ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 734

หนิงเฉี่ยนพลันยิ้มออกมาด้วยความเย็นชาแล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า " เมื่อวานหลังจากรับสำรับมื้อค่ำเสร็จ ในขณะที่ข้าและฝ่าบาทกำลังจะเข้านอนนั้น ข้าเผอิญไปจับเข้าชีพจรของฝ่าบาทเข้า ข้ากลับพบว่าฝ่าบาทก็มีเส้นชีพจรที่อ่อนแอและเป็นลักษณะของเส้นชีพจรลื่นเช่นกัน แต่เดิม ข้าไม่เคยกล่าวออกมาต่อหน้าฝ่าบาทว่าข้าจับเส้นชีพจรเป็นมาก่อนเลย จึงได้แต่นิ่งเฉยไป จากนั้นข้ากลับนึกถึงเรื่องหนึ่งได้ว่า ข้าก็เคยลองจับเส้นชีพจรของตนเองกลับพบว่าเป็นเส้นชีพจรลื่นอีกเช่นกัน"

เฉี่ยนซินพลันจับจ้องไปที่หนิงเชี่ยนด้วยความตกตะลึง ราวกลับว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่หนิงเชี่ยนกำลังพูดถึงอยู่

หนิงเชี่ยนพลันพูดต่อไปอีกว่า "ข้ากลับมาคิดหน้าคิดหลังดูแล้ว ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น จนถึงช่วงเวลาที่ข้ารู้ตัวว่าตนเองตั้งครรภ์ ฝ่าบาทมักมาที่ตำหนักเซียงจู๋เพื่อรับสำรับอยู่บ่อยครั้ง แต่เนื่องจากไม่กี่วันก่อน เสิ่นซู่เฟยเพิ่งออกมาจากตำหนักเย็น อีกทั้งยังรักษาตัวอยู่ในตำแหน่งซู่เฟยอีก ไม่กี่วันก่อน ฝ่าบาทจึงมักจะประทับอยู่ที่ตำหนักวังซู่หย่า เส้นชีพจรของข้าก็กลับมาเต้นเป็นปกติดังเดิม เมื่อวาน ยามที่ท่านหมอหลิวมาตรวจเส้นชีพจรนั้น ชีพจรข้าก็ยังเป็นปกติ ทว่า เมื่อยามหัวค่ำของเมื่อวาน ที่ฝ่าบาทเดินทางมารับสำรับมื้อค่ำนั้น หลังจากนั้น ชีพจรของข้ากลับแปรเปลี่ยนสภาพมาเป็นผิดปกติอีกครั้งหนึ่ง"

เฉี่ยนซินพลันเข้าใจถึงสิ่งที่หนิงเชี่ยนต้องการจะสื่อถึงแล้ว พลางชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงสูดลมหายใจเย็น ๆเข้าไป พร้อมจับจ้องไปที่หนิงเชี่ยนด้วยสายตาที่เหม่อลอย "เหนียงเหนียง ท่านหมายถึง "

หนิงเชี่ยนค่อย ๆหลับตาลง น้ำเสียงที่กล่าวออกมาด้วยความแผ่วเบา "ข้าครุ่นคิดมาตลอด ว่าผู้ที่ลงมือกับข้าเช่นนี้ ต้องการให้ข้าทำอย่างไร ? ข้านึกถึงฮองเฮา นึกถึงเสิ่นซู่เฟย นึกถึงผู้คนมากมาย หากแต่ข้ากลับไม่เคยนึกสงสัยเขาเลยสักนิด หากแต่ เมื่อข้าค้นพบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมื่อวานแล้ว เรื่องราวทั้งหลายพลันค่อย ๆกระจ่างแจ้งออกมา แม้แต่นายท่านก็ยังไม่สามารถหาเส้นชีพจรมงคลได้ หมอหลวงในสำนักทั้งหลายยังพูดเป็นเสียงเดียวว่าข้าตั้งครรภ์ หากเป็นฮองเฮาแล้วไซร้ หากนางต้องการจะซื้อตัวหมอหลวงในสำนักได้ เกรงว่านางจะไม่สามารถทำได้ถึงเพียงนั้น ทว่า หากเป็นฝ่าบาทแล้วละก็เรื่องทุกอย่างล้วนแต่ง่ายดายเป็นอย่างมาก"

เฉี่ยนซินยังคงนั่งตกตะลึงด้วยความเหม่อมลอยต่อไป เมื่อได้ยินหนิงเชี่ยนกล่าวขึ้นมาเช่นนั้น จึงรีบร้อนกล่าวออกมาว่า "หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดฝ่าบาทถึงต้องการให้ลักษณะชีพจรของเหนียงเหนียงเป็นชีพจรมงคลกัน ? แล้วเหตุใดถึงได้แสดงบทละครอันหลอกลวงเช่นนี้ต่อเหนียงเหนียงละเพคะ ?"

สายตาของหนิงเชี่ยนพลันจ้องมองไปยังตราประทับสีทองที่เฉี่ยนซินวางอยู่ในหีบ พร้อมแย้มยิ้มด้วยความเย็นชาออกมา "ข้าเป็นเพียงตัวหมากตัวหนึ่ง ที่ฝ่าบาทใช้วางบนกระดานเท่านั้น เป็นตัวหมากที่พร้อมจะสามารถโละทิ้งเมื่อใดก็ได้"

"ถ้าเช่นนั้น เหนียงเหนียงจะรับมือเช่นไรดีเพคะ? ให้นู๋ปี๋ส่งจดหมายไปหานายท่านดีหรือไม่ ส่งไปถามนายท่านว่า. พวกเราจักรับมือเช่นไรดี ?"เฉี่ยนซินได้ยินหนิงเชี่ยนกล่าวออกมาเช่นนี้ ก็พอจะเข้าใจมากขึ้นอยู่หลายส่วน นางจึงร้อนรนขึ้นมาในทันใด


สายตาของหนิงเชี่ยนจ้องมองไปยังดอกไม้สีขาวที่กำลังเบ่งบานอยู่ มือพลันเคาะอยู่กับโต๊ะเบา ๆ เพียงครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายท่านใกล้จักถึงชายแดนแล้วกระมัง เกรงว่าทางฝั่งของนางก็คงมิได้สุขสบายมากนัก ช่วงนี้อย่าเพิ่งเข้าไปรบกวนนายท่านเลย ตอนนี้ข้าพอจะมีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้ว"หนิงเชี่ยนพลันขบริมฝีปากไปมา พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่รอดไรฟันว่า "ข้า หนิงเชี่ยนผู้นี้จักต้องมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ มิใช่เป็นหมากที่ผู้ใดจักคอยใช้แล้วโยนทิ้งไปได้ หากครั้งนี้ ฝ่าบาทวางหมากมาถึงแค่ตรงนี้แล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าจักมีชีวิตรอดได้อย่างไร?" ในขณะที่หนิงเชี่ยนกำลังพูดอยู่นั้น พลางเอามือมาปิดที่หน้าท้องของนาง

เฉี่ยนซินที่เห็นสีหน้าของหนิงเชี่ยนเป็นเช่นนั้นแล้ว ราวกับกำลังมีรางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น พลันรีบร้อนกล่าวออกมาว่า "เหนียงเหนียงต้องการจะทำเช่นไรเพคะ?"

เมื่อเห็นลักษณะของเฉี่ยนซินที่กำลังตื้นเต้นนั้น. พลันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "เจ้ากลัวอันใดกัน ? ข้าเป็นเพียงสตรีที่ประมาทพลาดพลั้งเท่านั้น ? เมื่อวานมิใช่ว่าข้าถามเจ้าแล้วหรือ ? ว่าระหว่งฮองเฮาเหนียงเหนียงและเสิ่นซู่เฟย ผู้ใดเป็นหินที่กำลังขวางทางนายท่านอยู่กัน ? ข้าเพียงแค่คิดว่า จะจัดการอันที่ยากที่สุดให้นายท่านแต่เพียงเท่านั้น"

แม้ว่าในมือของหนิงเชี่ยนจะมีตราประทับของฮองเฮาอยู่นั้น. หากแต่นางก็เข้าวังมาได้ไม่ถึงสองปี เรื่องราวภายในวังหลังล้วนแต่ยังไม่แตกฉาน. การจะจัดการอะไรบางอย่างล้วนแต่ยากเย็นเป็นอย่างมาก ทว่า หนิงเชี่ยนมิใช่สตรีที่ดื้อรั้น เมื่อพบเจอกับปัญหาที่นางไม่เข้าใจ นางจักเดินทางไปที่ตำหนักซู่หย่าเพื่อขอเข้าเฝ้าซู่เฟยหรือบางทีนางก็เดินทางไปตำหนักเว่ยยางเพื่อสอบถามกับฮองเฮา

แต่เดิมการวางตัวของหนิงเชี่ยนมิได้เป็นสตรีที่เจ้ายศเจ้าอย่างอยู่แล้ว เมื่อนางไปหาซู่เฟยนั้น สีหน้าของซู่เฟยล้วนแต่อ่อนหวานพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือหรือตอบคำถามของหนิงเชี่ยนด้วยความละเอียดอ่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง