โรคทางจิตเป็นกรรมพันธุ์จริงๆ
ชายคนนี้เหมือนแม่ของเขาไม่มีผิด นึกจะบ้าก็บ้าขึ้นมา!
ในขณะที่เซี่ยเชียนฮวันกำลังตื่นตระหนก ไม่รู้จะหนีออกจากสถานการณ์นี้เช่นไร จู่ๆ ก็มีเสียงกงกงดังมาจากด้านนอกห้องข้าง “มิทราบว่าด้านในคือจ้านอ๋องกับพระชายาหรือไม่? ขอเชิญทั้งสองพระองค์ไปยังห้องทรงพระอักษร”
“ฝ่าบาททรงเรียกตัวท่าน...” เซี่ยเชียนฮวันหอบหายใจ พลางออกแรงผลักไหล่ชายคนนั้น “เขาคงรู้ว่าท่านได้รับบาดเจ็บ”
ตอนที่นางประคองเซียวเย่หลันออกมา ก็มีขันทีหลายคนเห็น และวิ่งไปเรียกหมอหลวง
สุดท้ายเซียวเย่หลันก็ปล่อยนาง
เขาสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูโดยไม่พูดสักคำ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเชียนฮวันรีบจัดองค์ทรงเครื่อง และเดินตามหลังเซียวเย่หลันกับขันทีไป จนมาถึงห้องทรงพระอักษร
ฮ่องเต้กำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ
เมื่อได้ยินเสียงคารวะของเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวัน เขาก็กล่าวโดยไม่กระพริบตาว่า “ไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ของเจ้ามาหรือ?”
“พ่ะย่ะค่ะ” เซียวเย่หลันหรี่ตาเล็กน้อย
ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้น แต่ไม่ได้มองไปที่ทั้งสองคน และไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของลูกชาย แต่กลับใช้ปลายพู่กันชี้ไปยังขันทีผู้ดูแลที่อยู่ข้างๆ
“ข้าเคยบอกว่า ห้ามมิให้ของมีคมอยู่ข้างกายพระสนมหมิง พวกเจ้าเลินเลอเช่นนี้ได้เยี่ยงไร ถึงได้ปล่อยให้นางขโมยกรรไกรไปได้”
คำพูดสบายๆ ของเขา แต่กลับทำให้ผู้ดูแลรีบคุกเข่าโขกศีรษะราวกับเจอภัยพิบัติครั้งใหญ่
ฮ่องเต้กล่าวต่อว่า “ลากข้ารับใช้ทุกคนที่รับใช้นางไปโบยให้ตาย จะได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่น”
เซี่ยเชียนฮวันพลันตกใจ และนึกถึงขันทีผอมแห้งที่พานางเข้าวัง ในใจก็รู้สึกทนไม่ได้
ในขณะที่นางกำลังจะเปิดปาก เซียวเย่หลันกลับส่งสายตามา
ห้ามขอร้อง
เซี่ยเชียนฮวันเข้าใจความหมายของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...
Update new chapter please...
รอค่ะ มาต่อเร็วๆ กำลังสนุก...