จักรพรรดิหนิงไม่ได้พูดอะไร เขายืนขึ้นและเดินไปมาในตำหนัก "หมอหลวงอยู่ที่ไหน? ทำไมยังไม่มาอีก?"
ขันทีเจิ้งรีบไปเร่ง ผ่านไปสักพักจึงพาชายชราผมขาวหนวดขาวเข้ามา "ฝ่าบาท หมอหลวง หมอหลวงมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
ฮองเฮาเงยหน้าขึ้น แต่ดวงตาของนางก็ต้องเบิกกว้าง นางรีบสอดส่ายสายตาหาซิ่วซินในฝูงชน แต่นางกลับเห็นซิ่วซินอยู่ที่มุมห้อง สีหน้าของนางกังวลและส่ายหัวให้นาง
ฮองเฮารีบตรัสว่า "ไม่ ไม่ ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ให้หมอหลวงตรวจ ลูกของหม่อมฉันสบายดี หม่อมฉันเองก็สบายดี"
เมื่อจักรพรรดิหนิงได้ยินดังนั้นก็หันมาพูดเสียงเฉียบขาด "เจ้าเป็นบ้าอะไรอีก ยังไม่รีบให้หมอหลวงดูอีก?"
ฮองเฮาส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ก่อนหน้านี้หม่อมฉันรักษากับหมอหลวงเฉินมาตลอด เขารู้สถานการณ์ของหม่อมฉันดีที่สุด หม่อมฉันต้องการให้เขาเป็นคนตรวจ"
จักรพรรดิหนิงคิ้วขมวดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเห็นท่าทางผิดปกติของฮองเฮาในวันนี้ก็รู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย เขาหันไปหาบ่าวคนสนิทที่อยู่ข้างหลังเขาและพูดว่า "จับนางไว้และให้หมอหลวงตรวจดู"
บ่าวทั้งสองรีบก้าวไปจับตังฮองเฮาไว้ เมื่อหมอหลวงเห็นเช่นนั้นก็เดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาวางมือลงบนมือนาง ผ่านไปสักพักก็มีสีหน้าลังเล ผ่านไปอีกสักพักเขาจึงหันกลับมาคุกเข่าลงกับพื้น "ฝ่าบาท หม่อมฉันโง่เขลานัก ดูจากชีพจรแล้ว ฮองเฮาไม่ได้ตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ... "
ใบหน้าของฮองเฮาซีดลงทันทีราวกับว่าถูกคนพรากวิญญาญไป นางล้มลงบนเตียงนอน จักรพรรดิหนิงยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง "อะไรนะ เจ้าหมายความว่าเด็กไม่มีแล้ว"
หมอชราส่ายหัว "ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ ชีพจรของฮองเฮาแสดงว่านางไม่ได้ท้องเลยตั้งแต่แรก ไม่ใช่ว่าเพิ่งแท้งลูกเลยสักนิด"
จักรพรรดิหนิงเพิ่งเข้าใจความหมายของหมอชรา "เจ้าหมายความว่าฮองเฮาไม่ได้ตั้งครรภ์งั้นเหรอ?"
ก่อนที่หมอหลวงจะตอบ เขาก็ได้ยินเสียงเย็นชาของฮองเฮา "เหลวไหล หมอเฉินบอกชัดเจนว่าข้ากำลังตั้งครรภ์และช่วงนี้ข้าก็ยังชอบกินของเปรี้ยว ต้องเป็นพระโอรสแน่ แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าไม่ได้ท้อง? ข้ารู้แล้วต้องเป็นซู่เฟยมีผลประโยชน์บางอย่างให้แก่เจ้า ให้เจ้ามาใส่ร้ายข้า ทหาร มาจับตัวชายแก่ที่พูดจาเหลวไหลนี่ออกไปโบยเสียให้ตาย"
"เจิ้นยังอยู่ที่นี่ ยังไม่คราวเจ้าออกความเห็น ทหาร ไปเชิญหมอหลวงทั้งหมดมาที่นี่" จักรพรรดิหนิงพูดอย่างเย็นชา
สีหน้าฮองเฮาซีดเผือด เมื่อนางได้ยินที่จักรพรรดิหนิงพูด นางจึงรีบเสริมขึ้นอีกประโยคว่า "ต้องเชิญหมอเฉินมาด้วยล่ะ เขาเป็นคนที่บอกว่าข้าตั้งครรภ์ ให้เขามาอธิบายว่าใครกันแน่ที่พูดเหลวไหล"
บ่าวใช้รีบออกจากตำหนักไปด้านใน ฮองเฮาหลับตาลง ในสมองของนางว่างเปล่า
ไม่นานก็มีเสียงฝีทุ่นวายดังมาจากข้างนอก ม่านถูกแหวกออก หมอหลวงจำนวนมากเดินเข้ามา ข้ารับใช้เข้าไปรายงานต่อจักรพรรดิหนิงว่า "ฝ่าบาท หมองหลวงจากสำนักหมอหลวงมากันทั้งหมดแล้วาพ่ะย่ะค่ะ ทว่ามีเพียงแค่หมอเฉินที่ฮองเฮาเอ่ยถึง หม่อมฉันไม่เห็นเลยจริงๆ"
"เป็นไปได้อย่างไร?" ฮองเฮาดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจอย่างช้าๆ ดูเหมือนว่านางจะตกลงไปในกับดักที่คนอื่นวางไว้ คนวางแผนนั้นช่างชาญฉลาดนัก สามารถคำนวณทุกอย่างเกี่ยวกับนางได้หมด
"มาจับชีพจรของฮองเฮาทีละคน" จักรพรรดิหนิงเพิกเฉยต่อคำพูดของนางและสั่งเสียงเย็น
เหล่าหมอหลวงมองหน้ากันไปมาและเดินไปที่เตียงทีละคนเพื่อรับชีพจรของฮองเฮา จากนั้นก็ไปยืนเงียบๆอยู่ด้านข้าง เมื่อผ่านไปประมาณสิบห้านาทีหมอหลวงทุกคนก็จับชีพจรเสร็จ
"เป็นอย่างไร?" จักรพรรดิหนิงถาม
เหล่าหมอหลวงต่างสบตากันแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท พวกหม่อมฉันความรู้น้อยนิด ไม่สามารถตรวจพบว่าฮองเฮาทรงพระครรภ์และมีอาการแท้งบุตร ฮองเฮาไม่ได้ทรงครรภ์พ่ะย่ะค่ะ"
เมื่อจักรพรรดิหนิงได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องเหลือเชื่อ ผ่านไปอยู่นานเขาจึงหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่แล้วจู่ๆก็หยุดลงกะทันหันและพูดเสียงเย็น "ดูเหมือนว่าข้าจะเพิกเฉยต่อเรื่องในวังหลังนี้นานเกินไปแล้ว ที่นี่วุ่นวายมากเสียจริง แม้แต่ข้าที่เป็นผู้ปกครองใต้หล้ากลับถูกหลอกเล่นไปมาราวกับลิง" หลังจากพูดจบ เขาเหลือบมองฮองเฮาที่ยังคงอึ้งค้างอยู่ แล้วสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปจากตำหนักใน
หยุนชางตามหลังของจักรพรรดิหนิงมาตลอด ตอนนี้ละครก็ดูจบแล้ว นางจึงลุกขึ้นเดินตามจักรพรรดิหนิงออกไปยังตำหนักใหญ่ เมื่อถึงตำหนักใหญ่ก็พบสนมจิ่นที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
จักรพรรดิหนิงชะงักฝีเท้าหยุดและยืนรอให้สนมจิ่นเดินมาถึง บางทีวันนี้อาจเป็นเพราะเขาได้ประสบกับเรื่องไม่ดีมากมาย สีหน้าเขาจึงไม่ค่อยดีนัก "เจ้ามาได้อย่างไร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง