ลักษณะของพวกเขาดูเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ความรู้สึกนั้นไม่เหมือนกัน
คนหนึ่งหล่อพร้อมด้วยความรู้สึกข่มเหงอันแรงกล้า อีกคนหล่ออย่างไม่มีความแข็งกร้าวเลยแม้แต่น้อย
คนหนึ่งเย็นชาน่าเกรงขาม ส่วนอีกคนอบอุ่นและบริสุทธิ์
“พี่มาที่นี่ได้ยังไง จู่ ๆ ก็เรียกให้คนพาตัวผมมาที่นี่ ต้องการอะไร” ธันวารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
มีใครทำแบบเขาที่ไหนกัน นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาใช้กำลังขัดจังหวะการเดทของเขาแบบนี้ ไม่สนใจแยแสอะไร จู่ ๆ ก็เรียกคนให้มาพาตัวเขาออกมาจากร้านอาหาร
“ทำไมถึงไม่รับสายของเกริก” แทนไทสูดบุหรี่เข้าไปฟอดใหญ่ แล้วพ่นออกมาอย่างช้า ๆ ระหว่างควันที่ลอยฟุ้ง ดวงตาสีดำขลับคู่นั้น ให้ความรู้สึกถึงอารมณ์ที่ยากจะคาดเดาได้
“ตอนทำงานผมไม่ได้เปิดเครื่อง เพิ่งจะเห็นตอนเลิกงาน แต่มีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ เลยลืมตอบไปซะสนิท” ธันวากล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“เรื่องที่นายเรียกว่าสำคัญ ก็คือการเดทกับชัชนันท์เหรอ” แทนไทเอ่ยถาม
“...ทำไมพี่เหมือนรู้ที่อยู่ของผมไปซะหมด พี่ส่งคนมาสะกดรอยตามผมเหรอ ทำไมกัน พ่อให้พี่ทำแบบนี้เหรอ” ธันวารู้สึกไม่พอใจมากขึ้น
“นายนี่มันแส่หาเรื่องจริง ๆ ฉันมีเวลาว่างมาให้คนตามสืบนายเหรอ” แทนไทตอบกลับอย่างแผ่วเบา จากนั้นเขาจึงใช้มือเปล่าดับก้นบุหรี่ และโยนมันทิ้งในถังขยะนอกรถอย่างแม่นยำ
“หาเรื่องเหรอ ผมหาเรื่องอะไรกัน” เขาไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้ากำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่
ช่วงนี้เขายุ่งอยู่แต่กับงานตลอด เรื่องอะไรก็ไม่ได้ทำ
“หรือที่ผมสารภาพรักกับชัชนันท์ในทวิตเตอร์เหรอ แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับพี่ด้วย” ใบหน้าของธันวาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “หรือพี่ไม่เห็นด้วยที่ผมชอบผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว”
“สามีคนนั้นของชัชนันท์ จะมีก็เหมือนไม่มี ผู้ชายคนนั้นไม่ดีกับเธอเลยสักนิด ทั้งสองคนก็ต่างแยกกันอยู่ อีกไม่นานก็จะหย่ากันแล้ว” ธันวากล่าวออกมาตามความรู้สึก
“นายเพิ่งจะสารภาพเหรอ” แทนไทเลิกคิ้วที่เหมือนคมดาบขึ้นเล็กน้อย พร้อมเคลื่อนดวงตาที่แสนเย็นชามาบนใบหน้าของธันวา
“อืม แต่ถูกปฏิเสธไป” ธันวาถอนหายใจยาวออกมาเฮือกหนึ่งอย่างจนปัญญา
คิ้วที่สง่างามของแทนไทค่อย ๆ คลายลง และสีหน้าเริ่มผ่อนคลายขึ้น
“ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นตาถั่วหรือไงกัน ถึงทิ้งให้ผู้หญิงที่สวยเหมือนหยกไว้ข้างทาง หากตาถั่วละก็ ผมแนะนำให้เจ้าหมอนั่นบริจาคไปซะ” ธันวากล่าวเสริม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คิ้วที่เขาเพิ่งคลายออกก็กลับมาขมวดขึ้นอีกครั้ง สีหน้าก็เริ่มเคร่งขรึมขึ้น
“พูดอีกทีซิ...” สีหน้าของแทนไทดูเย็นชา
“พูดอีกทีซิ...”
“ผมบอกว่าแนะนำให้เจ้าหมอนั่นบริจาคดวงตาไปซะ” ธันวาไม่ได้สนใจสีหน้าแววตาของแทนไทเลยแม้แต่น้อย “ไม่รู้ว่าเจ้าหมอนั่นจะหน้าตาเป็นยังไง มีสถานะอะไร หล่อสักแค่ไหนกัน อีโก้ถึงขนาดนั้น ขาดการอบรมสั่งสอนมาจริง ๆ “
“นายก็ลองมาสั่งสอนฉันหน่อยสิ” แทนไทก้มหน้าต่ำพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ในเวลานี้ ใจของธันวาก็เต้นระรัวขึ้นทันที ในหัวก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา
“สามีของชัชนันท์ คือพี่เหรอ”
“...” แทนไทไม่พูดไม่จา ถือว่าเป็นการยอมรับแบบเป็นนัย
“ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญขนาดนี้ เธอเป็นภรรยาคนนั้นของพี่” ธันวาไม่อยากจะเชื่อด้วยตาตัวเอง
“ต่อไปออกห่างเธอหน่อย” สายตาของแทนไทเต็มไปด้วยเตือน
“พี่ไม่ชอบเธอไม่ใช่เหรอ” ธันวากล่าวถาม
“คำที่ฉันเคยพูดไปแล้ว ไม่ชอบพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง เข้าใจหรือยัง ธันวา” แทนไทมองเขาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ภายในแววตาส่งกลิ่นอายแห่งความอันตรายออกมา ราวกับเสือชีตาห์ที่ปกป้องอาหารของมัน
บรรยากาศภายในรถเริ่มอึดอัด
ภายในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกกดขี่ข่มเหงอย่างดุดัน แผ่รัศมีไปทั่ว ให้ความรู้สึกเหมือนจะบดขยี้ธันวาให้ตาย
“ดูเหมือนว่าตอนนี้พี่จะชอบเธอจริงๆ แล้ว” ธันวายิ้มอย่างขมขื่น ราวกับมีมือคู่หนึ่งล้วงเข้ามาในอกของเขา แล้วควักเอาหัวใจที่เต้นอยู่ออกมา
ทันใดนั้นภายในอกก็ว่างเปล่า
ในเมื่อแทนไทชอบเธอ เขาก็จำเป็นต้องถอยออกมา
เพราะเขาเป็นพี่ชายของตัวเอง
ถึงการปล่อยวางเช่นนี้เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเขา และเขาก็ต้องทำเช่นนี้
“เข้าใจแล้วเหรอ” แทนไทกล่าวตอบ
“ผม...เข้าใจแล้ว...พวกพี่เจอกันแล้วเหรอ ตอนนี้เธอรู้สถานะของพี่แล้วหรือยัง” แววตาทั้งสองของธันวาก็เริ่มถอดสีลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...