ภายหลังกลับจากร้านอาหาร ธันวาขับรถไปส่งชัชนันท์กลับบ้าน
ระหว่างทาง เขานิ่งเงียบมาโดยตลอด พร้อมหน้านิ่วคิ้วขมวด
ภายในรถนั้นอึมครึมเป็นอย่างมาก ชัชนันท์ไม่ได้สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขา
เมื่อขับถึงหน้ารัตนากรกุลกรุ๊ป รถก็ได้หยุดนิ่ง
ระหว่างมื้ออาหาร เธอดื่มไวน์แดงเล็กน้อย ในตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ได้เยอะมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกมึนหัวขึ้นมาเล็กน้อย
ธันวาส่งเธอจนถึงหน้าบ้าน
รถหยุดนิ่งอยู่ที่ทางเข้าบ้านหลัก ชัชนันท์หันไปมองธันวา “ขอบคุณที่มาส่งนะ กลับดี ๆ ด้วย ฝันดีนะ”
เมื่อจบบทสนทนา เธอก็ปิดประตูรถลง พร้อมเดินเข้าไปภายในบ้าน
“เดี๋ยวก่อน...” ธันวาก้าวลงจากรถเช่นกัน
ลมเหนือที่หนาวเย็นพัดมาปะทะหน้า จนร่างทั้งสองขยับเขยื้อนเล็กน้อย
“ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม หากเธอต้องการความช่วยเหลือมาหาผมได้เสมอ ไม่ต้องเป็นคนรักกันก็ได้ ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีกันได้” ใบหน้าของธันวานั้นซื่อตรง พร้อมขอบตาที่ยิ้มแย้ม
รอยยิ้มนี้ช่างบริสุทธิ์จนทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
“เอาล่ะ งั้นผมขึ้นรถแล้วนะ” เมื่อพูดจบ ธันวาก็หันไปโบกมือให้กับธันวา พร้อมก้าวขึ้นไปยังรถของตัวเอง
ธันวายืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบ ๆ พร้อมน้ำตาที่ไหลหยดลงมาอย่างไม่มีเสียง
แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็น
แทนไทที่อยู่บนระเบียงสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวในสนามได้อย่างชัดเจน
เขาสูดบุหรี่เข้าไปฟอดใหญ่ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ยากที่จะคาดเดาอารมณ์จากสายตาของเขา
…………
เมื่อชัชนันท์กลับถึงบ้าน ก็ได้รับข้อความของนลิน
มารีญาถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ตอนที่เห็นข้อความนี้ มุมปากของชัชนันท์ก็ได้ปรากฏรอยยิ้มออกมา
หลังจากที่ลงรถ เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปดวงดาวก็ระยิบระยับเต็มท้องฟ้า
ไฟภายในบ้านเปิดอยู่ตลอดเวลา ในค่ำคืนแห่งฤดูหนาวที่แสนเยือกเย็นนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะปลอบประโลมวิญญาณ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เธอชินกับฉากที่เธอเปิดไฟทุกวันในบ้านหลังนี้
ชิ้นส่วนเกล็ดหิมะที่อ่อนนุ่มราวกับขนห่านตกลงมาจากฟ้า ร่วงสู่ใบหน้าและเส้นผมของเธอ
ร่างกายเย็นเฉียบ แต่ภายในใจนั้นกลับอบอุ่น
เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน ใบหน้าของเธอก็มีกระแสลมอุ่นมากระทบ เธอเปลี่ยนรองเท้าแตะแล้วเดินไปยังห้องรับแขก
ไม่มีใครเลยสักคน ภายในบ้านเงียบอย่างน่าประหลาด
เธอถอดเสื้อคลุมสีขาวที่อยู่บนร่างกายออก พร้อมเดินไปยังชั้นบน
ตอนที่เดินไปถึงหน้าห้องนอนของตัวเอง ประตูห้องด้านข้างก็เปิดออกอย่างทันที
ชายคนนั้นเดินออกมาพร้อมแก้วเปล่าภายในมือ
ชุดนอนผ้าไหมสีดำถูกใส่อยู่บนตัวเขาอย่างหลวม ๆ กล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแรงเรียบเนียน ทำให้ได้กลิ่นอายของความขี้เกียจออกมา
ผิวหนังที่ขาวดุจหิมะ เมื่อตัดกับพื้นหลังที่เป็นชุดนอนสีดำ ทำให้ดูขาวขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อตามองไป ให้ความรู้สึกถึงความเย็นชาอย่างมาก
บนเรือนร่างของเขามองไม่เห็นกลิ่นอายของความป่าเถื่อนเลยสักนิด มีแต่กลิ่นอายของนักธุรกิจชั้นสูง
“กลับมาแล้วเหรอ” เขากล่าวอย่างแผ่วเบา สีหน้าดูเย็นชาอยู่เสมอ
เมื่อพูดจบเขาก็เดินไปอยู่เบื้องหน้าเธอ
“อืม” ชัชนันท์ตอบกลับอย่างนุ่มนวล น้ำเสียงของเธอยังคงอ่อนหวานเช่นเคย
ภายในน้ำเสียงของเธอปราศจากแอลกอฮอล์ แต่กลับกลายเป็นคนเมาอย่างคาดไม่ถึง
ฤทธิ์ของเหล้าเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ เท้าข้างหนึ่งเริ่มทรงตัวไม่อยู่ จนทำให้เธอเอนตัวไปพิงบนร่างกายของเขา
อุณหภูมิร่างกายของฝ่ายชาย แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเธอผ่านเสื้อผ้า
ร่างกายของเธอสั่นระทวยในทันที พร้อมหัวใจที่เต้นรัว
“อิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอกเหรอ” เขาเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา พร้อมมุมปากโค้งมนที่ยกขึ้นด้วยความขี้เล่น และดวงตาที่ดูลึกล้ำ
ลมหายใจอันร้อนผ่าวไหลเคลื่อนลงมาจากส่วนบนของศีรษะเธอ ส่วนหนึ่งของมันเคลื่อนตกลงบนติ่งหู แล้วกระดึ๋ยเคลื่อนผ่านร่างกายไป
ดูเหมือนว่ามดจำนวนนับไม่ถ้วนได้คลานเข้าไปอยู่ภายในหัวใจ และคนที่คันนั้นยากที่จะหายใจได้
“ฉันขอโทษ วันนี้ดื่มเหล้าเมาหนักไปหน่อย ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังไม่สร่างดี” ชัชนันท์ยืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และเตรียมออกห่างเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...