“ขอบใจเจ้านะ ตอนที่ข้ากำลังสลึมสะลืออยู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้พอดี ไม่มีประโยคดีๆ เลย ข้าก็เลยหลับไหลไปอีกครั้ง”
เซี่ยเชียนฮวันเอนหลังพิงเบาะนุ่ม พลางกล่าวอยางเกียจคร้าน
เซียวเย่หลันนิ่งเงียบไป
และทั้งสองก็เงียบไปตลอดทาง
จนกระทั่งรถม้าหยุดจอดลงตรงหน้าประตูจวนซวนซินอ๋อง
เมื่อเซียวเย่หลันเดินลงมาจากรถม้า ซูอวี้เออร์ลงมาก่อนแล้ว และนางวิ่งไปตรงหน้าเขา มองเขาดด้วยสายตารักใคร่
“เข้าไปเถอะ”
กลิ่นอายของเซียวเย่หลันลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ซูอวี้เออร์เหลือบมองเซี่ยเชียนฮวันที่กำลังเดินลงจากรถม้าอย่างช้าๆ ในใจแอบสบถต่อว่า “นังสารเลวนี้ต้องทำให้ท่านอ๋องไม่พอใจอีกเป็นแน่! ดูท่าท่านอ๋องจะยังเกลียดชังนางอยู่”
ตลอดทาง ซูอวี้เออร์รู้สึกกลัดกลุ้มใจมาตลอดเพียงเพราะว่าเซียวเย่หลันเลือกที่จะนั่งรถม้ามากับเซี่ยเชียนฮวัน
ตอนนี้นางกลับวางใจแล้ว นั่งรถม้ามาด้วยกัน บางทีก็ใช่ว่าจะสานสัมพันธ์ดีเสมอไป ยิ่งเกิดเรื่องขัดใจกันมากกว่าด้วยซ้ำ
“เย่หลัน มาแล้วหรือ!”
ซวนซินอ๋องออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เซียวเย่หลัน “เสด็จลุง”
ซูอวี้เออร์เองก็กล่าวทักทายอย่างอ่อนหวานเช่นกัน
ทว่า เมื่อซวนซินอ๋องเห็นซูอวี้เออร์ยืนข้างกายเซียวเย่หลัน เขาก็ทำเหมือนมองไม่เห็นนาง เขาเพียงกล่าวถามว่า “พระชายาของเจ้าล่ะ?”
“อยู่ด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเย่ไม่ได้หันไปมอง
เขารู้ว่าตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันไม่อยากเห็นหน้าเขา
ซวนซินอ๋องกล่าวด้วยความโกรธว่า “ลืมกฏอีกแล้วหรือ! เจ้าควรเดินเคียงคู่เข้ามากับพระชายาเจ้า แต่นี่เจ้าเดินมากับหญิงต่ำศักดิ์เช่นนี้ ไม่เหมาะสมเอาซะเลย”
สีหน้าของซูอวี้เออร์อับอายมาก ทำได้เพียงถอยหลังไปอย่างเงียบๆ
และเมื่อเซี่ยเชียนฮวันเดินเข้ามากล่าวทักทาย ซวนซินอ๋องจึงยิ้มต้อนรับและเชิญเข้าไปในจวน
ฤดูใบไม้ร่วงมาถึงแล้ว ต้นไห่ถางกำลังเบ่งบานพอดี
ในจวนมีผู้คนยืนชมอยู่มากมายแล้ว
เซี่ยเชียนฮวันสังเกตมองพวกเขาอย่างละเอียดยิบอย่างไม่เล็ดลอดสายตาเลย นางรู้ว่าชายผิดหน้าผู้นั้นต้องอยู่ในที่แห่งนี้แน่นอน
ในคืนนั้นนางโจมตีชายปิดหน้าอย่างรุนแรง อีกทั้งยังใช้หัวเข่าโจมตีอย่างหนักหน่วง แถมยังใช้ไก่ปิ้งร้อนลวกเขา กว่าจะฟื้นตัวก็คงใช้เวลานานอยู่
อย่างไรเสียอุบายของชายผู้นั้นก็อ่อนมาก
ทว่า เซี่ยเชียนฮวันจ้องมองอยู่หลายรอบ ก็ไม่พบชายใดที่มีท่าทางแปลกประหลาดเลย
นางจึงทำได้เพียงแค่ถามซวนซินอ๋อง “ท่านอ๋องเพคะ วันนี้มีใครบ้างที่ได้รับเทียบเชิญมาร่วมงานชมดอกไม้?”
“อืม กงซินอ๋องกับจี๋อ๋องบอกว่าไม่ค่อยสบาย เลยมาร่วมด้วยไม่ได้ องค์ชายเก้ายังทำการบ้านไม่เสร็จ ส่วนคนอื่นก็มาครบแล้ว อ้อ อีกอย่าง เจ้าอภิเษกมานานแล้ว ก็ควรเปลี่ยนคำเรียกขานได้แล้วนะ เรียกท่านลุงเหมือนเย่หลันสิถึงจะถูก”
ซวนซินอ๋องโบกมือพลางกล่าว
เซี่ยบเชียนฮวันยิ้มพลางกล่าวว่า “หม่อมฉันจะฝึกให้ชินปากเพคะ”
ในใจนางกลับไม่ได้คิดว่าตนเองกับเซียวเย่หลันเป็นสามีภรรยากันสักหน่อย
จะให้นางเรียกขานเหมือนเซียวเย่หลัน ไม่มีทางหรอก
ทว่า ซวนซินอ๋องเอ่ยถึงท่่านอ๋องสองพระองค์ขึ้น ทั้งคู่อายุมากแล้ว ส่วนองค์ชายเก้าเพิ่งจะสิบห้าสิบหกปีเอง แต่ชายผิดหน้าผู้นั้นเป็นคนวัยกลางคน
สามคนนี้ตัดทิ้งไปได้เลย
“ท่านพี่ เราไปนั่งตรงนู้นกันเถอะ ดีหรือไม่” ซูอวี้เออร์เอามือคล้องแขนเซี่ยเชียนฮวันส่งสายตาไปที่กลุ่มหญิงสาวอยู่กันเยอะๆ
อยู่ต่อหน้าคนนอก นางมีไหวพริบและทำตัวดีมาก และแสดงท่าทางเคารพเซี่ยเชียนฮวันผู้เป็นพระชายาเป็นอย่างยิ่ง
เซี่ยเชียนฮวันสะบัดมือนางออก “อยากไปก็ไปเองสิ”
ไปอยู่ในกลุ่มหญิงสาวเหล่านั้น นางจะหาตัวนักฆ่าเจอได้อย่างไรกัน
ซูอวี้เออร์แสดงความอ่อนโยนของตนเองออกมา และกล่าวโน้มน้าวว่า “เราเป็นสตรี ไม่ควรอยู่รบกวนท่านอ๋องกับเสด็จลุงนะเพคะ”
“พวกเขาก็พูดเรื่องของพวกเขาไปสิ…”
ทันใดนั้น เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกหนาวสั่นมาจากด้านหลัง!
เป็นภาพที่คุ้นเคยนั้นอีกแล้ว!
ไม่ผิดแน่ เป็นชายปิดหน้าผู้นั้น เขาอยู่แถวนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
นางเอกก็ทนไม้ทนมือดีจริง เขาดูถูกเหยียดหยามสารพัด ลงไม้ลงมือเกือบตายก็หลายหน แต่ก็ไม่หย่า ทั้งที่จะว่าไปทางบ้านก็ไม่ได้ห้ามให้หย่านะ...
แสร้งตายไหม จะได้ไปจากกันสักที ให้สมคำโปรยหน่อย...
ก็ยังไม่หย่าที...
ขอให้หย่าให้สำเร็จทีเถอะ จะได้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ...
คือท่านอ๋องนี้นอนกับใครก็จำไม่ได้อีก น่าจะนอนกับพระชายานั่นแหละ แต่นางร้ายมาสวมรอยแทน อ๋องโง่ก็เชื่ออีกจ้า โอ้ยยยยยยยย พล็อตซ้ำอีกแล้ว...
อยากให้พระชายาหย่าเร็วๆ แนวผัวชั่ว เมียน้อยดอกบัวขาว รวมหัวกันทำร้ายเมียเอก เมียเอกได้แต่ยอมทนจนเกือบตาย สุดท้ายความจริงเปิดเผยตอนจบ กว่าจะมีความสุขก็เกือบตายตั้งหลายครั้งแบบนั้น ไม่อยากให้เป็นเลย...
เรื่องราวจะเฮฮาน่ารักไหมน๊อออ...