ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 715

ฉินยีถึงกับตะลึง หยุนชางเริ่มสงสัยในตัวของไฉ่ยีมาตั้งแต่วันที่ 2 แล้ว นางส่งคนไปคอยสะกดรอยตามไฉ่ยี ฉินยีเองก็นึกไม่ถึงเลยว่า ไฉ่ยีจะเป็นฆาตกร นางเคยคิดแค่เพียงว่า เมื่อก่อนไฉ่ยีเคยอยู่รับใช้ที่ตำหนักไท่จี๋ แล้วจู่ๆกลับถูกส่งตัวมายังตำหนักเฉาเซี่ย ตอนนั้นฉินยีเองก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก และในบางครั้ง ไฉ่ยีก็มักจะดูหมิ่นผู้คน แต่ก็นับว่านางให้ความเคารพหยุนชางเป็นอย่างดี

แล้วอีกอย่าง ไฉ่ยีก็เคยเป็นผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดเซี่ยหวนอวี่มาก่อน ฉินยีไม่เข้าใจเลยว่า เพราะเหตุใด นางจึงกล้าคิดร้ายกับเฉี่ยนจั๋วและหยุนชางได้ลงคอ

หยุนชางคงจะทราบว่าไฉ่ยีคือฆาตกรภายหลังจากที่อ่านข้อความบนกระดาษนั้นจนจบแล้ว ฉินยีพอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว "แต่ว่าสถานะที่แท้จริงของไฉ่ยีมีปัญหาอย่างไรหรือเพคะ?"

หยุนชางค่อยๆอธิบาย "ไฉ่ยีเป็นคนเมืองจิ้นเฉิง เข้าวังมาเมื่อ 9 ปีก่อน ภายใต้การแนะนำจากท่านเจ้าเมืองจิ่น ปีนั้น เมืองจิ้นเฉิงมีคนผ่านการคัดเลือกได้เข้าวังจำนวน 3 คน คนหนึ่งชื่อซูเฉี่ยนเหมย คนหนึ่งชื่อเฮ่อหย่านู๋ ส่วนไฉ่ยี ชื่อของนางก่อนจะเข้าวังคือซูไฉ่อี๋"

เมื่อเห็นชื่อคนทั้งสามแล้ว หยุนชางจึงพอจะมองเห็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆขึ้นมาได้บ้างแล้ว

"ตอนที่ข้าเพิ่งมาถึงแคว้นเซี่ยได้ไม่นาน องค์หญิงเชียนหลิงทรงพระประชวรหนัก คนร้ายคิดจะโยนความผิดให้กับข้า แต่ข้าก็ได้ทำการรักษาองค์หญิงเชียนหลิงจนพระอาการดีขึ้น และยังช่วยหยุนกุ้ยเฟยและฮ่องเต้หาตัวคนร้าย ซึ่งคนร้ายก็คือเหมยกุ้ยเหรินนั่นเอง เหมยกุ้ยเหรินมีนางกำนัลอยู่นางหนึ่ง ชื่อว่าหย่านู๋ เมื่อเหมยกุ้ยเหรินถูกจับได้ จึงถูกฮ่องเต้สั่งกุมตัวไปยังตำหนักเย็น หลังจากที่หย่านู๋ทราบข่าวว่าเหมยกุ้ยเหรินถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นแล้ว นางจึงตัดสินใจปลิดชีพตัวเองทิ้ง" หยุนชางลำดับภาพเหตุการณ์ให้ฉินยีได้ฟังอย่างคร่าวๆ

เมื่อฉินยีฟังจนจบแล้ว จึงเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่เกี่ยวข้อง "เหมยกุ้ยเหรินก็คือซูเฉี่ยนเหมย? หย่านู๋ก็คือเฮ่อหย่านู๋? ทั้งเหมยกุ้ยเหรินและไฉ่ยีต่างก็แซ่ซู พวกนางจะเกี่ยวข้องเป็นอะไรกันหรือเปล่านะเพคะ?"

หยุนชางก็คิดเช่นเดียวกับฉินยี "ข้าก็เพิ่งได้รู้มาจากกระดาษใบนั้น ที่แท้ ไฉ่ยีก็คือลูกพี่ลูกน้องของเหมยกุ้ยเหริน พวกนางสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ฐานะทางบ้านของเหมยกุ้ยเหรินดีกว่าบ้านของไฉ่ยี จึงได้ขึ้นเป็นถึงกุ้ยเหริน ส่วนไฉ่ยีได้เข้าวังมาเป็นนางกำนัล หลังจากนั้นด้วยความช่วยเหลือจากเหมยกุ้ยเหริน จึงทำให้ไฉ่ยีได้เข้ามารับใช้ในตำหนักที่ประทับของฮ่องเต้"

"แต่ว่าเหมยกุ้ยเหรินก็ถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นแล้วใช่ไหมเพคะ?" ฉินยีรีบถามต่อ

หยุนชางเงียบไปสักพัก นางกำลังนึกถึงสิ่งที่ฮองเฮาได้ตรัสออกมาตอนเสด็จไปที่ตำหนักอู๋เหยียนในวันนี้

"ตำหนักอู๋เหยียนเป็นตำหนักเย็น ในสมัยก่อน นางสนมและนางในชั้นสูงที่ถูกส่งตัวมาอยู่ที่นี่ หากมิได้จบชีวิตลงก็ต้องเสียสติไปในที่สุด มาวันนี้ ตำหนักเย็นอันกว้างใหญ่ กลับหลงเหลือแค่เพียงเสิ่นซู่เฟยกับเสียนฮูหยินแค่เพียงสองคน บรรยากาศช่างดูเงียบเหงาเสียจริงเลยนะ"

หยุนชางถอนหายใจออกมา "เหมยกุ้ยเหรินนั่น คงจะ ไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วล่ะ"

หรือจะเป็นเพราะการจากไปของเหมยกุ้ยเหริน ทำให้ไฉ่ยีผูกอาฆาตกับหยุนชาง ประจวบเหมาะที่ช่วงนี้หยุนชางได้เข้ามาอาศัยอยู่ในวัง ส่วนไฉ่ยีก็ได้มาเป็นนางกำนัลที่คอยดูแลจัดการเรื่องราวต่างๆภายในตำหนักของหยุนชาง เป็นโอกาสเหมาะที่ไฉ่ยีจะได้ลงมือแก้แค้น

แต่ทว่า หากแม้นไฉ่ยีต้องการแก้แค้นนางจริงๆ ก็ควรจะลงมือกับนาง ในตอนนั้นเฉี่ยนจั๋วก็ไม่ได้อยู่ข้างๆนาง เหตุใดไฉ่ยีจึงต้องเลือกลงมือกับเฉี่ยนจั๋ว แล้วยังจะมีคนอื่นๆอีกไหมนะ?

"แล้วเรื่องราวของเซี่ยงเหวินกับเซี่ยงฝูล่ะเพคะ?" ฉินยีถามต่อ

หยุนชางยิ้มแล้วอธิบายว่า "ก่อนหน้านี้ ไฉ่ยีได้ไปนำข้อมูลของเซี่ยงเหวินกับเซี่ยงฝูมาจากกรมวัง คงเป็นข้อมูลที่นางแก้ไขเอง ทั้งวันเดือนปีเกิดและสถานที่เกิดต่างก็มีร่องรอยการแก้ไข เซี่ยงเหวินกับเซี่ยงฝูก็เป็นคนเมืองจิ้นเฉิงเช่นเดียวกัน แต่เมื่ออายุได้ 5-6 ขวบ เนื่องด้วยบิดาของเขาเป็นเหตุ พวกเขาจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองจิ่น หลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่เมืองจิ่นแล้ว บิดาของเขาได้ติดหนี้พนันเป็นจำนวนมาก ไม่มีเงินไปใช้หนี้ จึงจำต้องขายลูกชายทั้งสอง"

หยุนชางจับที่วางแขนของเก้าอี้ นางยิ้มออกมา แล้วพูดต่อไปว่า "ข้าว่า ไฉ่ยีคงจะหลงคิดว่าข้าได้ลืมเรื่องของเหมยกุ้ยเหรินไปนานแล้ว นางคงจะกลัวแค่ว่าข้าจะสืบประวัติจนรู้ว่านางและเซี่ยงเหวินกับเซี่ยงฝูเป็นคนบ้านเดียวกัน นางจึงลงทุนแก้ไขข้อมูลของคนทั้งสอง ไม่แน่ว่า ไฉ่ยีอาจจะรู้จักคนทั้งสองมาตั้งแต่เล็กๆก็เป็นได้"

หยุนชางพิจารณาอยู่นาน นางคิดว่าเรื่องราวของหลิวเกิงยีน่าจะเป็นดังเช่นที่กล่าวมาคร่าวๆนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง