"วางแผน?" ท่านฮูหยินจ้าเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองหยุนชาง หลังจากครุ่นคิดไปสักพัก จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า " เจ้าลองบอกเรื่องของเซี่ยหวนอวี่ที่เป็นจักรพรรดิแห่งแคว้นเซี่ยให้ข้าฟังที เจ้าเล่าให้ข้าฟังหน่อยเถิดว่าเขาเป็นคนเช่นไร"
เมื่อหยุนชางได้ยินเช่นนี้ มือที่ถือถ้วยน้ำชาอยู่ก็สั่นทันที แต่นางก็เร่งทำจิตใจให้สงบ ระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้ จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น "อันที่จริงแล้ว ข้าอยู่ที่แคว้นเซี่ยมาหนึ่งปี ว่าตามจริงแล้วข้าเองก็ไม่ได้รู้จักตัวตนของเซี่ยหวนอวี่สักเท่าไหร่หรอก จู่ๆ ท่านฮูหยินก็ให้ข้าเล่าว่าเซี่ยหวนอวี่เป็นคนเช่นไร ข้าเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี"
"เช่นนั้นหรือ?" ท่านฮูหยินจ้าวเลิกคิ้วและหันไปมองหยุนชาง "เป็นเช่นนี้จริงหรือ? ลึกลับเช่นนี้เลยรึ?"
หยุนชางหัวเราะ " จะว่าไปก็มิได้ลึกลับกระไรหรอก ข้าบอกกับท่านฮูหยินเช่นนี้เสียดีกว่า หากว่ามองในฐานะจักรพรรดิ เซี่ยหวนอวี่ถือว่าเป็นองค์จักรพรรดิที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว แม้ว่าภายในพระราชวังจะวุ่นวายและซับซ้อนเพียงใด แต่เซี่ยหวนอวี่รู้จักทำให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมและเป็นกลาง อีกทั้งขณะที่เขาครองราชย์นั้น ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข และมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ"
"แต่ในฐานะสามี ภายในวังหลังของแคว้นเซี่ย เมื่อครั้งที่ฮวาฮองเฮายังคงอยู่ มีเพียงแค่ฮวาฮองเฮาเท่านั้นที่ได้รับความโปรดปราน หลังจากที่ฮวาฮองเฮาสิ้นพระชนม์ มีนางสนมเข้าวังมาไม่น้อย ตั้งแต่ฮองเฮาไปถึงหยุนกุ้ยเฟยจนกระทั่งเสิ่นซูเฟยและนางสนมเล็กอีกหลายนางที่ได้รับความโปรดปราน แต่ข้ากลับไม่เคยเห็นเซี่ยหวนอวี่รักใครจริงสักคน รู้สึกเพียงว่าเซี่ยหวนอวี่สามารถมีความรักที่ลึกซึ้งต่อทุกคน แต่จริงๆ แล้วท่านเย็นชากับทุกคนมาก" หยุนชางขมวดคิ้ว
"ในฐานะบิดา...ในบรรดาทายาทของราชวงศ์ มีองค์หญิงมากมายและองค์ชายเพียงไม่กี่องค์เท่านั้น แต่ข้าไม่ค่อยเห็นองค์หญิงเหล่านั้นได้รับความโปรดปรานจากเซี่ยหวนอวี่เท่าไหร่นัก แทบจะไม่มีเลย องค์รัชทายาทมีความเกี่ยวข้องถึงบัลลังก์ แต่การกระทำของเซี่ยหวนอวี่กลับทำให้ทุกคนสับสนและมึนงง ข้าคิดมาเสมอว่าท่านทรงโปรดอ๋องเจ็ดเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุที่ว่าองค์รัชทายาทถูกอ๋องเจ็ดสังหาร แต่เซี่ยหวนอวี่ไม่เคยแสดงท่าทีจัดการกับเรื่องนี้เลย อีกทั้งเขาปล่อยให้เซี่ยหวนอวี่วางแผนวางอุบายตามอำเภอใจ แต่ช่วงนี้ข้ากลับรู้สึกว่า อ๋องเจ็ดเป็นเพียงหมากในมือของเซี่ยหวนอวี่............"
ท่านฮูหยินจ้าวได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว "จากที่เจ้ากล่าวมา ฟังดูน่าสนใจนะ"
น่า...สนใจ? หยุนชางเบิกตากว้าง หยุนชางไม่รู้สึกว่าเซี่ยหวนอวี่ที่ตนกล่าวไปเมื่อสักครู่นี้น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย หรือว่าแม้ท่านฮูหยินจ้าวจะสูญเสียความทรงจำ แต่ในจิตใต้สำนึกของท่านยังคงมีความรู้สึกบางอย่างต่อเซี่ยหวนอวี่อยู่?"
หยุนชางหัวเราะแห้งๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน " เพียงแต่ว่า คนเยี่ยงเซี่ยหวนอวี่นั้น ไม่เคยเมตตาใคที่ทำให้เขาขุ่นเคืองแม้ว่าจะเป็นญาติทางสายเลือดของตนก็ตาม"
ท่านฮูหยินจ้าวพยักหน้าเบา ๆ และนิ่งเงียบอยู่นานก่อนจะพูดอย่างสงบมากว่า " เจ้าจะกลับไปที่เมืองหวายอินเมื่อใดหรือ?"
หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองท่านฮูหยินจ้าว แต่เห็นว่าสีหน้าของท่านสงบอย่างมาก แต่ดวงตาของท่านกลับลึกลับอย่างมาก และไม่รู้ว่าท่านกำลังคิดกระไรอยู่ หยุนชางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบว่า "ข้าจะกลับในวันพรุ่งเพคะ"
ท่านฮูหยินจ้าวพยักหน้า จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองไปที่สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และสั่งการว่า "ไปเก็บข้าวของของข้าที หยิบของที่อยู่ในกล่องเล็กๆ บนโต๊ะเครื่องแป้งใส่เข้าไป ใส่เสื้อผ้าไปเล็กน้อย ส่วนของอย่างอื่นมิต้องพกไป"
หยุนชางตกตะลึงเมื่อได้ยินคำสั่งของท่าน "ท่านฮูหยิน.........."
ท่านฮูหยินจ้าวเหลือบมองหยุนชาง แล้วจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม " ก่อนหน้านี้เจ้าเดินทางจากคางหยางเพื่อมาพบข้า และเจ้าก็กล่าวเรื่องราวต่างๆ ให้ข้าทราบซ้ำแล้วซ้ำอีก เจ้าเพียงแค่ต้องการให้ข้ากลับไปหาเซี่ยหวนอวี่พร้อมเจ้ามิใช่หรือ? ตอนนี้ข้าได้ทำตามความปรารถนาของเจ้าแล้วมิใช่หรือ? แล้วเหตุใดเจ้าจึงดูประหลาดใจยิ่งนัก"
สีหน้าของหยุนชางเก้อเขินเล็กน้อย แน่นอนว่านางต้องประหลาดใจ เพราะทุกอย่างเป็นดั่งที่ท่านฮูหยินจ้าวกล่าวมา ก่อนหน้านี้นางทำการเช่นนี้มามากก็เพราะอยากให้นางทราบว่า ชีวิตของลั่วชิงเหยียนในแคว้นเซี่ยไม่ดีเท่าไหร่นัก เขาถูกศัตรูโอบล้อมทั้งสี่ทิศ โดยไม่มีคนช่วย นางเพียงแค่ต้องการจะปลุกเร้าความสงสารที่ท่านมีต่อลูกชายที่ท่านมิเคยทราบมาก่อนตลอดยี่สิบปีขึ้นมา อีกทั้งเดิมนางสามารถสั่งการให้คนอื่นๆ สกัดอ๋องเจ็ดเอาไว้ หากเป็นเช่นนั้นเสียจริง ก็สามารถผัดเวลาไม่ให้เซี่ยหวนอวี่ทราบเรื่องนี้ไปอีกนานได้ แต่นางมิได้ทำ นางเลือกที่จะกระตุ้นนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง