ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 752

หยุนชางรออยู่นอกตำหนักอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้นไม่นานนางก็เห็นหลิวเหวินอันเดินออกจากตำหนักแล้วคาราวะต่อหยุนชางพร้อมกล่าว "พระชายาเชิญด้านในขอรับ"

หยุนชางรีบขอบคุณและก้าวเข้าไปในตำหนัก

ซูฉีอยู่ที่นั่นจริงๆ ยังมีขุนนางอีกสองสามคนที่อยู่กับซูฉี หยุนชางมองดูพวกเขาคุ้นหน้าอย่างมากแต่จำชื่อมิได้ หยุนชางเดินตรงเข้าไปในตำหนักแล้วคุกเข่าลง นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเกือบจะร้องไห้ "ขอทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงคืนความเป็นธรรมให้หม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ"

ฝ่าบาทและเหล่าขุนนางที่กำลังหารือราชกิจอยู่ต่างก็ตกตะลึงและแปลกใจ พวกเขาเงยหน้าขึ้นและมองไปทางหยุนชาง เซี่ยหวนอวี่ขมวดคิ้ว แววตาของเขาจ้องมองไปที่หยุนชางอยู่นานแล้วจึงเอ่ยปากถามอย่างเสียงดังว่า "เกิดอะไรขึ้นหรือ?"

หยุนชางรีบกล่าวว่า "เมื่อสักครู่นี้หม่อมฉันพูดคุยกับเสิ่นซู่เฟยอยู่ในวังไปครู่หนึ่ง จากนั้นหม่อมฉันก็ออกจากพระราชวังไป และคิดว่านานแล้วที่มิได้ไปตลาด หม่อมฉันจึงลงจากรถม้าแล้วให้สาวใช้ไปซื้ออาหารมาเล็กน้อย แต่ไม่คาดคิดว่าไปพบบุคคลคนหนึ่ง เขามาเกี้ยวพาราสีหม่อมฉัน เพียงแต่การเกี้ยวพานนี้เป็นแค่เรื่องเล็กเพคะ หม่อมฉันจึงมิได้สนใจ แต่ไม่คาดคิดว่าบุคคลนั้นจะกล่าวคำวาจาที่กำเริบเสิบสานออกมา และขู่จะทำลายเก้าชั่วโคตรของหม่อมฉันเพคะ"

หยุนชางกัดริมฝีปาก เสียงสั่นเล็กน้อย "หม่อมฉันคิดว่า เก้าชั่วโคตรของหม่อมฉันย่อมมีฝ่าบาทอยู่ในนั้นด้วยมิใช่หรือ? อีกทั้งพระบิดาของหม่อมฉันเป็นถึงจักรพรรดิแคว้นหนิง และสิ่งที่บุคคลนั้นกล่าวออกมาเหลวไหลดูหมิ่นมากจนเกินไป จึงขอให้ฝ่าบาททรงเป็นธรรมด้วยเถิดเพคะ"

ดวงตาของเซี่ยหวนอวี่เผยแววตาความประหลาดใจออกมา จ้องมองไปที่หยุนชางด้วยสายตาที่ลึกล้ำโดยไม่กล่าวกระไรเป็นเวลานาน

ซูฉีที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนี้ "เช่นนี้หรือ? หากว่าคนผู้นั้นกล่าวเช่นนี้จริง ก็กำเริบมากจนเกินไป นี่ถือเป็นโทษฐานคิดกบฏเชียวนะ พระชายาควรที่จะให้คนของกรมอาญาไปจับตัวมาที่คุกกรมอาญาและสอบปากคำอย่างเคร่งครัด"

หยุนชางอดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางมิได้โจมตีซูฉี แต่ซูฉีกลับเข้ามาหาตนเอง เช่นนี้ก็โทษนางมิได้แล้วล่ะ

หยุนชางพยักหน้า "สิ่งที่ซูไท่เว่ยกล่าวมามีเหตุผลเพคะ เดิมทีหม่อมฉันได้คำนึงถึงฐานะตัวตนของบุคคลผู้นั้นจึงมิกล้าตัดสินใจด้วยตนเอง ในเมื่อซูไท่เว่ยก็รู้สึกเช่นนี้ หม่อมฉันจึงคิดว่า สมควรที่จะจับบุคคลนั้นเจ้ามาสอบสวนในคุกของกรมอาญาเสียจริงเพคะ"

"ฐานะหรือ?" ซูฉีหัวเราะอย่างเย็นชา "พระชายารุ่ยอ๋องกังวลมากเกินไป ไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร โทษฐานกบฏเป็นโทษใหญ่ จะปราณีไปง่ายๆ ได้อย่างไรหรือ?"

เมื่อเห็นสีหน้าของหยุนชางแล้ว เซี่ยหวนอวี่ก็ได้สติกลับคืนมา เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า " ไม่คาดคิดว่าในเมืองจิ่นนี้ยังมีคนกำเริบเสิบสานเช่นนี้อยู่ แต่ไม่ทราบว่าคนผู้นี้คือใครหรือ? และตอนนี้อยู่ที่ใด? หลิวเหวินอัน เตรียมรายงานรองเจ้ากรมอาญา ไปจับตัวมา"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนชางก็กราบเซี่ยหวนอวี่และกล่าวว่า "ทูลฝ่าบาทเพคะ บุคคลนั้นเป็นหลานชายของซูไท่เว่ย บุตรชายคนที่ห้าของตระกูลซูเพคะ"

ทันทีที่หยุนชางกล่าวจบ ทุกคนในห้องโถงต่างก็มีสีหน้าที่ดูเปลี่ยนไป การตอบสนองที่รุนแรงที่สุดย่อมเป็นซูไท่เว่ย เขาเร่งโบกมือและกล่าวว่า "พูดจาเหลวไหล"

หยุนชางหันไปมองซูไท่เว่ย และยิ้มด้วยความเย็นชา "ข้าไม่มีความคับข้องแค้นใจกับคุณชายซูหวู่ เหตุใดข้าจึงต้องกล่าวความเท็จเพื่อใส่ความเขาหรือ? อีกทั้งเรื่องนี้เกิดขึ้น ณ ตลาดที่มีผู้คนมากมาย ร้านค้ารอบๆ และเหล่าประชาชนล้วนได้ยินและเห็นสถานการณ์นั้น ฝ่าบาททรงสั่งการให้รองเจ้ากรมอาญาถามคนรอบข้างแล้วจะทราบว่าสิ่งที่หม่อมฉันกล่าวมาเป็นจริงหรือไม่เพคะ"

ซูฉีรีบกล่าวอีกครั้งว่า "มันเป็นเพียงการกระทำที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจของหลานที่ไร้เดียงสาก็เท่านั้น เหตุใดพระชายารุ่ยอ๋องจึงใช้เหตุผลเข้าสู้ไม่ยอมถอยและคิดเล็กคิดน้อยขอรับ?"

แววตาเสียดสีในสายตาของหยุนชางยิ่งเด่นชัดมากขึ้น "ใช้เหตุผลเข้าสู้แต่ไม่ยอมถอยอย่างนั้นหรือ? แต่ข้าจำได้ชัดเจนนะ ตอนนั้นซูไท่เว่ยเองเป็นคนกล่าวว่า คนกำเริบเช่นนี้ ถือเป็นโทษฐานคิดการกบฏ และสมควรที่จะใช้รองเจ้าอาญานำตัวไปเข้าคุกกรมอาญา ทำไมซูไท่เว่ยจึงเปลี่ยนทัศนคติทันทีที่ได้ยินว่าเป็นหลานชายของตน ซูไท่เว่ยปกป้องเห็นแก่ความผิดเช่นนี้ต่อหน้าฝ่าบาทและเหล่าขุนนาง เพิกเฉยต่อกฎหมายและความยุติธรรมของศาลพระราชวัง ซูไท่เว่ยนั้นยุติธรรมและเที่ยงตรงเสียจริง"

สีหน้าของซูฉีขาวซีดเล็กน้อย เขากัดฟันและมองไปที่หยุนชาง ความโกรธแค้นในแววตาดูเหมือนจะกลืนกินหยุนชางไปทั้งเป็น

เซี่ยหวนอวี่จึงได้เข้าใจในทันทีว่า หยุนชางเล่นการเช่นนี้เพื่อกระไร จึงอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มผ่านดวงตาออกมา แต่สีหน้าของพระองค์ยังคงเยือกเย็นเช่นเคย "สิ่งที่พระชายารุ่ยอ๋องกล่าวมามีเหตุผล หลิวเหวินอัน ไปสั่งให้หลี่เฉี่ยนโม่จับตัวเขามา"

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ หยุนชางก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ทูลฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันได้สั่งให้สายลับจับตาดูคุณชายซูหวู่นั้นไว้แล้วเพคะ ตอนนี้เขาอยู่ที่ถนนลั่วเฟิงเพคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง