หนิงเชี่ยนพลางพยักหน้าลงเล็กน้อย. ช่วงเวลาหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมานั้น เซี่ยหวนอวี่มักจะติดนิสัยเคยชินอย่างหนึ่ง คือการชอบคีบผักหรือเนื้อเพิ่มเข้ามาในชามของหนิงเชี่ยน เมื่อแรกเริ่ม ครั้งที่หนิงเชี่ยนได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน นางรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทว่า จนถึงตอนนี้ นางก็รู้สึกคุ้นเคยไปกับมันเสียแล้ว
"วันนี้หมอหลวงมาตรวจเส้นชีพจรเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ? เด็กในครรรภ์ยังอยู่ดีหรือไม่ ?"เซี่ยหวนอวี่ถามออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
หนิงเชี่ยนพลันดึงสติกลับมา สายตาที่ล้ำลึกกลับอยากพูดถึงอาการประหลาดบางอย่างในท้องของนางให้เซี่ยหวนอวี่ฟัง หากแต่เมื่อเปิดปากพูดออกมานั้น ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยนไปหมด "ท่านหมอหลิวกล่าวว่าชีพจรคงที่เพคะ หม่อมฉันคิดว่าเด็กคนนี้คงเชื่อฟังเป็นอย่างดี ไ ม่เคยสร้างปัญหาใด ๆให้หม่อมฉันเฉกเช่นครรภ์ของฮุยเจาอี๋เลย. นางดูจะลำบากเป็นอย่างมากเลยเพคะ"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าเล็กน้อย อีกทั้งยังไม่ถามถึงสถานการณ์ของฮุยเจาอี๋อีก
เมื่อรับสำรับมื้อค่ำเสร็จ เซี่ยหวนอวี่จึงพำนักพักผ่อนอยู่ที่ตำหนักเซียงจู๋อย่างสบายใจ หนิงเชี่ยนจึงสั่งให้คนไปเตรียมน้ำอาบ แล้วจึงรั้งรอให้เซี่ยหวนอวี่พลันชำระล้างร่างกายเสร็จ
เมื่อเซี่ยหวนอวี่ชำระล้างกายเสร็จแล้ว นางจึงเข้าไปพยุงเซี่ยหวนอวี่เดินเข้าตำหนักไป มือพลันแตะเข้าไปจับชีพจรของเซี่ยหวนอวี่โดยมิได้ตั้งใจ
แรกเริ่มนางมิทันได้รู้สึกตัว ผ่านไปครู่หนึ่ง สายตาพลางฉายแววงุนงงออกมาอย่างแปลกประหลาด ฝีเท้าพลันหยุดชะงักลงกับที่ มิได้ขยับเขยื้อนไปไหน
เซี่ยหวนอวี่พลันชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงหันหน้ากลับมาหาหนิงเชี่ยน ใช้สายตาสื่อถึงคำถามว่า "มีอะไรงั้นหรือ ? "
หนิงเชี่ยนจึงรีบร้อนส่ายหน้าไปมา พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า เมื่อครู่เกรงว่าจะโดนความร้อนมากเกินไป ในหัวจึงรู้สึกวินเวียนไปชั่วครู่เพคะ " แล้วจึงรีบเก็บสายตาที่ฉายแววประหลาดใจลงอย่างรวดเร็ว
มือพลันชักกลับออกมาจากแขนของเซี่ยหวนอวี่ มือขวาทาบกลับมาที่มือซ้ายของตนเองอย่างสงบเสงี่ยม
ยามเช้าของวันที่สอง เซี่ยหวนอวี่จึงออกไปว่าราชการ เมื่อถึงยามที่ต้องไปตำหนักเว่ยยางแล้ว เฉี่ยนซินจึงเดินเข้าไปในห้อง พลางเปิดม่านเข้าไปเรียกหนิงเฉี่ยนให้ลุกขึ้นตื่น พลันเห็นว่าหนิงเฉี่ยนเบิกตากว้างจ้องมองไปยังด้านบนเพดานของเตียง หน้าผากพลางมีร่องรอยเส้นเลือดสีน้ำเงินจางๆ
เฉี่ยนซินรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก จึงรีบร้อนถามขึ้นมาว่า "วันนี้เหนียงเหนียงมีอาการเช่นไรงั้นหรือ ? มีที่ใดรู้สึกไม่สบายหรือไม่เพคะ ?"
หากแต่ หนิงเชี่ยนราวกลับมิได้ยินก็มิปาน เพียงครู่หนึ่ง เฉี่ยนซินพลันได้ยินเสียงพึมพำกล่าวออกมาว่า "เพราะอะไรกัน ?"
เฉี่ยนซินมิเข้าใจว่าหนิงเชี่ยนกำลังกล่าวถึงอันใด เมื่อมองไปที่หนิงเชี่ยนก็มิรู้จักต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเช่นกัน เพียงครู่หนึ่ง จึงเปิดปากพูดขึ้นมาว่า "เหนียงเหนียง ถึงยามที่ต้องไปตำหนักเว่ยยางเพื่อเข้าคำนับยามเช้าแล้วเพคะ "
หนิงเชี่ยนก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอันใดตอบโต้กลับมา
ผ่านไปสักพัก ข้างนอกพลันมีเสียงดังเข้ามา เฉี่ยนซินพยายามตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ หากแต่ได้ยินเป็นเสียงของหลิวเหวินอัน จากนั้นไม่นาน ข้ารับใช้ด้านนอกพลางเข้ามารายงานว่า "เหนียงเหนียง หัวหน้าหลิวต้องการเข้าเฝ้าเพคะ"
เฉี่ยนซินจึงรีบร้อนเขย่าตัวหนิงเชี่ยนไปมา พลางกล่าวออกมาด้วยความรีบร้อนว่า "เหนียงเหนียง หัวหน้าหลิวมาเข้าเฝ้าเพคะ?"
หนิงเชียนจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา พร้อมค่อยๆหันหน้ามาถามว่า "หัวหน้าหลิว ?"
เฉี่ยนซินพลันรีบร้อนพยักหน้า หนิงเชี่ยนครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จึงกล่าวขึ้นมาว่า "ช่วยพยุงข้าลุกขึ้นที"
เฉี่ยนซินจึงรีบร้อนเข้ามาช่วยพยุงหนิงเชี่ยนลุกขึ้น พร้อมทั้งจัดอาภรณ์ให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว หนิงเชี่ยนจึงค่อยๆเดินออกมาจากตำหนักด้วยน้ำเสียงที่ยังคงอ่อนโยนเฉกเช่นเดิม หากแต่ มิรู้ว่าเหตุใดเฉี่ยนซินกลับรู้สึกว่า วันนี้เซียงเฟยเหนียงเหนียง กลับดูเย็นชาลงไปหลายส่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง