ดวงตาสีเข้มฉายแววยิ้มแย้มอีกครั้ง
“เจ้าเป็นคนฉลาด และคนฉลาดย่อมรู้วิธีที่จะทิ้งเส้นทางหลบหนีให้กับตัวเองมากขึ้น”
“อีกอย่าง อย่าเสียเวลาคาดเดาตัวตนของข้า เพราะข้ามิใช่คนโง่”
เซี่ยเชียนฮวันเม้มปากแน่น และไม่กล่าวสิ่งใดอีก
นางกำลังลังเล
นางควรใช้โอกาสนี้ ฝังเข็มตามจุดฝังเข็มบนร่างกายของเขาดีไหม
พอผ่านไปสักสองสามวัน หากพบว่าใครมีท่าเดินแปลกๆ บางทีนางอาจจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของชายผู้นี้
แต่การทำเช่นนี้มีความเสี่ยง
แม้การโจมตีอาจไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บใดใด และนางสามารถแสร้งทำเป็นว่าตัวเองตกใจจึงพลั้งมือโจมตีออกไป แต่ถ้าหากเขาเดาจุดประสงค์ได้ล่ะ เกรงว่าเขาคงฆ่าคนปิดปาก
ถึงแม้ชายคนนี้จะยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่ส่วนลึกในดวงตาของเขากลับเย็นชา
ถ้าต้องฆ่าปิดปากนาง เขาทำแน่
ในขณะที่เซี่ยเชียนฮวันลังเลอยู่นั้น จู่ๆ ชายสวมหน้ากากก็เข้ามาใกล้ เขาใช้มือซ้ายลูบผมของนางแล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “เจ้ากำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่หรือไม่?”
“....ไม่”
“อย่าโกหก ข้าได้กลิ่นคำโกหก”
ชายผู้นี้เป็นพวกชอบความตื่นเต้นอย่างแน่นอน
หลังสังเกตเห็นความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของเซี่ยเชียนฮวัน ดวงตาของเขาก็พลันเปลี่ยนไป ราวกับจะกลืนกินนางเข้าไปทั้งตัว
“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” เขาพึมพำ “ทำไมต้องรอสองสามวันด้วยเล่า? เป็นคืนนี้...”
เซี่ยเชียนฮวันพลันเดินถอยหลัง “ในมือข้ามีเข็มอยู่”
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”
“จุ๊ๆ....จุดตายทั้งหมดในร่างกายคนล้วนเป็นสิ่งที่ข้าคุ้นเคย หากท่านกล้าทำอะไรซี้ซั้ว ข้าจะฝังเข็มท่านเสีย”
“น้องสาว เจ้าคงไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาก่อนสินะ ต่อให้เจ้าฝังเข็มบนร่างข้า ข้าก็ไม่ตายหรอก”
ชายสวมหน้ากากหัวเราะออกมา
เขาเหมือนกำลังมองลูกแมวตัวน้อยที่ดุร้าย
ดุร้าย แต่ไม่ถึงตาย
ช่างจั๊กจี้ใจเขาเสียจริง
“หากท่านกลับมาอีกข้าจะตะโกนเรียกคน”
จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกเศร้า ในสถานการณ์ที่จนตรอก นางได้กล่าวประโยคคลาสสิกที่น่าจะถูกหักล้างออกไป
และเป็นไปตามคาด
ชายสวมหน้ากากตอบกลับมาว่า “ต่อให้เจ้าตะโกนเรียกจนคอแห้งก็ไม่มีใครมาช่วยเจ้า....”
จู่ๆ เขาก็หยุดพูดอย่างกะทันหัน
ขณะที่เซี่ยเชียนฮวันพลันเบิกตากว้างอย่างตกใจ นางได้ยินเสียงฝีเท้าดังอยู่ในลานบ้าน เดิมทีมันเบามาก แต่ผ่านไปสักพัก เสียงฝีเท้าก็หนักแน่นขึ้น ราวกับมีจิตสังหาร
ที่หยุดชะงักไปชั่วขณะนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าเห็นเสี่ยวตงสลบอยู่
คนที่สามารถฆ่าคนแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดใด ภายในจวนนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้น
เซียวเย่หลัน!
เขามาจริงๆ ด้วย?!
ชั่วขณะหนึ่ง เซี่ยเชียนฮวันไม่รู้จะดีใจหรือว่าหวาดกลัวดี
เพราะนางกำลังถูกสงสัยว่าอุ้มท้องลูกชู้อยู่
ถ้าหากเซียวเย่หลันเห็นนางอยู่ในห้องกับชายลึกลับคนหนึ่งตอนกลางดึก ตามความคิดของเขา เขาจะไม่คิดว่าชายคนนี้เป็นชายชู้ของนางหรือ?
แย่แน่!
เซียวเย่หลันมีอคติกับนางมาก หากเกิดความเข้าใจผิดขึ้น ต่อให้นางมีร้อยปากก็ไม่อาจอธิบายได้
“รีบไปเร็วเข้า”
เซี่ยเชียนฮวันรีบผลักชายสวมหน้ากากออกไป
เขาตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองนางอย่างขำๆ “เจ้าเริ่มเป็นห่วงข้าแล้วหรือ?”
“......”
ดีมาก
ปัญหาเก่ากับเซียวเย่หลันก็ยังไม่เคลียร์ ปัญหาใหม่ก็พุ่งเข้ามา
ร้อยละแปดสิบของราชวงศ์ต้าเซี่ยมียีนหลงตัวเองจริงๆ
ชายที่สวมหน้ากากเก็บรอยยิ้มของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “ไม่ทันแล้ว เจ้าคงต้องคับข้องใจสักหน่อยแล้ว”
“???”
เซี่ยเชียนฮวันอยากจะบอกว่า นางไม่อยากรับความคับข้องใจ
แต่ชายคนนั้นดึงนางเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว และแสดงท่าทีที่คลุมเครือ อย่างไรก็ตาม แสงอันเย็นเยือกจากกริชก็พาดกับคอนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
นางเอกก็ทนไม้ทนมือดีจริง เขาดูถูกเหยียดหยามสารพัด ลงไม้ลงมือเกือบตายก็หลายหน แต่ก็ไม่หย่า ทั้งที่จะว่าไปทางบ้านก็ไม่ได้ห้ามให้หย่านะ...
แสร้งตายไหม จะได้ไปจากกันสักที ให้สมคำโปรยหน่อย...
ก็ยังไม่หย่าที...
ขอให้หย่าให้สำเร็จทีเถอะ จะได้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ...
คือท่านอ๋องนี้นอนกับใครก็จำไม่ได้อีก น่าจะนอนกับพระชายานั่นแหละ แต่นางร้ายมาสวมรอยแทน อ๋องโง่ก็เชื่ออีกจ้า โอ้ยยยยยยยย พล็อตซ้ำอีกแล้ว...
อยากให้พระชายาหย่าเร็วๆ แนวผัวชั่ว เมียน้อยดอกบัวขาว รวมหัวกันทำร้ายเมียเอก เมียเอกได้แต่ยอมทนจนเกือบตาย สุดท้ายความจริงเปิดเผยตอนจบ กว่าจะมีความสุขก็เกือบตายตั้งหลายครั้งแบบนั้น ไม่อยากให้เป็นเลย...
เรื่องราวจะเฮฮาน่ารักไหมน๊อออ...