ท่ามกลางขุนนางนับร้อยที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างได้มีบางคนวิ่งหนีไปแล้ว องค์หญิงใหญ่มองดูท่าทางขี้ขลาดของพวกเขาพลางยิ้มเย็นอยู่ในใจ "เหล่าคนที่เอาแต่พูดว่าเพื่อแผ่นดินนั้น เมื่อมาถึงเวลาจวนตัวกลับทรยศเพื่อรักษาชีวิต? คนเช่นนี้ข้าย่อมไม่เก็บไว้แน่"
แม้ว่านางจะพูดเช่นนี้ แต่ใบหน้าก็ยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม นางยิ้มจนตาหยีแล้วจึงนับ "สาม!"
ด้านล่างเกิดความโกลาหลขึ้นทันที เสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่หยุด
"สอง!" องค์หญิงใหญ่ราวกับรู้สึกยินดีต่อภาพตรงหน้าเป็นอย่างมาก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
นางเว้นวรรคไปครู่หนึ่งแล้วจึงตะโกนออกมา "หนึ่ง!"
เพียงแต่หลังจากเสียงนั้นกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น องค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้วมุ่น นางตวาด "ยังไม่รีบยิงอีก!"
ไม่มีใครตอบ ผู้ที่ล้มอยู่บนกำแพงล้วนไม่มีใครขยับ องค์หญิงใหญ่ตกใจและเห็นว่าเหล่าพลธนูเหล่านั้นกลับถอยไปด้านหลังโดยพร้อมเพรียงกัน
องครักษ์และหลิวเหวินอันที่อยู่ด้านล่างก้าวขึ้นไปอีกหลายขั้น
ในใจขององค์หญิงใหญ่เย็นยะเยือกมีดสั้นยิ่งประชิดคอของเซี่ยหวนอวี่เข้าไปอีก "พวกเจ้าไม่ต้องการชีวิตของเซี่ยหวนอวี่แล้วหรือ?"
ไม่มีเสียงตอบ องค์หญิงใหญ่เห็นว่าหลิวเหวินอันโบกมือเป็นสัญญาณให้เหล่าองครักษ์พุ่งขึ้นไป องค์หญิงใหญ่เห็นว่าสถานการณ์ท่าจะไม่ดีเสียแล้วจึงได้หันหน้าเซี่ยหวนอวี่ในอ้อมแขนกลับมาดูก็เห็นว่าเขาสีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากกลายเป็นสีม่วงคล้ำราวกับถูกพิษ
องค์หญิงใหญ่รีบยกมือขึ้นอังดูที่จมูกของเซี่ยหวนอวี่และพลันสีหน้าเปลี่ยนไป นางผลักคนในอ้อมแขนลงบันไดไปแล้วจึงตะโกนว่า "นี่มันกับดัก ถอย"
เมื่อสิ้นเสียงขององค์หญิงใหญ่ เหล่าพระก็โยนของรูปร่างทรงกลมสีดำลงพื้น เสียงปุ้งดังขึ้น ของสิ่งนั้นระเบิดขึ้นต่อหน้าของพวกเขาเกิดเป็นหมอกควันหนาทึบล้อมรอบจนมองอะไรไม่เห็นอีก
หลิวเหวินอันตะโกนขึ้นทันที "อย่าให้นางหนีไปได้"
เหล่าองครักษ์จึงพุ่งตัวไปบนหอสักการะ ควันค่อยๆ จางลง เมื่อทุกคนเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าองค์หญิงยังยืนอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ร่างกายของนางดูแข็งทื่อ เดิมมีดที่นางถือจ่อคอของเซี่ยหวนอวี่กลับมาจ่ออยู่ที่ด้านหน้าของนางในชั่วพริบตา
ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่กลับเห็นชายที่สวมชุดพิธีการสีดำด้านข้าง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม ทำให้ผู้คนต่างก้มหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้
"ทหาร นำตัวองค์หญิงใหญ่กลับตำหนักไท่จี๋" เสียงของเซี่ยหวนอวี่ดังขึ้นจากบนหอสักการะฟ้าสยบความวุ่นวายทุกอย่างลง
หลิวเหวินอันรีบเข้ามาจับตัวองค์หญิงใหญ่และสั่งให้คนมัดนางพร้อมทั้งพานางเดินลงจากหอสักการะฟ้าไป
เซี่ยหวนอวี่หันไปเหลือบมองเสิ่นซู่เฟยเล็กน้อยแล้วจึงเอ่ยอย่างราบเรียบ "ลำบากเจ้าแล้ว เจ้ากลับวังไปก่อนเถอะ"
เสิ่นซู่เฟยพยักหน้าอย่างเงียบๆ แล้วจึงค่อยๆ เดินลงจากหอไป
เมื่อกลับมาถึงตำหนักไท่จี๋ องค์หญิงใหญ่คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วและไม่ได้มีท่าทางคลุ้มคลั่งเช่นเมื่อครู่อีกต่อไป บางทีอาจเป็นเพราะนางโกนผมจึงทำให้นางดูผ่ายผอมลงไปมากและยิ่งดูแก่ชราลงไปอีก
เซี่ยหวนอวี่เดินไปนั่งบนบัลลังก์มังกรแล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ "เสด็จพี่จะยอมแพ้หรือยัง?"
เมื่อองค์หญิงใหญ่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะขึ้น เพียงแต่เมื่อหัวเราะไปเรื่อยๆ น้ำตาของนางกลับหยดลง "ยอมแพ้งั้นหรือ?" องค์หญิงใหญ่เงยหน้าขึ้นมองเซี่ยหวนอวี่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แล้วเอ่ยถามแผ่วเบา "เจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง