ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 711

หยุนชางยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยหวนอวี่ก็ได้ตรัสออกมาว่า "เมื่อเช้านี้ มีคนเจอสิ่งนี้ผูกไว้กับม้าตัวหนึ่ง ม้าตัวนั้นวิ่งตรงเข้ามายังประตูวัง และถูกทหารเฝ้าประตูจับเอาไว้ได้"

เซี่ยหวนอวี่ครุ่นคิด เขามองไปที่หยุนชาง "ข้าลองเปิดดูแล้ว น่าจะเป็นลายมือของรุ่ยอ๋อง แต่ข้าก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ จึงอยากจะให้เจ้ามาช่วยข้าดูสักหน่อย"

หยุนชางตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแหบแห้งเล็กน้อย "ใช่เพคะ นี่เป็นลายพระหัตถ์ของท่านอ๋อง"

เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าเบาๆ แล้วหันไปตรัสกับซูฉีและหลี่เฉี่ยนโม่ "ในตอนนี้ก็มั่นใจได้แล้วว่านี่คือลายมือของรุ่ยอ๋อง คำถามต่อไป ข้อความที่ปรากฏอยู่บนกระดาษนี้มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ และข้อสงสัยอีกอย่างหนึ่งก็คือ เจ้าม้าตัวนั้นวิ่งตรงเข้ามาทางประตูวังได้อย่างไร?"

หลังจากที่เซี่ยหวนอวี่ตรัสจบแล้ว ผู้คนที่อยู่ในตำหนักก็เงียบกันไปพักหนึ่ง จนกระทั่งซูฉีได้เอ่ยถึงการคาดการณ์ของตนเองขึ้นมา "คำว่าชางเจียชิงซู เป็นพระนามของของฮ่องเต้แห่งแคว้นเย้หลาง สิ่งที่รุ่ยอ๋องต้องการจะบอก น่าจะหมายถึง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในจวนรุ่ยอ๋องเป็นฝีมือของชางเจียชิงซูพ่ะย่ะค่ะ และเขาก็ถูกชางเจียชิงซูจับตัวไป ส่วนคำว่าตะวันออกเฉียงใต้ คำนี้คาดเดายากนัก ดูเหมือนเป็นคำที่ยังเขียนไม่จบดี หรือต้องการจะสื่อว่า ตอนนี้ท่านอ๋องประทับอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือเกิดเหตุอันใดขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แล้วเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจิ่นหรือของแคว้นเซี่ยกันแน่......"

ซูฉีเรียบเรียงคำพูดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่สรุปแล้วก็เหมือนมิได้พูดอะไรออกมาอยู่ดี หยุนชางมองดูเซี่ยหวนอวี่ ก็ได้เห็นว่าเขายังคงก้มหน้ามองไปยังจดหมายเลือดฉบับนั้นอยู่

"ส่วนเรื่องที่มีม้าวิ่งตรงเข้ามายังประตูวัง หม่อมฉันคิดว่า ควรจะลองไปถามพวกชาวบ้านแถวๆถนนจูเชว่ดูพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาอาจจะเคยเห็นม้าตัวนี้มาก่อน ไม่แน่ว่า พวกเขาอาจจะทราบว่าม้ามาจากที่ใด หม่อมฉันไม่เชื่อว่าม้าตัวนั้นจะเจาะจงวิ่งมายังประตูวังได้ด้วยตัวมันเองตัวเดียวพ่ะย่ะค่ะ"

เซี่ยหวนอวี่ทอดพระเนตรไปยังซูฉีด้วยสายพระเนตรที่แน่นิ่ง หลังจากนั้น เขาก็หันมาทอดพระเนตรอีกทางหนึ่ง "พระชายารุ่ยอ๋องคิดเห็นประการใดหรือ?"

หยุนชางเงยหน้า นางมองไปที่เซี่ยหวนอวี่ ซูฉี และหลี่เฉี่ยนโม่ทีละคนตามลำดับ จากนั้นจึงก้มหน้าลงแล้วพูดว่า "หม่อมฉันมิได้วิเคราะห์สถานการณ์รอบด้านเช่นนั้นหรอกเพคะ ก่อนอื่น หม่อมฉันเพียงแค่ต้องการทราบว่า ที่ผ่านมารุ่ยอ๋องทรงถูกพิษบัวหิมะปุย แม้จะทรงได้รับยาถอนพิษแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลานานเป็นเดือนจึงจะถอนพิษออกมาจนหมด ในช่วงที่ยังมีพิษหลงเหลืออยู่ภายในพระวรกายของรุ่ยอ๋อง เขาก็ยังคงสลบอยู่เช่นเดิมเพคะ ในเมื่อยังคงสลบอยู่ เขาจะเขียนข้อความเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างไร?"

เมื่อเซี่ยหวนอวี่ได้ฟังหยุนชางพูดเช่นนั้นแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที "แต่ว่าเมื่อครู่นี้ เจ้าเป็นคนบอกเองว่านี่เป็นลายมือของรุ่ยอ๋อง?"

หยุนชางพยักหน้า "เป็นลายพระหัตถ์ของรุ่ยอ๋องไม่ผิดแน่เพคะ แต่ผู้ที่มีความสามารถในการลอกเลียนแบบลายมือของผู้อื่นก็มีจำนวนไม่น้อย เท่าที่หม่อมฉันทราบมา องค์หญิงใหญ่ทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ด้วยเพคะ"

เซี่ยหวนอวี่ไตร่ตรองอยู่สักพัก เขาพินิจพิเคราะห์สีหน้าท่าทางของหยุนชางอยู่ครู่หนึ่ง หยุนชางเห็นดังนั้นแล้วจึงก้มหน้าแล้วพูดขึ้นมาเบาๆว่า "หลังจากที่ท่านอ๋องทรงโดนพิษ หม่อมฉันก็อยู่ดูแลเขามาโดยตลอด ด้วยความรู้ด้านการแพทย์ที่หม่อมฉันพอจะมีติดตัวอยู่บ้าง หม่อมฉันทราบดีว่า พระอาการของท่านอ๋องมิอาจหายขาดได้ในเร็ววันเพคะ"

"เจ้ากำลังหมายความว่า มีคนลอกเลียนแบบลายมือของรุ่ยอ๋องเพื่อตบตาพวกเราอยู่ใช่หรือไม่?" เซี่ยหวนอวี่ตรัสถามเบาๆ

หยุนชางครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วจึงตอบไปว่า "หม่อมฉันเองก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าเป็นเช่นนั้นเพคะ"

เซี่ยหวนอวี่พยักหน้า "ข้ารู้แล้ว ข้ายังมีเรื่องที่ต้องหารือกับซูไท่เว่ยและคนอื่นๆต่อ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ"

หยุนชางรับคำ นางถวายบังคมลา แล้วเดินออกมาจากตำหนักหารือ

ในขณะที่หยุนชางกำลังก้าวออกมาจากตำหนักหารือ ฉินยีที่ยืนรออยู่ด้านนอก ก็เห็นว่าหยุนชางเดินตาลอยออกมา นางรีบเข้าไปประคองหยุนชางในทันที "ทรงระวังนะเพคะพระชายา เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือเพคะ?"

หยุนชางยิ้ม "ไม่มีอะไรหรอก พวกเรากลับตำหนักเฉาเซี่ยกันเถอะ เรื่องของสายลับ จัดการเรียบร้อยหรือยัง?"

ฉินยีพยักหน้า

ในช่วงที่กำลังเดินเลี้ยวตรงหัวมุมของตำหนักหารือ นายบ่าวทั้งสองก็เกือบเดินชนเข้ากับชายผู้หนึ่ง ชายผู้นั้นก้าวเท้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อได้พบกับหยุนชางแล้ว เขาก็รีบก้าวเท้าถอยหลังแล้วทำการคารวะหยุนชาง หยุนชางพยักหน้า แล้วจึงเดินสวนกับชายผู้นั้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง