หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี นิยาย บท 41

“ไม่มีอาการโดนพิษหรือ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เสี่ยวตงยังไม่เข้าใจ

เซี่ยเชียนฮวันบีบเปลือกถั่วลิสงแตกละเอียด และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “มีความเป็นไปได้เพียงแค่สองอย่างเท่านั้น อย่างแรก ซูอวี้เออร์ไปช่วยเซียวเย่หลัน แต่โชคดีที่ไม่โดนพิษฉิงฮวา จึงแกล้งทำเป็นอ่อนเพลียเพื่อหลอกให้เซียวเย่หลันเห็นอกเห็นใจ อย่างที่สอง ซูอวี้เออร์ไม่ได้ช่วยเซียวเย่หลัน คนที่โดนพิษฉิงฮวามักจะไร้สติ แม้จะมีคนช่วยเขาแก้พิษ แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร บวกกับแผนการในใจของซูอวี้เออร์ หากนางต้องการสวมรอยว่าเป็นผู้แก้พิษให้นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

ครานี้ เสี่ยวตงเข้าใจกระจ่างแล้ว

นางกล่าวด้วยความดีใจว่า “นั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลัง เท่ากับซูอวี้เออร์โกหกทั้งสิ้น! พระชายา เรารีบไปหาท่านอ๋อง และเปิดโปงนางเถอะเพคะ!”

เซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้าพลางกล่าว “ไม่มีประโยชน์หรอก ทุกคนล้วนแต่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเองทั้งนั้น เซียวเย่หลันเห็นข้าเป็นคนชั่วจิตใจโหดเหี้ยม เห็นซูอวี้เออร์โพธิสัตว์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ เว้นแต่ว่าเขาจะเจอหลักฐานที่แน่ชัดเท่านั้น มิเช่นนั้นเขาจะคิดว่าข้าทำไปเพราะความอิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสีซูอวี้เออร์”

“เฮ้อ ท่านอ๋องมีดีทุกประการ แต่ติดตรงที่ตาบอดนี่สิ!”

เสี่ยวตงกล่าวทอดถอนใจ

เซี่ยเชียนฮวันยิ้มอย่างไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น “ดังคำโบราณกล่าวเอาไว้ว่า เดินอยู่ริมน้ำทุกวัน ยากจะเว้นจากการเดินย่ำเท้าแฉะชื้น ซูอวี้เออร์แต่งเรื่องโกหกเช่นนั้น สักวันเรื่องก็ต้องแดงอยู่แล้ว”

ในขณะเดียวกันนี้เอง

เซียวเย่หลันก็มาถึงหน้าประตูนอกเรือนจิ่นซิ่วแล้ว

ครั้งนี้ แม้ว่าเขายังไม่เดินเข้าไปในห้อง แต่ก็ได้กลิ่นเหม็นอันชั่วร้ายนั่นแล้ว

หากเป็นเหมือนอย่างที่เซี่ยเชียนฮวันกล่าวว่าจะมีกลิ่นเหม็นอีกครึ่งเดือน เกรงว่าจวนจ้านอ๋องจะกลยเป็นสถานที่ที่ที่คนทั้งเมืองอยากเดินอ้อมไม่อยากผ่านเป็นแน่

“พาอวี้เออร์ไปพักรักษาตัวที่อื่น อีกหนึ่งเดือนค่อยรับกลับมา”

เซียวเย่หลันออกคำสั่งผู้ดูแลด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ซูอวี้เออร์ที่ได้รับคำสั่งนี้ ต่อให้นางไม่ยินยอมมากเพียงใดแต่ก็มิอาจทำอันใดได้นอกจากต้องทำตามรับสั่ง

....

หลายวันต่อมา

เซี่ยเชียนฮวันกำลังเพลิดเพลินอยู่กับความสงบโดยไม่มีเรื่องอันใดมาก่อกวนใจ ทันใดนั้นเสี่ยวตงวิ่งพรวดพราดเข้ามา และกล่าวเสียงดังว่า “พระชายาเพคะ พี่ชายของพระชายามาเยี่ยมพระชายาแล้วเพคะ!”

พี่ชายหรือ?

เซี่ยเชียนฮวันตกใจงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่ามีพี่ชายอยู่ที่จวนอันติ้งโหวอยู่คนหนึ่งนามว่าเซี่ยเหยียน

บิดาของนางนามว่าอันติ้งโหวมีชื่อเสียงเพราะความรักเดียวใจเดียว มีฮูหยินเพียงคนเดียวและมีบุตรด้วยกันสองคน เป็นบุตรีหนึ่งคน บุตรชายหนึ่งคน บิดาของนางไม่มีอนุไม่มีบ้านเล็ก แม้ว่าเขาจะเป็นคนราบเรียบ แต่ชื่อเสียงในราชสำนักของเขาไม่เลวเลย

ไม่นานนัก ชายรูปร่างสูง หน้าตาหล่อเหลาผู้หนึ่งเดินเข้ามา

“ฮวันฮวัน ได้เจอเจ้าสักที!”

เขามีดวงตาดอกท้อเหมือนกับเซี่ยเชียนฮวัน

ดวงตาที่ฉ่ำหวาน สดใสทันทีที่ยิ้ม

เซี่ยเชียนฮวันเห็นพี่ชายตนเองผู้เป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ผู้นี้ก็รู้สึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมทันที นางยิ้มร่าเดินไปต้อนรับ “ท่านพี่!”

เซี่ยเหยียนกลับทำท่าทางตกอกตกใจราวกับเห็นผี พลางแสดงสีหน้าท่าทางเกินจริง

“เจ้าสติเลอะเลือนไปแล้วหรือนี่ จู่ๆ ก็ยิ้มให้ข้า แถมยังเรียกข้าว่าท่านพี่อีก...เมื่อก่อนเจ้ายิ้มแค่กับจ้านอ๋องคนเดียวไม่ใช่หรือ”

เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกละอายใจขึ้นในใจอย่างแปลกประหลาด นางเม้มปาก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เมื่อก่อนเป็นข้าเองที่ไม่รู้ความ แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว รู้ว่าใครจริงใจต่อข้า”

เซี่ยเหยียนมองนางอย่างพิจารณา ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขึ้น น้ำเสียงก็พลันอ่อนโยนลง

“คนเราก็ต้องผ่านเรื่องราวในชีวิตมามากมายก่อนถึงจะเติบโตได้ ตอนนี้เจ้าเข้าใจโลกแล้ว ก็ถือว่ายังไม่สาย”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยเชียนฮวันก็อดที่จะซาบซึ้งใจไม่ได้

ความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในใจนางอย่างมิอาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

นางตั้งใจแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง นางจึงลากเซี่ยเหยียนเดินเข้าไปด้านใน พลางเดินพลางกล่าวถามว่า “ท่านพ่อกับท่านแม่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”

“ก็เหมือนเดิม มีความสุขทุกวัน แต่แค่ช่วงนี้เรื่องซุบซิบนินทาของเจ้าดันไปเข้าหูท่านทั้งสอง ท่านพ่อก็เลยโกรธ” เซี่ยเหยียนเล่า

“เรื่องซุบซิบนินทาข้าอย่างนั้นหรือ!”

เซี่ยเชียนเหยียนจับใจความสำคัญได้อย่างว่องไว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี