หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี นิยาย บท 60

หลังจากที่ออกจากวังหย่งโซ่วแล้ว

เซี่ยเชียนฮวันนั่งอยู่บนเกี้ยว ครุ่นคิดไปต่างๆ นาๆ

เจ้าของร่างเดิมดื้อด้านด่ากราดไปทั่ว ใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อจะได้เข้าใกล้เซียวเย่หลัน ถึงขั้นไม่สนใจว่าจะทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกอันดับหนึ่งของเมืองหลวง นี่เป็นเพียงเพราะนางหลงรักเซียวเย่หลันเท่านั้นหรือ

เมื่อคิดดูแล้ว คงไม่ใช่เพราะแค่เหตุนั้น

อันติ้งโหวเคยถูกเรียกตัวให้เข้าวังอย่างลับๆ อยู่หลายครา ทุกครั้งที่กลับจวนก็หน้ามุ่นคิ้วขมวด ดึกดื่นแค่ไหนก็นอนไม่หลับ และทุกอย่างนี้ล้วนอยู่ในสายตาของเจ้าของร่างเดิม

เซี่ยเชียนฮวันก้มหน้าหลับตา จับจ้องไปที่ฝ่ามือของตน พร่ำเบาๆ “เจ้าเป็นลูกสาวที่กตัญญูผู้หนึ่ง เสียดายก็แต่จวนของเจ้ามีภูมิหลังในเมืองหลวงไม่ลึกพอ เพิ่งแต่งเข้าจวนจ้านอ๋องก็ถูกปองร้ายเสียชีวิต ยังไม่ทันได้ปกป้องคนในบ้าน ก็ต้องเอาชีวิตตัวเองไปแลกก่อนเสียแล้ว”

ปีนั้นที่ถูกรับเลี้ยง อาจารย์ก็เคยตั้งชื่อให้นางว่าเชียนฮวัน บางทีนี่อาจเป็นวาสนาในความมืดที่กำหนดไว้ให้นางมาทำตามเป้าหมายของเจ้าของร่างเดิมที่ต้องการปกป้องจวนอันติ้งโหวให้อยู่รอดปลอดภัยก็ได้

เพียงแต่ หากเป็นเช่นนี้นางก็ต้องผูกติดกับเซียวเย่หลัน หากทิศทางของราชสำนักยังไม่ถูกกำหนดก็ไม่สามารถแยกออกจากกันได้

เมื่อนึกถึงสายตาอำมหิตที่เยียบเย็นของเซียวเย่หลัน เซี่ยเชียนฮวันไม่เพียงร้อยยิ้มหายไปจากหน้า

ถึงขั้นรู้สึกว่าสูญเสียความหวังในชีวิตไปแล้วเสียด้วยซ้ำ

......

เวลากลางคืน

เมื่อเซี่ยเชียนฮวันอาบน้ำเสร็จ กำลังเตรียมตัวเข้านอน ทันใดนั้นนางก็มองเห็นแสงวาบตรงมุมห้อง

มีคนมา!

“เสี่ยวตง?” เซี่ยเชียนฮวันรีบตะโกนร้องเสียงแหลม

ประหลาดยิ่งนัก ไม่มีผู้ใดตอบนางเลย

นางไม่คุ้นชินกับการมีคนคอยรรับใช้ยามอาบน้ำ ดังนั้นโดยปกติก็จะให้เสี่ยวตงเฝ้านางอยู่ด้านนอก ขอเพียงนางเรียก เสี่ยวตงก็จะรีบเข้ามา

เห็นได้ชัดว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว

เซี่ยเชียนฮวันสวมใส่เพียงชุดด้านในที่บางเบา นางเขยื้อนตัวไปด้านนอกอย่างระมัดระวังไม่ให้แสงแทนเหล่านั้นไปส่องสว่างที่มุมมืดนั่น

ในขณะที่นางกำลังจะวางมือบนประตูนั้น ทันใดนั้นก็มีเงาวาบมาจ้างด้านหลัง ยื่นมือกดประตูห้องไว้ ฉับพลันนั้นทำให้นางไร้ซึ่งหนทาง

“เจ้าเป็นใคร!”

เซี่ยเชียนฮวันเงยหน้าขึ้นอย่างกังวล มองไปทางชายปิดหน้าที่สูงกว่านั้นหนึ่งหัวคน

คนผู้นี้สวมใส่ชุดชาววิกาล ตรงสายคาดเองมีกระบี่คาด เห็นชัดว่าเป็นมือลอบสังหาร!

ชายปิดหน้าหัวเราะเสียงเบา ใช้แขนโอบตัวเซียเชียนฮวันให้อยู่ในรัศมีที่ตนควบคุมได้ “เจ้าดูข้าแล้วคิดว่าเหมือนคนที่อยากให้ผู้อื่นรู้ตัวตนงั้นรึ”

“......”

ที่เขาพูดช่างมีเหตุผลยิ่งนัก ทำให้เซี่ยเชียนฮวันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

“สาวรับใช้ด้านนอกมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่อาจสู้กับผู้ฝึกวรยุทธ์อย่างแท้จริงได้ หากเจ้าอยากปกป้องตัวเองให้ดี ทางที่ดีเจ้ายืมองครักษ์ลับกับท่านอ๋องของเจ้ามาสักคนเถอะ” ชายปิดหน้าพูดพลางหัวเราะ

“มียามเฝ้าเต็มจวนจ้านอ๋อง เจ้าเข้ามาได้อย่างไร”

เซี่ยเชียนฮวันถามขึ้นอีกครั้ง

ชายปิดหน้าขมวดคิ้ว “การจะเข้าจวนจ้านอ๋องไม่ยาก ยากก็แต่เข้าใกล้ตัวเซียวเย่หลันเท่านั้น”

ที่ตั้งของหอหลันเซียงค่อนข้างห่างไกล ไม่เหมือนกับว่าเป็นห้องตำรา หากเป็นโจรกระจอกที่มีวิชาตัวเบาดีหน่อย ที่จริงก็ไม่ต้องออกแรงมากนัก

ต่อให้เป็นเรือนพักของซูอวี้เออร์ รอบข้างก็มีองครักษ์คอยเฝ้าระวัง

มีเพียงที่ของเซี่ยเชียนฮวันเท่านั้นที่เงียบเชียบ

เมื่อนางตระหนักถึงปัญหานี้แล้ว เซี่ยเชียนฮวันทำได้เพียงหัวเราะอย่างขมขื่น “จริงด้วยสิ แต่ว่าแม้เจ้าจะมาถึงที่ของข้า ที่นี่ก็ไม่มีของมีค่าอะไรให้เจ้าเอาไปได้หรอกนะ”

ตำแหน่งพระชายาจ้านอ๋องของนางก็เป็นเพียงของประดับเท่านั้น

หลังจากที่มือสังหารลักลอบปีนป่ายเข้ามาแล้ว ไม่ว่าจะอยากได้ข่าวสาร หรืออยากลอบสังหารเซียวเย่หลัน ก็ถูกกำหนดให้ต้องกลับบ้านมือเปล่าเท่านั้น

คิ้วของชายปิดหน้าโก่งขึ้น นางใช้นิ้วหนึ่งเชยคางของเซี่ยเชียนฮวันขึ้น ทำเสียงจึ๊ๆ “ผู้ใดว่ามาที่นี่แล้วจะไม่ได้ของมีค่าเล่า เซียวเย่หลันถึงขึ้นหักหาญใจให้สาวงามเช่นเจ้าเฝ้าเรือนนี้อย่างเงียบเหงา ใจของเขาทำจากก้อนหินจริงๆ”

“เดี๋ยวนะ นี่เจ้าคงไม่ได้มาที่นี่เพราะข้าหรอกนะ?”

เซี่ยเชียนฮวันตื่นตัวทันควัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี