จิ้งอ๋องพยักหน้า "อือ เช่นนั้นก็ดี"
จากนั้นก็เงียบลงอีกครั้ง หวังจิ้นฮวนมองกลับไปกลับมาระหว่างทั้งสองเป็นเวลานาน จากนั้นทำเสียงไอสองครั้งแล้วยืนขึ้น กล่าวว่า "อา วันนี้อากาศดี ข้าจะออกไปชมนกชมไม้ ไม่นั่งที่นี่กับพวกเจ้าแล้วล่ะ" เขายืนขึ้น ขยิบตาให้จิ้งอ๋องชั่วครู่ก่อนจะวิ่งออกไป
สักพัก ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกัน หลังจากนั้นไม่นาน หยุนชางก็กล่าวว่า "อันที่จริง วันนี้ที่มาหาเสด็จอาเพราะ ชางเอ๋อร์บังเอิญได้รู้อะไรบางอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับเสด็จอา ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน รู้สึกว่าแทนที่จะเดา มาถามเสด็จอาโดยตรงดีกว่าเพคะ"
"อ๋อ?" จิ้งอ๋องวางถ้วยชาลงแล้วมองหยุนชาง "อือ ในเมื่อเกี่ยวกับข้า มาถามข้านับว่าทำถูกต้องแล้ว บอกมาเถอะ เรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าทุกข์ใจ"
หยุนชางคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า "เรื่องที่ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์ยังไม่ได้ประกาศสู่นอกวัง แต่ว่า เสด็จอาก็ทรงทราบแล้วใช่ไหมเพคะ"
จิ้งอ๋องพยักหน้า ไม่ได้พูดคำตอบ
หยุนชางคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่ง "เมื่อคืนนี้เพราะเรื่องบางเรื่องทำข้านอนไม่หลับ เลยไปเดินเล่นที่อุทยานหลวง ก็พบสนมซู่โดยบังเอิญ เพียงแต่ว่า นางไม่ได้สังเกตเห็นข้า ข้าบังเอิญได้ยินบางอย่าง เกี่ยวกับรัชทายาท"
จิ้งอ๋องพยักหน้าอีกครั้ง "เรื่องอะไร?"
"สนมซู่กล่าวว่า ถ้านางสนมในวังตั้งครรภ์ จากนั้นไม่กี่วัน นางจะได้รับคำสั่งจากเสด็จอา ให้นางกำจัดเด็กในท้องของนางสนมที่ตั้งครรภ์อย่างเงียบๆ" มือของหยุนชางบีบถ้วยชาในมือเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ
จิ้งอ๋องตะลึงงัน นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า "เป็นความจริง..."
หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองไปที่จิ้งอ๋องด้วยความประหลาดใจ "ทำไมเสด็จอาถึงต้องทำเช่นนี้"
จิ้งอ๋องวางถ้วยน้ำชาลง แล้วยืนขึ้น เดินไปยืนหน้าหยุนชาง ก้มศีรษะและมองนาง "เจ้าคิดว่า ข้าเทียบกับเสด็จพ่อของเจ้าแล้วเป็นอย่างไร"
คำถามดังกล่าวไม่สามารถอธิบายได้เล็กน้อย แต่หยุนชางเข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เงียบไปครู่หนึ่ง ก็พูดว่า "เสด็จอาเป็นผู้กล้าหาญปรีชาด้านการออกศึก กล้าหาญและมีกลยุทธ์"
จิ้งอ๋องหัวเราะ "ข้าถามตัวเองไม่ว่าจะด้านใดๆ ข้าก็ไม่ด้อยไปกว่าเสด็จพ่อของเจ้า เมื่อเสด็จพ่อพาข้ากลับวัง ข้าอายุได้สามขวบ เมื่อเสด็จพ่อของเจ้าขึ้นครองราชย์ ข้าอายุเจ็ดขวบ เมื่อข้าอายุได้เจ็ดขวบ ข้าได้รับการสรรเสริญจากท่านตาของเจ้า ซึ่งเป็นราชครูในขณะนั้น โดยกล่าวว่าข้ามีพรสวรรค์ทางโลก อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้แย่งชิงกับเสด็จพ่อของเจ้า ประการหนึ่งเพราะข้าเป็น บุตรบุญธรรมของเสด็จพ่อ ประการที่สอง ตอนนั้นข้าไม่มีอำนาจและอิทธิพลใดๆ ในราชสำนัก ไม่มีผู้ที่ข้าจะใช้งานได้แม้แต่ผู้เดียว..."
"แต่ว่า เสด็จอาก็ยังทรงต้องการตำแหน่งนั้นใช่ไหมเพคะ" หยุนชางไม่คิดมาก่อนว่าจิ้งอ๋องจะได้พูดเรื่องพวกนี้กับนาง ชะงักไปชั่วครู่ นางจึงเอ่ยถามออกมา
จิ้งอ๋องหัวเราะ หันข้างให้หยุนชาง "ใครบ้างล่ะที่ไม่ต้องการตำแหน่งนั้น"
"แต่ท่านเกรงว่ามันยากที่จะลงมืออย่างซึ่งหน้า และกลัวว่าการมีส่วนร่วมมากเกินไปในแนวหน้าจะทำให้เสด็จพ่อและเหล่าขุนนางเกิดความระแวดระวัง จึงจงใจวางหมากของตัวเองในวังหลังใช่ไหมเพคะ"
จิ้งอ๋องหัวเราะ "ถูกต้อง ในราชวงศ์ปัจจุบัน ตระกูลหลี่อยู่ในอำนาจ และข้านำทหารออกนอกราชสำนักตลอดทั้งปี ยากที่จะทำอะไรโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ ข้ารู้สึกว่าตระกูลหลี่ไม่เป็นภัยต่อข้า เพราะพวกเขาพึ่งได้ มีเพียงฮองเฮา หากว่า ฮองเฮาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ไม่สามารถเป็นที่พึ่งแก่พวกเขา หรือว่า ฮองเฮาไม่มีโอรส ดังนั้น ตระกูลหลี่จะพังทลายและหายไปในทันที ดังนั้นข้าจึงไม่ต้องทำอะไรเลย"
หยุนชางเพียงรู้สึกว่าร่างกายของนางหนาวเย็นเล็กน้อย เงียบไปนานพอควรถึงพูดว่า "แล้วทำไม เสด็จแม่ของข้าตั้งท้องมาสามเดือนแล้ว แต่ท่านกลับยังไม่ลงมือล่ะเพคะ"
จิ้งอ๋องได้ยิน ก็หันกลับมามองหยุนชางด้วยรอยยิ้มที่ปาก ดวงตามีความสับสนเล็กน้อย สักพัก ก็ดูเหมือนว่าพึมพำกับตัวเองว่า "ทำไม อันที่จริงข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม"
หยุนชางไม่เข้าใจความหมายของจิ้งอ๋อง จึงมองมาที่จิ้งอ๋องด้วยความสงสัย กลับเห็นท่าทีของจิ้งอ๋องได้กลับสู่สภาวะปกติ ดูเหมือนว่าความสับสนในเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาของหยุนชาง
"แล้วฮองเฮา..." หยุนชางถามอีกครั้ง
จิ้งอ๋องเหลือบมองที่หยุนชาง "ฮองเฮา? นาง ไม่จำเป็นต้องให้ข้าทำเลย"
หยุนชางมองไปที่จิ้งอ๋องราวกับว่ามีความมั่นใจมาก ผงะไปครู่หนึ่ง คำพูดเหล่านี้หมายความว่าอย่างไร จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนนี้สนมซู่กำลังพูดถึงเด็กในครรภ์ของฮองเฮา ดูเหมือนนางจะพูดว่า ครรภ์ของฮองเฮา ในวังยังมีคนเป็นห่วงเรื่องนี้อีกมาก แม้ว่านางจะไม่ลงมือ ก็จะไม่มีทางประสูติได้อย่างราบรื่นแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง