หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 133

คนอย่างธันวานี้ตกลงคิดยังไงกันแน่? ในฐานะที่เป็นดาวรุ่งที่กำลังมาแรง จะมาพูดจาพล่อย ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน?

ชัชนันท์โทรไปหาเบอร์ของธันวาโดยตรง “คุณชาย ก่อนที่จะพูดแบบนี้ คุณช่วยคิดดูให้ดี ๆ หน่อยได้ไหม?”

ทางนั้นมีเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังลอยมาระลอกหนึ่ง “ผมได้ลองคิดดูดี ๆ แล้วนะ ยังไง คุณคิดว่าผมพูดได้ไม่ดีตรงไหนเหรอ?”

อีกด้านหนึ่ง ธันวากำลังแต่งหน้าอยู่ในห้องแต่งตัวของสตูดิโอถ่ายนิตยสาร ข้างกายนอกจากมีช่างผมแล้ว ก็มีผู้ช่วยของช่างผม และก็ยังมีพนักงานสาวของนิตยสารห้อมล้อมอยู่อีกมากมาย

บนตัวเขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวไว้ ด้านนอกใส่คู่กับเสื้อคลุมลายสก็อตสีดำตัวใหญ่

พวกเธอทุกคนต่างก็กำลังเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเขาไม่หยุด ทุกคนต่างก็กำลังถ่ายรูปเขา แล้วตกตะลึงกับความหล่อของเขาไปด้วย

ใจของเด็กสาวที่อยู่ในนี้แทบจะใจละลายแล้ว

แต่ธันวากลับไม่มองพวกเขาสักนิด เพียงแต่แค่ยิ้มแฉ่งให้กับกระจกไปเท่านั้น ตัวเองที่ถือโทรศัพท์อยู่ รอคอยให้เธอเปิดปากพูดขึ้นมา

ชัชนันท์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายทีหนึ่ง แล้วนวดหัวคิ้วไปเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “คุณมีแฟนคลับผู้หญิงมากแค่ไหน ในใจคุณรู้เหรอ? ยังมาพูดอะไรว่าจะหว่านเสน่ห์ใส่ฉันอีก แฟนคลับของคุณจะไม่หึงเหรอ? แล้วถ้าเกิดเข้าใจผิดว่าพวกเรามีอะไรกัน แล้วแฟนคลับหายขึ้นมาจะทำยังไง?”

“ผมไม่แคร์หรอก” ธันวาที่อยู่ทางโน้นพูดขึ้นมา

ชัชนันท์รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเยอะกว่าเดิม “คุณไม่แคร์ แต่ฉันแคร์นะโอเคไหม? ดาราที่กำลังขาขึ้น กรุณารักษาโอกาสของคุณไว้ให้ดี ๆ โอเคไหม?”

“คือว่า ผมก็ค่อนข้างรักษาโอกาสของผมนะ”

“คุณรักษาโอกาสคุณตรงไหนกัน?”

“อืม”

“ถ้าจะรักษาจริง ๆ ก็รีบไปอธิบายในทวิตเตอร์สักหน่อย ว่าคุณแค่ล้อเล่นเท่านั้น” ชัชนันท์พูดขึ้นมา

“ผมไม่ชอบโกหก” ธันวาลุกขึ้นมาจากภายใต้สายตาของคนอื่น ๆ แล้วเดินไปที่มุมที่ไร้ผู้คน พิงอยู่กับกำแพงอย่างเกียจคร้าน ที่มุมปากและดวงตาล้วนมีรอยยิ้มอยู่

ในตอนที่เขายิ้มขึ้นมานั้น ในดวงตาราวกับมีดวงดาวอยู่ ไฟในสตูดิโอสว่างไสวซะขนาดนั้น แต่กลับสู้ดวงตาทั้งคู่ของเขาไม่ได้สักนิด

พอชัชนันท์ได้ยิน ก็นิ่งอึ้งไปเลยครู่หนึ่ง ในดวงตามีแววเหลือเชื่อพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง “คุณหมายความว่ายังไงคะ?”

ทำไมคำพูดนี้ เธอฟังดูแล้วมันฟังดูคลุมเครือนะ?

เขาบอกว่าตัวเองไม่ได้พูดโกหก มันแปลว่าอะไรเหรอ? หรือว่าเขาจะหว่านเสน่ห์ใส่เธอจริง ๆ เหรอ?

งั้นเปลี่ยนเป็นพูดอีกอย่าง งั้นก็หมายความว่า เขาชอบเธอแล้วงั้นเหรอ?

“ยัยโง่” เขาหัวเราะเบา ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ในน้ำเสียงแฝงความรักใคร่ไว้เล็กน้อย “คุณคิดว่าหมายความว่ายังไง ก็หมายความอย่างงั้นแหละ”

ด้านหลังมีคนเดินผ่านไปมา แต่ว่าความสนใจทั้งหมดของเขากลับอยู่ที่โทรศัพท์สายนี้ทั้งนั้น

มีคนคอยจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาเหม่อลอยอยู่ตลอด แต่เขากลับไม่ได้สนใจหันไปมองสักนิด

ชัชนันท์นิ่งอึ้งไปทันที หัวใจจู่ ๆ ก็กระตุกขึ้นมา ในสมองขาวโพลนมึนงงไปหมด

ทุกอย่างนี้ เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย

เพราะว่าเมื่อก่อน เขาไม่เคยแสดงท่าทางว่าชอบเธอมาก่อน เธอก็เลยคิดไม่ถึงเลย ว่าเขาจะมาชอบเธอได้

“พี่ธัน…… ต้องไปถ่ายแล้ว……”

อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์ มีเสียงที่ผู้หญิงอ่อนโยนเสียงหนึ่งดังลอยมา

ต่อจากนั้น ธันวาที่อยู่ทางโน้นก็พูดขึ้นมาอย่างรีบร้อน “เอาล่ะ เดี๋ยวคืนนี้ผมค่อยไปหาคุณ พอถึงตอนนั้นเราค่อยมาคุยกันดี ๆ ตอนนี้ผมต้องไปทำงานแล้ว ไปหาเงินให้คุณ……”

พอพูดจบ สายทางฝั่งเขาก็วางไปเลย

ประโยคสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่เป็นคำพูดปกติมาก ที่เขาทำงานก็เพื่อXเอนเตอร์เทนเมนท์จริง ๆ หาเงินมาให้เธอมากมาย แต่ทำไมเธอฟังแล้วถึงรู้สึกว่าดูคลุมเครืออยู่บ้างนะ

ราวกับสามีคนหนึ่ง พูดกับภรรยา “ผมไปหาเงินมาให้คุณใช้”

เอาโทรศัพท์วางลงบนโต๊ะ ในสมองของเธอยังคงวุ่นวายมาก

สำหรับธันวานั้น เธอไม่เคยคิดไปทางด้านนั้นมาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาหล่อเหลาและโดดเด่นมาก ถึงแม้ว่าคนที่เคยเห็นเขามาแล้ว ไม่มีใครที่ไม่อยากได้เขา แต่ว่าตัวเธอก็เป็นข้อยกเว้นข้อหนึ่ง

เธอคิดว่าเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งมาตลอด เป็นแค่ดาราที่สามารถนำพาผลกำไรระดับสูงมาให้บริษัทของเธอ เพียงเท่านั้นจริง ๆ

แต่ตอนนี้อยู่ ๆ เขาก็มาสารภาพรัก เธอควรจะรับมือยังไงดี ควรจะปฏิเสธยังไงดี?

จะทำยังไงถึงจะปฏิเสธเขาได้อย่างนุ่มนวล และในขณะเดียวกันก็จะไม่ทำร้ายและผิดใจต่อเขาด้วย?

เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว แล้วเธอก็เลยเปิดทวิตเตอร์ขึ้นมาอีกครั้ง

สายตาไปตกอยู่ที่ข้อความ9999+นั่นเป็นอันดับแรก

เธอลองกดเปิดข้อความออกดูเล็กน้อย

ด้านในมีข้อความนับไม่ถ้วน แท็กนับไม่ถ้วน คอมเมนต์นับไม่ถ้วน

เธอไม่ได้อ่านคอมเมนต์อย่างละเอียด แต่กดข้อความส่วนตัวออกมาดูสักหน่อย

ในข้อความส่วนตัว ส่วนใหญ่ส่งมาจากพวกที่ชื่อพ่วงด้วยชื่อของธันวาหรือรูปโปรไฟล์ของเขาทั้งนั้น

“พี่ชัชนันท์ขอโทษนะคะ ฉันใส่ร้ายไปตามกระแส ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ มารีญานี่ทำเกินไปจริง ๆ เดี๋ยวฉันจะช่วยไปด่ามารีญาให้พี่แน่นอน”

“ฮือ ฮือ ฮือ ไอดอลของเราไม่เคยพูดกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน คุณเป็นคนแรกเลย เขาบอกว่าอยากหว่านเสน่ห์ให้คุณ คิดว่าน่าจะเป็นความจริงนะ พี่สาวฉันอิจฉาและริษยาคุณจริง ๆ นอกเหนือจากนี้ ฉันจะไปช่วยคุณด่ามารีญาให้ตายแน่”

“พี่สาว คุณจะตอบตกลงไอดอลของเราไหมคะ? ถึงแม้ว่าจะทำใจแบ่งคนที่ดีขนาดนั้นให้คนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเกิดว่าพวกคุณสองคนใจตรงกัน ฉันก็สามารถยิ้มแล้วอวยพรให้ได้ ยังมีอีกประโยคหนึ่ง ถึงฉันจะไม่อยากบอกมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังต้องบอกว่า คือฉันอิจฉาคุณมาก”

ในข้อความส่วนตัวของเธอ คนที่มีเหตุผลมีค่อนข้างเยอะกว่า ถึงแม้ว่าแฟนคลับของธันวาจะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ก็มองออกได้ว่า แต่ละคนไม่ได้อยากเลิกเป็นแฟนคลับสักเท่าไหร่

และอีกอย่างพวกเธอก็ไม่ได้เหมือนกับแฟนคลับของดาราชายคนอื่นด้วย แถมยังสามารถยินดีทั้งน้ำตา กับความรักของไอดอลตัวเองได้ด้วย

น่าจะเป็นเพราะว่าธันวาผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดีงามมากจริง ๆ ละมั้ง ในเมื่อมีตัวตนอยู่ราวกับเป็นคนที่หล่อที่สุดในวงการเลย ใบหน้านั้น จะให้แฟนคลับเลิกเป็นแฟนคลับไปง่าย ๆ ก็คงจะไม่น่าจะเป็นจริงได้

อ่านข้อความส่วนตัวไปง่าย ๆ ครู่หนึ่ง เธอก็ถอยออกมาเลย จากนั้นก็เอาสายตาไปอยู่ที่ชาร์ตเทรนฮิต

เทรนอันดับหนึ่ง #มารีญาใส่ร้ายชัชนันท์#

เทรนอันดับสอง #ธันวาชอบชัชนันท์เหรอ#

เทรนอันดับสาม #มารีญาเจอทัวร์ลง#

เทรนอันดับสี่ #ธันวา#

สี่อันดับแรก หลังทุกอันดับล้วนติดตามไปด้วยคำว่า“ฮิต”

สายตาเธอมองไปแวบแรกก็ถูกแฮชแท็กที่อยู่อันดับสาม‘มารีญาเจอทัวร์ลง’ดึงดูดไปเลย

จากนั้นก็กดเข้าไปดูเลย

ในแฮชแท็กมีแอคเคาท์ใหญ่ ๆ มาเปิดเผยเรื่อง เกี่ยวกับเรื่องที่มารีญาตั้งใจเสียเงินจ้างคนมาใส่ร้ายเธอไม่หยุด แถมยังประณามการกระทำของมารีญาอีกด้วย

ส่วนพวกชาวเน็ต ทุกคนต่างก็มีความโกรธแค้นเหมือนกัน และก็ด่าทอคนไปอย่างบ้าคลั่งอยู่ตลอด

คำพูด จะให้โหดร้ายมากแค่ไหนก็โหดร้ายมากแค่นั้น

พวกคำพูดที่มารีญาเอามาใส่ตัวเธอในทีแรก วินาทีนี้ ได้ย้อนกลับไปที่ตัวมารีญาหมดแล้ว

คำวิพากษ์วิจารณ์พวกนั้น ชัชนันท์ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

พอดูจนพอใจแล้ว เธอก็กดเข้าไปในแอคเคาท์ใหญ่ของมารีญา แล้วไปดูสักหน่อย

ใต้โพสต์ทวิตเตอร์สามโพสต์แรกของเธอ ล้วนเต็มไปด้วยคำพูดด่าคน เมื่อเทียบกับในหัวข้อแฮชแท็กแล้ว มีมากกว่าเป็นอย่างมาก……

“มารีญาเธอมันยัยชาเขียว ฉันขอสาปแช่งเธอออกจากบ้านไปก็ขอให้รถชนตายเลย แล้วเธอก็ไม่ต้องออกมาขอโทษหรอก ตอนนี้ฉันแค่อยากให้เธอตายเท่านั้น”

“เพื่อที่จะใส่ร้ายชัชนันท์ ถึงกับกล้ามาหลอกใช้ธนูอย่างพวกเรา แถมยังลากไอดอลของเรามาเกี่ยวข้องด้วย หีแม่มึงนะซิตอนนี้กูอยากเป็นเกล็ดหิมะ ที่กล้าล่องลอยไปทั่วทุกที่เลย!”

“มีคนมากมายที่เป็นมะเร็งตาย ทำไมแกไม่เป็นบ้างนะ? หวังว่าเชื้อโรคจะชนะแกได้เร็ว ๆ หน่อยนะ เธอไม่ต้องชื่อว่ามารีญาแล้ว ชื่อว่า‘มาใส่ร้าย’ดีกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว