หยุนชางพลันเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ พร้อมทั้งรีบร้อนออกจากอ้อมกอดของลั่วชิงเหยียน แล้วจึงรีบร้อนกล่าวออกมาว่า "ไม่ได้ ไม่ได้เพคะ"
ลั่วชิงเหยียนเพียงแค่หัวเราพร้อมจ้องมองไปที่นาง สายตาเต็มไปด้วยแววตาของความขบขัน "อื้ม ยังอยากหัวเราะข้าอีกหรือไม่ ?"
หยุนชางพลันรีบร้อนส่ายหัวไปมา "ไม่แล้วเพคะ.ไม่ทำอีกแล้ว. ท่านอ๋อง หม่อมฉันทำผิดไปแล้วเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความสุขใจ "หืม. ท่านอ๋อง. ข้ามิใคร่ชอบฟังคำเรียกเช่นนี้นัก"
หยุนชางเข้าใจแล้วว่าเขากำลังกลั่นแกล้งนาง หากแต่นางในยามนี้ เมื่อลงมาอยู่ในเรือลำนี้แล้ว อย่างไรก็ไม่สามารถกลับขึ้นไปได้ เพียงแต่ขบริมฝีปากไปมา พร้อมพ่นหายใจออกมา แล้วจึงกล่าวว่า "ชิงเหยียน"
ลั่วชิงเหยียนเพียงแค่หยิบแก้วเหล้าในมือยกขึ้นมาดื่มอีกหนึ่งครั้ง พร้อมหันหน้าไปหา มิได้เอ่ยอันใดออกมา ราวกับกำลังไม่พอใจอยู่
หยุนชางขบริมฝีปากไปมาเล็กน้อย พร้อมตัดสินใจออกมาอย่างแน่วแน่ แล้วจึงตะโกนออกมาว่า "เสด็จอา. ท่านอ๋อง. ชิงเหยียน. สามี. พระสวามี"
ลั่วชิงเหยียนพลันหันหน้ามา แววตาเต็มไปด้วยความพอใจ "อื้ม. ตะโกนคำสุดท้ายออกมาอีกครั้ง"
ใบหน้าของหยุนชางขึ้นสีเล็กน้อย. น้ำเสียงที่ค่อยๆแผ่วเบา. " พระสวามี พระสวามี. พระสวามี. พระสวามี. เล่นกันเสร็จแล้ว. พวกเรากลับกันเถอะเพคะ"
ลั่วชิงเหยียนยิ้มพร้อมพยักหน้าลง. จึงเดินไปที่ท้ายเรือ พร้อมยกไม้พายขึ้นมา พลางหันไปหยุนชางว่า "เจ้าเรียกอีกที ข้าพายครั้งหนึ่งเป็นอย่างไร?"
หยุนชางขบฟันไปมาเล็กน้อย ภายในใจเต็มไปด้วยความขมื่น "ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์"
หากแต่ใบหน้าที่แย้มยิ้ม กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า "พระสวามี"
ลั่วชิงเหยียนจึงลงมือพายขึ้นมา เรือจึงเริ่มเคลื่อนที่แล้ว หยุนชางจึงค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมา หากแต่เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง กลับรู้สึกถึงความผิดปกติ แท้จริงแล้วเขาสามารถพายเรือกลับไปที่เรือนหยวนหนานได้ หากแต่ ลั่วชิงเหยียนกลับพายเรือเข้ามาในดงดอกบัวพวกนี้แทน
เมื่อใบบัวบดบังท้องฟ้าด้านบนแล้ว หยุนชางพลันเงยหน้าขึ้นไปมอง กลับพบเห็นเป็นใบบัวที่ไม่สามาถนับได้หลายใบเต็มไปหมด บดบังเสียมองมิเห็นท้องฟ้า
เมื่อลั่วชิงเหยียนพายเข้าไปด้านในอีกครั้ง. ใบบัวก็บดบังทุกอย่างโดยสมบูรณ์ และยังไม่สามารถพายต่อไปได้อีกแล้ว หยุนชางจึงได้สติกลับมา เมื่อกำลังจะหันไปเปิดปากพูดนั้น พลันเห็นลั่วชิงเหยียนเดินมาที่ข้างกายแล้ว คำพูดยังมิทันหลุดออกจากปาก ก็ถูกลั่วชิงเหยียนก้มหน้าลงมาประกบจูบอีกครั้งหนึ่ง
ผ่านไปชั่วครู่ ลั่วชิงเหยียนจึงพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งขึ้นมาว่า "ภรรยา. ข้าอยากได้เจ้าแล้ว"
หยุนชางยังมิทันจะได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ พลันได้ยินเสียง "ชึบ" อาภรณ์พลันถูกเปิดออก
สติครั้งสุดท้าย หยุนชางพลันคิดได้ว่า ต่อจากนี้ไป. นางจะไม่ยอมนั่งเรือลำเดียวกันกับเขาอีกแล้ว อีกทั้งยังเป็นฤดูที่ดอกบัวออกดอกเช่นนี้อีกด้วย
หยุนชางกลับมายังเรือนหนานย่วนเช่นใด ขึ้นมานอนบนเตียงได้เช่นไร หยุนชางไม่รู้เรื่องเลยทั้งสิ้น รู้เพียงแค่ว่า นางตื่นมายามอู่ของอีกวันหนึ่ง ทั้งฉินยีและเฉี่ยนจั๋วใบหน้าล้วนแต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่กรุ้มกริ่มยิ่งนัก
หยุนชางที่ถูกพวกนางยิ้มล้อเลียนเช่นนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความแดงก่ำ ภายในใจกับคิดว่า หากลั่วชิงเหยียนกลับมาเมื่อใด. ต้องทำให้เขาเห็นว่าเขากลั่นแกล้งนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง