“ยินดีด้วย เจ้าตอบถูกแล้ว”
ชายสวมหน้ากากหรี่ตา หางตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกคุ้นเคย
นางเคยพบเขา
ไม่ผิดแน่ ในงานเลี้ยงจักรพรรดิวันนี้ มีบางคนมองนางด้วยสายตาเช่นนี้!
ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงทุกคนล้วนเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายองค์หญิง หรือแม้แต่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นชินอ๋องสูงสุด นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีสมาชิกในครอบครัว และองค์รักษ์ติดตามอย่างใกล้ชิด
มีคนจำนวนมากเกินไป
แต่ละโต๊ะจะมีระยะห่างที่แน่นอน ภายในวังยังมีข้ารับใช้คอยบรรเลงเพลงและร่ายรำอีก เซี่ยเชียนฮวันจําไม่ได้จริงๆ สายตาที่คุ้นเคยนี้มาจากใครกันแน่?
คงต้องลองเสี่ยงดวงดู นางตอบเสียงเย็นชา “สถานะของท่านไม่ได้ต่ำต้อยเลย บุกเข้ามาหาภรรยาของคนอื่นในจวนจ้านอ๋องตอนกลางดึกได้ โดยไม่เกรงจะโดนตัดหัวหลังถูกพบ!”
“โอ้? แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าสถานะของข้าไม่ได้ต่ำต้อย?” ชายสวมหน้ากากแสดงท่าทีสนใจ
“ท่านเห็นข้าดูเหมือนคนที่จะบอกท่านหรือ”
“ฮ่าฮ่า”
ชายสวมหน้ากากพบว่า เขาเริ่มสนใจเซี่ยเชียนฮวันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ แต่เซียวเย่หลันกลับเพิกเฉยนาง แล้วหันไปประคองรองเท้าพังๆ อย่างซูอวี้เออร์ไว้ในมือ ประหนึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่า ช่างมีตาไร้แววเสียจริง เสียของยิ่งนัก
เขาปล่อยคางของเซี่ยเชียนฮวัน แต่กลับขยับร่างกายเข้ามาใกล้ ปล่อยให้กลิ่นอายบุรุษเพศของตัวเองนั้นห้อมล้อมนาง
“ติดตามจ้านอ๋องไปก็ไร้อานาคต เขาเป็นเพียงเครื่องมือสังหารของฮ่องเต้ เจ้าอาจจะพิจารณาหาบ้านใหม่โดยเร็วที่สุด” เขากล่าวยิ้มๆ
“นี่จะเป็นประโยชน์สำหรับอันติ้งโหว”
หัวใจของเซี่ยเชียนฮวันพลันสั่นไหว
หรือชายผู้นี้จะรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงที่นางแต่งงานกับเซียวเย่หลัน
เขาเป็นใครกันแน่?
ตอนนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธสถานะอันสูงส่งของเขา กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขามิใช่องค์รักษ์ แต่เป็นพระบรมวงศานุวงศ์
นางเม้มริมฝีปาก “อย่างน้อยเครื่องมือสังหารก็มีประโยชน์ ดีกว่าของที่ไม่มีประโยชน์เลย”
“บางคนดูผิวเผินอาจไร้ประโยชน์ แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีความคิดและวิธีการมากมายเพียงใดซ่อนอยู่เบื้องหลัง แม้เจ้าจะฉลาด แต่กลับมองราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ออก มิฉะนั้นคงไม่เลือกแต่งงานกับเซียวเย่หลันหรอก”
ชายสวมหน้ากากดูเหมือนจะจงใจชี้นํา
เซี่ยเชียนฮวันมองเขาอย่างแน่วแน่ “ในความคิดเห็นของท่าน ข้าควรแต่งงานกับใคร?”
“แต่งให้ใครนั้นยากจะตัดสิน แต่ถ้าหากเจ้าติดตามข้า ข้าสัญญาว่าเจ้าจะไม่สูญเสีย”
เขาจับผมสีหมึกของเซี่ยเชียนฮวันขึ้นมา
การเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนทำตามอำเภอใจนั้น เต็มไปด้วยความคลุมเครือ
เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ นางกล่าวอย่างประหลาดใจว่า “พี่ใหญ่ ข้ามิรู้ด้วยซ้ำว่าท่านเป็นใคร แล้วเหตุใดต้องติดตามท่าน?”
เยี่ยมมาก คนโบราณว่าไว้ให้รักนวลสงวนตัว??
แต่ผู้ชายคนนี้ไม่มีความยับยั้งชั่งใจสักเท่าไร มันเกือบจะถึงจุดที่เรียกว่าไร้ยางอาย!
ชายสวมหน้ากากกล่าวหยอกเย้า “ตอนนี้เจ้าไม่จําเป็นต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร แค่ทำในสิ่งที่ข้าบอกให้เจ้าทำ แล้วข้าจะรับประกันความปลอดภัยของอันติ้งโหว ยังมี....”
เขาเอนตัวเข้ามาใกล้ จงใจลดเสียงลง และเปลี่ยนเป็นกระซิบพูด “ข้าสามารถทำให้เจ้ามีความสุขได้ มันเป็นความรู้สึกที่เซียวเย่หลันไม่เคยมอบให้เจ้า”
กลิ่นอ้ายเฉ่า
นี่เป็นความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของเซี่ยเชียนฮวัน
บนตัวเขา มีกลิ่นอ้ายเฉ่าจางๆ
“เจ้าไม่จําเป็นต้องรีบตอบทันที ข้าจะให้เจ้าพิจารณาสักสองสามวัน”
ชายสวมหน้ากากคล้ายสังเกตเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังดมกลิ่นบนตัวเขา จึงรีบดันนางออกไปอย่างรวดเร็ว
เขากล่าว “แล้วข้าจะมาพบเจ้าอีกครั้ง”
“ท่านไม่กลัวว่าข้าจะบอกเซียวเย่หลันหรือ ข้าอาจจะจงใจวางกับดัก และรอให้ท่านมาติดกับในครั้งหน้า?”
เซี่ยเชียนฮวันเห็นเขาจะจากไป ก็ไม่ได้หยุดเขา เพียงแต่จ้องมองไปยังเงาของเขาที่ดูมืดมัวในความมืด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
นางเอกก็ทนไม้ทนมือดีจริง เขาดูถูกเหยียดหยามสารพัด ลงไม้ลงมือเกือบตายก็หลายหน แต่ก็ไม่หย่า ทั้งที่จะว่าไปทางบ้านก็ไม่ได้ห้ามให้หย่านะ...
แสร้งตายไหม จะได้ไปจากกันสักที ให้สมคำโปรยหน่อย...
ก็ยังไม่หย่าที...
ขอให้หย่าให้สำเร็จทีเถอะ จะได้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ...
คือท่านอ๋องนี้นอนกับใครก็จำไม่ได้อีก น่าจะนอนกับพระชายานั่นแหละ แต่นางร้ายมาสวมรอยแทน อ๋องโง่ก็เชื่ออีกจ้า โอ้ยยยยยยยย พล็อตซ้ำอีกแล้ว...
อยากให้พระชายาหย่าเร็วๆ แนวผัวชั่ว เมียน้อยดอกบัวขาว รวมหัวกันทำร้ายเมียเอก เมียเอกได้แต่ยอมทนจนเกือบตาย สุดท้ายความจริงเปิดเผยตอนจบ กว่าจะมีความสุขก็เกือบตายตั้งหลายครั้งแบบนั้น ไม่อยากให้เป็นเลย...
เรื่องราวจะเฮฮาน่ารักไหมน๊อออ...