ฮองเฮามิต้องการพบเจอหนิงเชี่ยน ทว่า ปัญหาก็ยังต้องแก้ไขต่อไป. หนิงเชี่ยนจึงทำได้เพียงเดินทางไปยังตำหนักซู่หย่า เมื่อสองวันที่ผ่านมาเสิ่นซู่เฟยได้ยื่นตำราคู่มือมาให้นางถึงสองเล่ม เป็นตำราคู่มือที่ลงมือเขียนขึ้นมาใหม่. พร้อมกล่าวออกมาว่า "เจ้าลืมไปเรื่องหนึ่ง วันวสันตวิษุวัตของทุกปี ฝ่าบาทจักต้องเดินทางไปขอพระที่หอบวงสรวงสวรรค์ เพื่อให้ปีนี้เป้นปีที่พืชผลมีผลผลิตที่ดี ขอพรให้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่แคล้วคลาดปลอดภัย ไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้น นี่เป็นของที่ข้าใช้จัดเตรียมงานขอพรวันวสันตวิษุวัตเมื่อสองปีที่แล้ว เจ้าลองนำไปศึกษาดูเถิด"
หนิงเชี่ยนพลันรีบร้อนรับคำ แล้วจึงรับตำราคู่มือจากซู่เฟยมาแล้วจึงกลับมาที่ตำหนักของตนเอง
เมื่อกลับมายังตำหนักเซียงจู๋แล้ว นางพลางเปิดตำราคู่มือของเสินซู่เฟยออกมา พลันเห็นหน้าแรกเขียนเกี่ยวกับงานวสันตวิษุวัต ที่ฮองเฮาเป็นผู้ออกแบบ พร้อมทั้งเขียนว่าเซียงเฟยแท้งลูก
หนิงเชี่ยนตกตะลึงไปทันที พลันเกือบจะโยนตำราคู่มือในมือออกไปให้พ้นตัวเสียแล้ว
เพียงครู่หนึ่งพลันได้สติกลับมา เมื่อมองดูแล้วตัวอักษรทุกตัวล้วนแต่ให้ความรู้สึกคุ้นตาและคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เมื่อนางนำมาพิจารณาใกล้ๆ ดูแล้ว จึงได้สติกลับมาว่า เป็นลายมือขององค์หญิงใหญ่
หนิงเชี่ยนพลันขมวดคิ้วลง สายตาพลางไล่ตามองทุกตัวอักษร นางกำลังตรวจดูหาข้อมูลขององค์หญิงใหญ่โดยรอบ องค์หญิงใหญ่ยังสามารถส่งข่าวมาหานางได้เช่นนี้ นั่นหมายความว่า องค์หญิงใหญ่ยังคงอยู่ในเมืองจิ่น อีกทั้งยังสามารถส่งข้อความผ่านมือเสิ่นซู่เฟยมาได้เช่นนี้ ทุกอย่างคงเป็นดั่งที่หยุนชางคาดการณ์ไว้ ทั้งเสิ่นซู่เฟยและองค์หญิงใหญ่พร้อมทั้งอ๋องเจ็ดกำลังร่วมมือกันอย่างแน่นอน
หนิงเชี่ยนกำลังวางแผนเรื่องราวต่าง ๆไว้ในใจ พลันหยิบหน้ากระดาษแผ่นนั้นออกมาพร้อมทั้งโยนมันลงไปในเตาเผา
เมื่อเข้าสู่วันที่สอง. หนิงเชี่ยนพลันใช้เวลาในยามเช้าเดินทางไปยังตำหนักเว่ยยาง. เป็นดั่งที่นางคาดการณ์ไว้ นางกำนัลที่อยู่หน้าตำหนักพลันกล่าวออกมาว่า ฮองเฮายังไม่ตื่นบรรทม หนิงเชี่ยนมิได้สนใจแต่อย่างใด นางจึงนั่งรออยู่ภายในตำหนักเช่นนั้น นับเป็นโชคดีที่นางออกจากตำหนักมานั้นพลันพกตำราของรายชื่อเครื่องสังเวยที่ส่งโดยกระทรวงมหาดไทยติดมือมาด้วย
ฮองเฮาเมื่อตื่นขึ้นมานั้น ก็ได้ยินว่าหนิงเชี่ยนมารออยู่ที่หน้าตำหนักแล้ว นางก็มิได้มีอารมณ์โมโหแต่อย่างใด
ครั้งก่อนที่นางทะเลาะกับเซี่ยหวนอวี่ในตำหนักเว่ยยางนั้น แม้ว่าแม่นมจะกล่าวว่านางใช้อารมร์จนเกินไป อีกทั้งท่านพ่อท่านแม่ก็ยังส่งจดหมายมาต่อว่านางในเรื่องนี้อีกด้วย นางกลับไม่รู้สึกเสียดายในสิ่งที่ทำลงไปเลยสักนิด
นางเกิดมาในตระกูลซูที่ผู้คนล้วนแต่อิจฉาริษยา อีกทั้งยังเป็นบุตรีที่มีใบหน้าและความสามารถที่เพียบพร้อมกว่าผู้คนในใต้หล้า แต่เล็กจนโตล้วนแต่เป็นที่รักที่โปรดปรานของผู้คน หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่นางมิเคยได้ครอบครองเลยคือ เซี่ยหวนอวี่
นางหลงรักเซี่ยหวนอวี่มานานแสนนาน นานเสียจนลืมไปแล้วว่า นางเริ่มชมชอบเซี่ยหวนอวี่ตั้งแต่เมื่อใดกัน ทว่า เนื่องจากนางเป็นบุตรี เรื่องราวใดๆล้วนแต่ไม่สามารถเปิดอกคุยกับครอบครัวได้มานัก ท่านพ่อของนางกล่าวว่า นางจักต้องแต่งออกไปให้กับชายที่เป็นใหญ่ที่สุดในแคว้นเซี่ย
หากแต่ เมื่อรอจนเซี่ยหวนอวี่เป็นชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแคว้นเซี่ยนั้น เขาก็มีคนในใจเสียแล้ว
นางได้แต่รอ พลันคิดเข้าข้างกับตนเองว่าท่านพ่อคงจะมิโกหกนาง นางจักต้องได้ในสิ่งที่นางต้องการ มิทันครบสองปี นางก็สามารถแต่งเข้าไปในวังหลวง พร้อมทั้งนั่งบนตำแหน่งที่สตรีหลายคนต่างใฝ่ฝันถึง ยามนั้นนางกลับค้นพบว่า แม้แต่คำพูดที่อ่อนโยนเขาก็ยังไม่เคยมอบให้นาง
แต่เล็กจนโตนางถูกท่านพ่อพร่ำสอนว่า การเป็นฮองเฮาจักต้องทำอย่างไร นางต้องสวมบทบาทที่ดูสวยงาม สง่างามและสูงส่ง พร้อมทั้งคอยยิ้มให้กับบรรดาสตรีทั้งหลายที่เขาค่อย ๆ เพิ่มเข้ามาในวังหลังทีละคนสองคน
กำแพงสีแดงที่สูงส่งเช่นนี้ กลับทำให้นางค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง ในใจล้วนแต่เต็มไปด้วยการคิดคำนวณแผนการต่างๆ มือของนางล้วนแต่เต็มไปด้วยเลือด
ในยามนี้ นางเพียงคิดอยากจะวางมือลงเสียแล้ว ถึงแม้ว่านางจักรู้ดีว่านางไม่สามารถวางมือลงได้ก็ตาม เขากล่าวกับนางว่า. นางควรจะเรียนรู้ที่จะรู้จักพอได้แล้ว. เนื่องจากด้านหลังของนางยังมีตระกูลซูอยู่อีก
"อย่างไรเซียงเฟยผู้นี้ก็เป็นนางสนม อีกทั้งเหนียงเหนียงยังเป็นผู้คุมในวังหลังอีก มิควรทำเช่นนี้เลยเพคะ. แม้ว่าท่านจะไม่ชอบใจก็ตาม หากแต่ก็ไม่ควรแสดงอาการออกไปเช่นนี้ "แม่นมพลันถอนหายใจออกมาอย่างเบาๆ พร้อมส่งเสียงพึมพำออกมา
ฮองเฮาพลางส่งยิ้มด้วยความเย็นชาออกมาว่า "นางแย่งป้ายประจำตำแหน่งของเปิ่นกงไป. เหตุใดเปิ่นกงจักต้องไปแย้มยิ้มต้อนรับนางด้วย ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง