เฉินผิงพาซูอวี่ฉีและคนอื่นๆกลับไปที่ เสิ่งเฉิงความคาดหวังที่เขาปรารถนาจะฝึกฝนให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นกำลังจะพัฒนาก้าวพ้นขั้นพื้นฐานแล้ว เขาจึงตื่นเต้นดีใจมากกับการพัฒนานี้
วันนี้เขาสามารถรับมือและเอาชนะเหล่าปรมาจารย์ได้ถึงสองสามคน ซึ่งเขาก็คงไม่อาจจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ หากว่าเขายังไม่อาจก้าวผ่านการพัฒนาพลังขึ้นมาได้อีกขั้น และคงต้องใช้เวลานานมากกว่าจะทุ่มเทเอาชนะเจี่ยงเจิ้งจงได้
เฉินผิงสามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
“คุณเฉินเราควรจะส่งใครเข้าไปจับตาดูการเตรียมการที่ตำหนักโอสถหรือไม่คะ ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะยอมส่งมอบสมุนไพรมาให้โดยไม่ขัดขืน!” ชื่อเฟิ่งมาพบเฉินผิงเมื่อรู้ว่าเขากลับมาถึงแล้ว
เธอถึงกับตกตะลึงไปเมื่อได้ยินหลินเทียนหู่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ตำบลเทียนเฟิงให้ฟัง ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนสามารถเห็นได้ว่าพลังปราณของเฉินผิงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วภายในวันเดียว!
“นั่นไม่จำเป็นหรอก เพราะหากพวกเขาปฏิเสธที่จะส่งมอบให้เรา ฉันก็ยังมีเหตุผลมากพอที่จะเข้ายึดครองตำหนักโอสถทั้งหมดได้!” เฉินผิงตอบพร้อมกับยิ้มกริ่ม
หากเขาต้องการที่จะบรรลุไปสู่ขั้นที่สูงขึ้นกว่านี้ เขาก็ต้องใช้ยาสมุนไพรเพื่อปรับพลังปราณ ซึ่งเทียบยาสมุนไพรจากตำหนักโอสถจะช่วยเขาได้เป็นอย่างมาก แต่ปริมาณที่ได้มานั้นค่อนข้างจำกัด นั่งจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามุ่งมั่นจะเข้าครอบครองตำหนักโอสถ เพื่อที่เขาจะได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าถึงสมุนไพรปรับพลังปราณเหล่านั้น
แต่สมุนไพรอายุนับร้อยปีเหล่านี้มีปริมาณจำกัด แล้วก็คงจะหมดสิ้นลงไดัในสักวัน ยิ่งเฉินผิงมีพลังเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ เขาก็ต้องยิ่งพึ่งพาพวกสมุนไพรเหล่านั้นมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องหาสิ่งอื่นมาไว้คอยทดแทนด้วย!
มันคงจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินทางไปที่เขาเหิงชาน เพื่อตามหาศิลาแห่งจิตวิญญาณ แล้วฉันก็จะสามารถฝึกพลังปราณของฉันได้ทันที โดยอาศัยศิลาเหล่านั้น!
เฉินผิงติดต่ออู่ตงและเล่าถึงแผนการที่จะเดินทางไปที่เขาเหิงชานให้เขาฟัง ฉันผิงรู้สึกโล่งใจขึ้นที่ซูอวี่ฉีมีจี้หยกที่สามารถปกป้องเธอได้ มันคงจะเป็นของวิเศษที่ทรงพลังมาก จึงสามารถปกป้องเธอไว้จากการจู่โจมของปรมาจารย์ถึงสองคน จนไม่สามารถแตะต้องเธอได้!
ตกกลางคืนในยามที่ทุกคนกำลังหลับไหล เมืองตำบลเทียนเฟิง ก็กลับกลายเป็นเมืองร้าง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นในงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้
ถึงกระนั้นก็ยังมีคนเห็นชายชราเคราขาว 4 คนที่สวมชุดคลุมสีดำกำลังเดินไปตามถนน พวกเขาสามารถก้าวผ่านถนนจากด้านหนึ่งไปจนสุดทางอีกด้านหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว แม้จะดูเหมือนว่าพวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้ามากก็ตาม คนกลุ่มนี้มิใช่ใครอื่นแต่พวกเขาก็คือผู้อาวุโสทั้งสี่ จากหุบเขาซีหนานส๋วนเยว่นั่นเอง!
จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังสนามประลองยุทธและเริ่มลงมือปฏิบัติหน้าที่ของตน ราวกับว่ากำลังสืบสวนบางอย่างอยู่ นอกจากการแกะรอยพวกรอยเท้าแล้ว พวกเขายังศึกษาหลุมรูปร่างเหมือนมนุษย์ที่เฉินผิงทำให้เกิดขึ้นตอนที่บุกเข้าไปในเวที
หนึ่งในผู้อาวุโสได้หยิบผ้าออกมาคลุมที่มือก่อนจ้าโกยเอาผงสีเงินขึ้นมาจากหลุม
ทันทีที่เขาโปรยผงนั้นขึ้นไปในอากาศ ก็ปรากฏร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวได้ขึ้นในท้องฟ้า ภาพนั้นสมจริงมาก ราวกับตัวละครที่ปรากฏอยู่ในหนังสามมิตินั่นเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...