ทางเข้าห้องเก็บน้ำแข็งอยู่ในห้องที่เก็บอาหารแห้งและผักซึ่งตั้งด้านทิศตะวันตกของจวนรุ่ยอ๋อง ด้านในสุดของห้องนั้นมีประตูหินที่สามารถเปิดได้ ลงบันไดจากประตูหินนั้นไปก็จะเป็นห้องเก็บน้ำแข็ง
เมื่อเปิดกุญแจประตูหินและดึงประตูหินออกก็มีไอเย็นพุ่งเข้ามาปะทะใบหน้า ลั่วชิงเหยียนกระโจนงงไปก่อน ฉินยีก็รีบตามเขาเข้าไป
ห้องเก็บน้ำแข็งนั้นมีขนาดใหญ่เกือบจะหนึ่งในสามของจวน รอบด้านมีกำแพงน้ำแข็งเป็นอิฐหนา เมื่อมาถึงห้องเก็บน้ำแข็งแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปค้นหาในกระท่อมที่สร้างด้วยอิฐน้ำแข็ง
หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามจึงได้ยินเสียงร้องอุทานมาจากทางด้านตะวันตกของน้องเก็บน้ำแข็ง "พระชายา!"
ลั่วชิงเหยียนยังคงค้นหาอยู่ในน้องเก็บน้ำแข็ง เมื่อได้ยินเสียงร้องนั้นหัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน เขาก็รีบวิ่งไปยังทิศทางนั้นทันที ไม่นานก็พบห้องที่พบหยุนชาง
ในห้องน้ำแข็งนั้นไม่ได้มีเพียงแต่หยุนชางเท่านั้น แต่ยังมีชายคนหนึ่งที่ร่างกายส่วนบนของเขาถูกพิษความเย็นทำให้เป็นลมหมดสติไปแล้ว ลั่วชิงเหยียนมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเขาเดินเข้าไปก็พบว่าที่แท้แล้วชายผู้นั้นคือหลิ่วหยินเฟิง
ลั่วชิงเหยียนหันไปมองหยุนชางซึ่งนั่งอยู่อีกด้านของกำแพงน้ำแข็ง นางขดตัวกอดเข่า ใบหน้าของนางฝังอยู่ระหว่างหัวเข่าของตนเอง ชั้นน้ำแข็งบนหัวของนางหนาขึ้น ร่างกายของนางถูกคลุมไว้ด้วยเสื้อคลุมสีเข้ม ลั่วชิงเหยียนจำได้ว่าเสื้อคลุมชั้นนอกนั้นเป็นของหลิ่วหยินเฟิง
ลั่วชิงเหยียนรีบเดินไปที่ด้านข้างของหยุนชาง นางก็หมดสติไปแล้วเช่นกัน ลั่วชิงเหยียนรีบกอดหยุนชางไว้ในอ้อมแขนพลางถอดเสื้อของตนเองออกมาพันรอบตัวนาง ความหนาวเย็นจนถึงกระดูกนั้นทำให้ร่างกายของลั่วชิงเหยียนสั่นน้อยๆ เขารีบไปที่ทางออกของห้องเก็บน้ำแข็ง
"ไปเชิญหมอมา พาเขาขึ้นไปด้วย" ลั่วชิงเหยียนเอ่ยเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความหนาวเย็นหรือสาเหตุอื่น
เขาอุ้มหยุนชางออกจากห้องเก็บน้ำแข็งและหาเรือนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ เขาวางร่างของนางลงและสั่งให้ข้ารับใช้หาผ้าห่มมาห่มให้หยุนชางและจุดเตาให้ความอบอุ่นหลายอันในห้อง
ลั่วชิงเหยียนวางเสื้อคลุมของหลิ่วหยินเฟิงไว้ข้างๆ เสื้อผ้าบนร่างของหยุนชางกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว มือของลั่วชิงเหยียนจับแขนของหยุนชางไว้แน่น ที่นั่นชีพจรยังคงเต้นเบาๆ ในห้องร้อนขึ้นเล็กน้อยจากความร้อนของเตา ลั่วชิงเหยียนมองไปยังท้องที่ยื่นนูนออกมา แต่ร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกแช่อยู่ในน้ำเย็นจัดจนเยือกเย็นไปถึงกระดูก
ร่างกายที่แข็งทื่อของหยุนชางค่อยๆ อ่อนลง น้ำแข็งบนปลายเสื้อผ้าของนางก็ค่อยๆ ละลาย ลั่วชิงเหยียนจับมือที่สั่นเทาโดยไม่รู้ตัวของตนเองและหยิบเสื้อผ้าที่ฉินยีนำมาให้มาสวมให้หยุนชางด้วยตนเอง
"หมอมาแล้ว หมอมาแล้ว" มีคนตะโกนออกมาจากนอกประตู ลั่วชิงเหยียนกำลังจะอ้าปากบอกให้ข้ารับใช้พาหมอเข้ามา แต่กลับพบว่าเขาพูดอะไรไม่ออกเลย
เมื่อหมอเห็นเช่นนั้นก็ลืมทำความเคารพ เขารีบเดินไปที่ข้างเตียงและครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "ท่านอ๋องปล่อยมือของพระชายาก่อนได้หรือไม่ หม่อมฉันจะได้จับชีพจรให้นาง"
ลั่วชิงเหยียนอึ้งไปแล้วจึงปล่อยแขนของหยุนชาง ทว่าเขากลับรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาว่างเปล่าลงในทันใด เขาจึงรีบประคองหยุนชางไว้ในอ้อมแขนของเขา เมื่อรู้สึกว่าผู้ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขายังคงหายใจ หัวใจของเขาจึงได้กลับสู่ที่เดิม
หมอไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น เขารีบเอื้อมมือไปจับชีพจร ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ท่านอ๋อง หม่อมฉันต้องหาทางปลุกพระชายาให้ได้ มิฉะนั้นเกรงว่าจะตายกันทั้งคู่ เพียงแต่นางได้รับความหนาวเย็นมาเป็นเวลานานเกินไป แม้ว่านางจะฟื้นขึ้นแล้วก็เกรงว่าลูกในท้องจะรอดยาก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง