หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี นิยาย บท 59

“ฮวันฮวัน มีเพียงรอให้หลังจากที่เจ้าเดินเข้าไปอยู่ในใจของบุรุษแล้ว เจ้าถึงจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แท้จริงของเขา เหมือนเช่นกับถุงหอม ‘กลิ่นอาวุธสงคราม’ เจ้าต้องดมเป็นรอบที่สอง ถึงจะสัมผัสได้ถึงความหอมสดชื่นที่ซ่อนอยู่ในกลิ่นคาวเลือด”

ไทเฮายกพระหัตถ์ขึ้น แตะเบาๆ ไปที่จอนผมของเซี่ยเชียนฮวัน

เซี่ยเชียนฮวันเข้าใจความหมายของไทเฮาแล้ว

ครั้งนี้ที่เรียกนางไปที่วังหย่งโซ่ว ก็เพื่อจะเกลี้ยกล่อมให้คืนดีกัน

นางผงกศีรษะ “เซียวเย่หลันเป็นกรณีพิเศษ บนตัวเขาไม่มีความอบอุ่นอย่างแน่นอน เขาเป็นคนบ้ากระหายเลือดคนหนึ่งชัดๆ”

ใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายๆ มาพูด ก็คือลักษณะนิสัยบกพร่อง เกิดมาก็มีนิสัยต่อต้านสังคม

ใครได้อยู่กับเขาคนผู้นั้นก็เป็นคนซวยมาก

ไทเฮาหัวเราะ ตรัสว่า “เจ้ายังเด็กอยู่นัก ไม่รู้ว่าบุรุษยิ่งดูดุร้ายเพียงใด ยามที่เขาอ่อนโยนขึ้นมาราวกับจะคร่าชีวิตคนไปได้”

“ใช่เพคะ ไทเฮาตรัสได้ถูกต้องยิ่งนัก เขาแทบจะคร่าชีวิตไปจริงๆ คร่าชีวิตหม่อมฉันไป ความหมายแปลตรงตามตัวอักษรเลยเพคะ”

เซี่ยเชียนฮวันโกรธแล้ว

วันเวลาในจวนจ้านอ๋องช่วงที่ผ่านมา หากไม่ใช่เพราะนางดวงแข็ง กลัวว่านางอาจตายไปหลายหนแล้วก็ได้

“เจ้าเด็กคนนี้นี่” ไทเฮามองดูไปที่นางอย่างอดไม่ได้ “ในตอนแรก คนที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะแต่งงานกับจ้านอ๋องให้ได้ก็เป็นเจ้า วันนี้คนที่ร้องเรียกจะหย่าขาดกับเขาก็เป็นเจ้า เป็นข้าเองที่เอาใจเจ้าจนเสียผู้เสียคน”

“เสด็จยายเพคะ หนนี้ท่านช่วยหม่อมฉันอีกหนเถิดนะเพคะ หม่อมฉันกับเขาไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไปแล้ว”

เซี่ยเชียนฮวันตัดสินใจกอดแขนไทเฮาไว้ เริ่มตอแยไม่ยอมปล่อย

ไทเฮาถอนหายใจ “ส่วนใหญ่ในครึ่งชีวิตของพ่อเจ้า เขาใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดจนพ้นภัย หากเจ้าออกจากจวนจ้านอ๋อง กลัวก็แต่เพียงว่าชีวิตของเขาจะลำบากแล้ว”

เซี่ยเชียนฮวันเอียงหัวคิด พูดว่า “คงไม่หรอกเพคะ เซียวเย่หลันผู้นี้แม้จะไม่มีข้อดีสักนิด แต่เขาคงไม่ถึงขั้นไปแก้แค้นพ่อของหม่อมฉันเพียงเพราะหม่อมฉันทิ้งเขาหรอกเพคะ”

แม้ว่านางจะเกลียดชังเซียวเย่หลันมาก

แต่จากความเข้าใจที่นางมีต่อเซียวเย่หลันในช่วงที่ผ่านมานี้ ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่า ชายผู้นั้นเรื่องแค้นก็ส่วนเรื่องแค้น โดยรวมแล้วนับว่าเป็นคนจิตใจค่อนข้างกว้างขวาง หากมีความแค้นก็จะชำระแค้นในทันที ไม่มีทางหาเรื่องคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย

ไทเฮามองไปที่นาง กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ใช่ คนที่ข้ากังวลนั้นไม่ใช่จ้านอ๋อง แต่เป็นผู้อื่น”

“ผู้อื่นหรือเพคะ”

“เจ้าคงรู้นะ ในปีนั้นเซ่อเฟยกับเฉิงเฟยพระสนมที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากที่สุดในตอนนั้นได้ตั้งครรภ์ขึ้นพร้อมกัน ฮ่องเต้มีรับสั่งว่าหากผู้ใดให้กำเนิดลูกมังกร ก็จะยกตำแหน่งในวังหลังให้กับคนผู้นั้น ผลปรากฏว่าเซ่อเฟยให้กำเนิดบุตรชายก่อนครึ่งชั่วยาม นางจึงได้ขึ้นเป็นฮ่องเฮา และลูกชายของนางก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท ในหลายปีมานี้ เฉิงกุ้ยเฟยไม่เคยพอใจเลย”

ไทเฮาจิบน้ำชาไปคำหนึ่ง

เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว แสดงความเห็นใจต่อเฉิงกุ้ยเฟยอย่างลึกซึ้ง “ต่างกันเพียงครึ่งชั่วยาม หากเป็นหม่อมฉัน ก็คงตีอกชกตนไปด้วยกลิ้งกลั้วกับพื้นไปด้วย ล้มอยู่กับพื้นลุกไม่ขึ้นไปเลยสามวัน”

เซี่ยเชียนฮวันหยอกไทเฮาจนพระนางทรงหัวเราะ พลันรีบเก็บสีพระพักตร์ ปั้นหน้าจริงจังแล้วตรัสว่า “ทิศทางในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นในราชสำนักหรือวังหลัง ได้แบ่งออกเป็นสองขั้วขึ้นแล้วอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งสนับสนุนฮองเฮากับองค์รัชทายาท ส่วนอีกฝั่งนั้นยืนอยู่ข้างเดียวกับเฉิงกุ้ยเฟยกับองค์ชายรอง”

ในเหี้ยมของเฉิงกุ้ยเฟยกับองค์ชายรองนั้น แม้แต่พวกกบเขียดในสระน้ำของสวนรุกขชาติก็ยังรู้

เซี่ยเชียนฮวันคิดได้พลัน “หากยืนผิดฝั่งขึ้นมา ในอนาคตต้องซวยแน่ๆ”

และต่อให้ยืนถูกฝั่ง

วันข้างหน้าก็ไม่แน่ว่าจะจุดจบที่ดีได้

เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ สิ่งแรกที่ทำก็คือการกำจัดขุนนางภักดีที่รู้มากเกินไป เหตุการณ์ตัวอย่างที่คล้ายคลึงกันนี้มีให้เห็นมากในประวัติศาสตร์

ไทเฮาจับจ้องไปที่เซี่ยเชียนฮวัน ตรัสเสียงค่อย “เด็กน้อย ในบรรดาท่านองค์ทั้งหลาย ผู้คนล้วนรู้ดีว่ามีเพียงจ้านอ๋องเท่านั้นที่ไม่สนใจในการแก่งแย่งราชบัลลังก์ นิสัยเช่นนั้นของเขา ก็ไม่มีใครกล้ามาบังคับให้เขาเลือกฝั่งข้าง มีเพียงเจ้าผูกติดกับเขาไว้ จวนอันติ้งโหวจึงจะปลอดภัยได้”

“ครั้นเจ้าหย่าขาดกับจ้านอ๋อง เช่นนั้น ในค่ำคืนวันถัดมา จดหมายลับจากฮองเฮาและเฉิงกุ้ยเฟยก็จะถูกส่งไปที่บ้านเจ้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี