตกลง พูดกับลั่วชิงเหยียนเบาๆว่า "เช่นนั้นก็กลับจวนเถิด"
ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบาๆ แล้วนำหยุนชางและกระโดดลงจากกำแพงสูง เดินสวนท่านอ๋องเจ็ดแล้วจากไป
ท่านอ๋องเจ็ดอยู่ห่างจากเซี่ยหวนอวี่และคนอื่นๆ อยู่เล็กน้อย แต่การสนทนาของพวกเขาในเมื่อครู่ไม่ชัดเจนนัก เขากัดฟันอย่างลับๆ และยืนอยู่ใต้กำแพงโดยก้มศีรษะลง
เซี่ยหวนอวี่หันไปหาหนิงเชียนที่อบู่ข้างๆ และตรัสว่า "เราก็กลับวังเถิด เจ้าชอบโคมไฟแบบไหนก็ให้คนให้ก็เป็นพอ"
หนิงเชียนฟังแล้ว หัวเราะออกมาเบาๆ "ฝ่าบาทสามารถพาหม่อมฉันออกมาเดินเล่นได้ ก็นับว่าเป็นวาสนาของหม่อมฉันแล้วเพคะ โคมไฟก็ได้เห็นแล้ว หม่อมฉันก็พอใจแล้วด้วย ดังนั้นจึงไม่ขอรบกวนช่างทั้งหลายแล้วเพคะ"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้า หันไปหาองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างและตรัสว่า "ไปตามหัวหน้าเมืองจิ่น และรองเจ้ากรมอาญามาจัดการกับที่เกิดเหตุด้วย เคลื่อนขบวนกลับวังเถอะ!"
องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างโอบทั้งสองกระโดดลงทันที เซี่ยหวนอวี่เดินไปถึงที่อ๋องเจ็ดและหยุดชั่วขณะ และตรัสอย่างเฉยเมยว่า "เจ้าก็กลับไปเถิด" ตรัสจบก็รีบจากไป
ท่านอ๋องเจ็ดแอบกำมือแน่นโดยไม่ขยับซักพัก
"ท่านอ๋อง?" ยามที่อยู่ข้างๆเห็นว่าท่านอ๋องเจ็ดไม่ขยับ แล้วจึงถามอย่างระมัดระวัง ท่านอ๋องเจ็ดก็หันกลับมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชา "กลับจวน!"
หยุนชางและลั่วชิงเหยียนเดินออกจากตรอก ท้องถนนก็มีชีวิตชีวามาก ไม่ได้รับผลกระทบจากทะเลสาบปี่ซานเลย พวกเขาได้ยินคนพูดถึงเรื่องเมื่อครู่เป็นครั้งคราวเท่านั้นหยุนชางมองไปรอบๆ ยิ้มแล้วพูดว่า "วันนี้ท่านอ๋องคงมิได้บังเอิญพาข้าไปที่ทะเลสาบปี่ซานใช่ไหมเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันกลับมามองหยุนชางด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเขา "แน่นอนว่าข้าแค่เดินเล่นไปที่นั่น และพระชายาเผอิญเห็นของรางวัลอยู่ในมือของพ่อค้า ข้าจึงเข้าร่วมการแข่งขันตามที่ควรจะเป็น ไม่เช่นนั้นพระชายาคิดว่าเป็นเช่นไรหรือ?"
"ข้าไม่มีทักษะกำลังภายใน เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่สามารถรู้ได้ว่ามีนักฆ่าซุ่มโจมตีอยู่ แต่ข้ารู้ว่าท่านอ๋องมีกำลังภายในที่ลึกล้ำยิ่ง ที่ทะเลสาบก็ไม่ได้ไกลจากนักฆ่าที่ซุ่มอยู่ นักฆ่าซุ่มอยู่ในน้ำแน่นอนว่าจะต้องใช้ไม้ไผ่หรืออะไรบางอย่างเพื่อช่วยในการหายใจ มันน่าแปลกนักที่ท่านอ๋องมิได้รู้สึกถึงความผิดปกติในน้ำ" หยุนชางบีบถามอย่างต่อเนื่อง
ลั่วชิงเหยียนไม่ได้ตอบหยุนชาง เพียงแต่พาหยุนชางไปด้านข้างแล้วนั่งยองๆต่อหน้าพ่อค้าที่มีตะกร้าเล็กๆสองใบอยู่ข้างหน้าเขา หยิบป๋องแป๋งจากตะกร้ามาหมุน แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ตอนเด็กข้ามักจะอิจฉาเด็กบ้านคนอื่นที่มีป๋องแป๋งเล่น และยังไปแย่งพวกเขา เพราะเหตุนี้จึงถูกทุบตีมาไม่น้อย" พูดจบ เขาก็หันไปถามพ่อค้าว่า "เจ้านี่ขายยังไงหรือ?"
"คุณชาย ป๋องแป๋งอันนี้อยู่ที่ยี่สิบอีแปะ" " เป็นเรื่องยากที่พ่อค้าจะได้เห็นชายหนุ่มและหญิงสาวที่มีหน้าตาโดดเด่นเช่นนี้ จ้องมองไปที่ทั้วสองคนอย่างเหม่อลอย
ลั่วชิงเหยียนยิ้มและหยิบเงินสองเหรียญจากกระเป๋าแล้วยื่นให้พ่อค้า ยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ต้องทอน"
ในขณะที่เขาพูดก็จับมือหยุนชางและเดินเข้าไปในฝูงชนอีกครั้ง และหมุนป๋องแป๋งในมือ หยุนชางยังคงคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ลั่วชิงเหยียนเพิ่งพูดก่อนหน้านี้ ขมวดคิ้วและถามเบาๆว่า "เสด็จปู่มิใช่ทรงรับท่านเป็นลูกบุญธรรมหรอกหรือ"
ลั่วชิงเหยียนกระตุกมุมปากของเขา ในน้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์ใดๆ "นั่นเป็นเรื่องหลังจากนั้นแล้ว ก่อนข้าอายุเจ็ดขวบ ข้าเป็นเด็กขอทานไปเรื่อยๆเพื่อหาเลี้ยงชีพ อันที่จริง ในความทรงจำแรกๆมีท่านยายท่านหนึ่งคอยเลี้ยงดูข้า ต่อมาเมื่อท่านยายเสียไป ข้าก็กลายเป็นเด็กเร่ร่อน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง