ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 96

หยุนชางอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างชัดเจน ได้ยินเพียงคำว่า "ฝัน" เท่านั้นและไม่รู้ว่าเขาพึมพำอะไร นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "ท่านอ๋อง หากข้ายังนั่งอยู่อย่างนั้น ข้าคิดว่าข้าคงจะต้องถูกจ้องมองเหมือนกายกรรมลิงแล้ว"

จิ้งอ๋องหันศีรษะมองไปรอบๆก็พบว่ามีทหารจำนวนมากยืนอยู่ด้านหลังเขา จึงเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา "เจ้าพวกบ้า ลอยไปลอยมาไร้สาระไปเรื่อยทั้งวัน"

เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นรอบข้าง "ท่านอ๋องราวกับเพิ่งสูญเสียวิญญาญไปอย่างนั้นแหล่ะ คุณชายคนนี้เป็นใครกัน? องค์ชายจะไม่แนะนำพวกเราหน่อยหรือ"

"ไปให้พ้น" จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว พูดอย่างรำคาญใจ

มีเสียงหัวเราะระเบิดขึ้นรอบๆ ใบหน้าของหยุนชางร้อนขึ้นเล็กน้อย แต่นางก็มองจิ้งอ๋องด้วยความประหลาดใจ จิ้งอ๋องที่นางเคยพบนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง นางไม่เคยเห็นจิ้งอ๋องเป็นเช่นนี้เลย นางจึงรู้สึกประหลาดใจมาก

หลังจากเดินอยู่นานจึงพบกระโจมที่มีอักษร "แม่ทัพ" ประดับอยู่ จิ้งอ๋องโยนบังเหียนม้าในมือให้ทหารด้านข้างแล้วเดินเข้าไปในกระโจม หยุนชางเดินเข้าไปพร้อมเฉี่ยนอิน ในขณะที่ก้าวเข้าไปก็ได้ยินเสียงของจิ้งอ๋องดังขึ้นอีกครั้ง ฟังดูอึดอัดเล็กน้อย "พวกเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? องค์ชายสามเริ่มหาเรื่องอีกแล้วหรือ?"

หยุนชางถูกจิ้งอ๋องบังไว้ นางจึงไม่สามารถมองเห็นสภาพข้างในได้ แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะร่าเริงเสียงหนึ่งดังขึ้น "ไม่ ไม่ เพียงแค่ได้ยืนเรื่องที่ทหารมารายงานเท่านั้นว่ามีคนมาที่กองทัพแล้วยังให้ท่านอ๋องลดตัวไปจูงม้าให้ พวกเราเหล่าพี่น้องอยากรู้อยากเห็น ต้องการมาดูว่าคนผู้นี้คือใคร?"

หยุนชางได้ยินเช่นนั้นก็ตะลึงไป แต่นางก็เริ่มเข้าใจว่าคนในค่ายทหารล้วนเป็นบุรุษ ต่างก็พูดจาตรงไปตรงมาไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใด จิ้งอ๋องยังไม่ทันเอ่ยขึ้น นางก็กล่าวขึ้น "ข้าน้อยคือเซียวหยุน เป็นสหายของจิ้งอ๋องจากเมืองหลวง วันนี้ที่ท่านอ๋องจูงม้าให้ข้าเป็นเพียงเพราะเขาแพ้เดิมพันจึงต้องทำตามอย่างจำยอม"

ทุกคนในค่ายได้ยินเสียงนั้นก็เพียงรู้สึกว่าเสียงใสกังวาน เมื่อเขาได้ยินนางพูด พวกเขาต่างก็ยื่นคอเพื่อมองไปที่ด้านหลังของจิ้งอ๋อง จิ้งอ๋องหัวเราะอย่างขมขื่น เซียวหยุน นางใช้แซ่ของฝ่ายมารดาและอักษรตัวหนึ่งจากชื่อนาง แต่นางพูดถึงเดิมพันอะไรนั่น เขาเองก็อยากจะรู้นักว่านางจะพูดให้เรื่องโกหกนั้นดูแนบเนียนได้อย่างไร ในขณะที่คิดอยู่นี้ เขาก็เดินตรงไปยังตำแหน่งที่นั่งของเขาที่ด้านใน ร่างของหยุนชางจึงถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน

"ดูสิ เป็นคนที่อยู่ดีกินดีจากเมืองหลวงจริงๆด้วย ท่าทางบอบบางเช่นนี้ พวกเราที่ตรากตรำลำบากอยู่ชายแดนมานานหลายปีเทียบไม่ได้เลยจริงๆ" เสียงของใครบางคนดังขึ้น

หยุนชางมองไปทางต้นเสียง เขาเป็นนายพลที่มีหนวดเฟิ้ม รูปร่างกำยำ ใบหน้าซื่อตรง

หยุนชางยิ้มเล็กน้อยและกวาดตามองไปรอบๆกระโจม จึงมองเห็นเพียงใบหน้าเดียวอันคุ้นเคย หวังซุ่น คนสนิทของจิ้งอ๋อง หวังซุ่นก็จำหยุนชางได้อย่างรวดเร็วและชี้นิ้วไปที่หยุนชาง "องค์ องค์ องค์..."

ในขณะที่เขากำลังจะตะโกนออกมา เขาก็เห็นสายตาเย็นชาของจิ้งอ๋องมองทอดมา หวังซุ่นผู้ฉลาดเฉลียวจึงรีบพูดว่า "คุณชาย"

"น้องชายคนนี้ยังไม่ได้พูดเลยว่าท่านอ๋องแพ้พนันได้อย่างไร ท่านอ๋องจึงต้องช่วยเขาจูงม้า เล่าให้พวกเราฟังหน่อยเถิด พวกเราคราวหน้าจะได้ทำตามบ้าง หากจิ้งอ๋องจูงม้าให้บ้างคงรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก" นายพลหนวดเฟิ้มเร่งเร้า

หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "ทุกท่านต่างเห็นหมดแล้วว่าข้าผอมแห้งแรงน้อยเช่นนี้ จิ้งอ๋องจึงพนันกับข้าว่าหากข้ากล้านำผู้ติดตามมาเพียงคนเดียวและเดินทางจากเมืองหลวงมาที่ชายแดนภายในเวลาสิบวัน หากข้าแพ้ คราวหน้าที่เขากลับเมืองหลวง จต้องต้องช่วยเขาทำให้แม่นางเฉียนเฉี่ยนนางโลมที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงยอมร่วมหลับนอนกับเขาหนึ่งคืน แต่หากข้าชนะแล้ว เขาจะช่วยจูงม้าของข้าเข้ามาในค่าย ให้ข้าได้รู้สึกมีเกียรติสักครั้ง"

"ฮ่าฮ่าฮ่า..." ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะ "ท่านอ๋องเอยท่านอ๋อง พวกเราคิดว่าท่านไม่สนใจหญิงงาม ที่แท้ท่านถูกใจนางโลมแห่งเมืองหลวง ท่านอย่าได้พูดอีกเลย ข้าได้ยินคนลือกันมากมายเกี่ยวกับแม่นางเฉียนเฉี่ยนคนนั้น นางต้องเป็นสาวงามล่มเมืองเป็นแน่"

จิ้งอ๋องตกตะลึง แต่เขากลับยิ้มอย่างจนใจ สายตาของเขาหยุดนิ่งอยู่บนร่างหยุนชาง มุมปากอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา แต่กลับแสร้งทำเป็นขึงขัง "พวกเจ้า หากยามรบพวกเจ้ากระตือรือร้นเช่นนี้ก็คงจะดี เพียงได้ฟังเรื่องน่าขบขันของข้าก็พากันวิ่งมากันเร็วนัก"

อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ไม่กลัวเลย พวกเขาก็เริ่มถามอีกว่า "น้องชาย เจ้าสามารถเชิญแม่นางเฉียนเฉี่ยนได้จริงหรือ แล้วยังขายร่างอีก? แม่นางเฉียนเฉี่ยนเพียงขายฝีมือเท่านั้นไม่ใช่หรือ?"

หยุนชางได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น "ข้าทำไม่ได้หรอก จึงกลัวว่าจะแพ้อย่างไรเล่า ข้าจึงต้องรีบตะบึงมาที่ชายแดนนี้อย่างสุดชีวิต นี่อย่างไร ไม่ใช่ว่าข้าชนะแล้วหรือ"

คนเหล่านั้นยิ่งหัวเราะอย่างมีขบขันขึ้นไปอีก "ท่านอ๋อง หากท่านชมชอบผู้หญิงคนนั้นจริง เพียงแค่โบกมือครั้งหนึ่ง ข้าน้อยย่อมต้องไปลักตัวนางมามัดไว้หน้าเตียงให้ท่านอ๋องอย่างยินดีแน่"

จิ้งอ๋องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้นและรู้สึกว่าบทสนทนาดูเหมือนจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ค่อนข้างทะลึ่งแล้ว เมื่อเห็นรอยยิ้มของหยุนชางแข็งทื่อเล็กน้อย เขาจึรีบออกคำสั่งไล่พวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะดังครึกครื้นดังขึ้นอีกครั้งแล้วต่างก็แยกย้ายกันไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง