หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 142

“ทำไมจะไม่มี รอบตัวคุณมีเยอะแยะไม่ใช่เหรอ คนที่แต่งงานแล้วอย่างฉันมีดีอะไรกัน” ชัชนันท์ยังคงรักษามารยาทและรอยยิ้มบนใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ

“แล้วทำไมผมถึงไม่เห็นใครล่ะ ผมคิดว่าเธอดีที่สุดแล้ว ในเมื่ออยากที่จะหย่าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทิ้งสถานะไว้ให้ผมไม่ดีกว่าเหรอ รอคุณหย่าเรียบร้อยแล้ว ผมก็ค่อยใช้สถานะนั้น” ความลึกล้ำในดวงตาของเขาแข็งกร้าวขึ้น

“ฉันคิดกับคุณแค่เพื่อนร่วมงานมาตลอด เป็นแค่เพื่อนกัน”

“งั้นต่อไปเธอไม่ต้องให้ผมเป็นเพื่อนก็ได้ เป็นตัวสำรองก็ยังดี”

ยากที่จะจินตนาการ คนที่ถูกอุ้มชูอยู่บนฟ้าจากผู้คนนับไม่ถ้วน กลายเป็นดวงดาวที่คนทั่วไปต้องเงยหน้ามอง ไม่นึกเลยว่าจะพูดคำว่าตัวสำรองแบบนี้ออกมา

เขาเป็นถึงธันวาเลยนะ

เป็นดวงดาวที่ผู้หญิงไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่เอื้อมไม่ถึง

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงนิ่งเฉย “ฉันไม่ได้มีนิสัยชอบเก็บตัวสำรองนะ ธันวา คุณดีมาก ๆ แถมยังเป็นคนเก่ง ฟังฉันแล้วมองไปข้างหน้า อย่าแขวนคอตัวเองอยู่กับต้นไม้อย่างฉันเลย”

“ผมจะรอเธอ” ธันวาไม่อยากที่จะยอมแพ้เพียงเท่านี้ “สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติของรักแรกของผม ผมจะเก็บมันไว้เพื่อคุณเสมอ”

รักแรกเหรอ

คำสองคำนี้ ทำให้ชัชนันท์ตกใจ

คนที่ยอดเยี่ยมเฉิดฉายเช่นนี้ ไม่เคยมีความรักมาก่อนเลยจริง ๆ เหรอ

ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นสัญญากับเขา เธอให้นลินตรวจสอบข้อมูลของเขาแล้ว พื้นเพของเขานั้นใสสะอาดมาก และไม่พบประวัติเรื่องความรักใด ๆ

แต่ในตอนนั้น เธอแค่คิดว่าเขาคงจะปกปิดมันไว้อย่างดี เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่เคยมีความรักมาก่อนจริง ๆ

สิ่งที่คาดไม่ถึงคือข้อมูลนั้นใช่ข้อมูลเท็จ เขาใสสะอาดกว่าที่เธอคิดไว้มาก

“ไม่ต้องแล้วจริง ๆ โอกาสดี ๆ แบบนี้เก็บไว้ให้คนอื่นเถอะ”

“บอกไปแล้ว ผมจะรอเธอ” เขาคล้ายกับคนดื้อรั้น ยังคงไม่คิดที่จะยอมแพ้ “เธอเป็นรักแรกที่ผมชอบตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยมีใครทำให้ผมใจสั่นได้มาก่อนเลย ผมจะไม่ยอมแพ้”

“เธอรู้หรือเปล่า ตอนที่มองเห็นเธอครั้งแรก ผมก็รู้สึกดีกับเธอแล้ว แต่ความรู้สึกดี ๆ ในตอนนั้นมันยังไม่เกิดเป็นความรัก แต่ต่อมาพอสายตาของผมได้ตามเธอนานวันเข้า ผมก็เริ่มชอบเธอ ความชอบนี้ก็เลยพัฒนากลายเป็นความรัก”

“ชัชนันท์เธอเก่งมาก เธอคือผู้หญิงที่ผมอยากมีไว้ครอบครอง” ธันวาสารภาพรักต่อไปเป็นฉาก ๆ ด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

การเลือกใช้คำของเขานั้น ทำให้คนต่างประทับใจ

ก้นบึ้งหัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นไปชั่วขณะ

แต่ก็แค่ความประทับใจ แค่เพียงเท่านั้น

“หยุดโง่ได้แล้วธันวา”

“ผมจะรอเธอ ผมบอกแล้วว่าจะรอเธอ...”

“ธันวา เธออย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม” เป็นแบบนี้แล้วเธอรู้สึกกดดัน

“เธอต้องการปฏิเสธผม เป็นสิทธิ์ของเธอ ผมต้องการรักเธอต่อไป มันก็เป็นสิทธิ์ของผม เมื่อทุ่มเทกับสิ่งที่เรียกว่าความรักออกไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะมาเอาคืนได้ยังไง หากได้ละก็ บนโลกใบนี้ก็คงไม่มีเรื่องราวความรักที่สวยงามและโศกเศร้าหรอก”

ในเวลานี้ ชัชนันท์ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี

“เธอไม่ต้องรู้สึกกดดัน แค่เธอรู้ไว้ว่าผมรักเธอก็พอ ไม่ว่าเวลาไหน แค่เธอต้องการผม ผมจะมาอยู่ข้างเธอในทันที”

“แล้วเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าคำปฏิเสธของเธอจะทำให้ผมไม่มีดีใจ ไม่เลยสักนิด ผมก็ไม่ออกจากXเอนเตอร์เทนเมนท์เพราะเรื่องนี้ ขอเพียงเธออยู่ที่นี่ ผมก็จะอยู่ที่นี่ตลอดไป”

เขายังคงพูดคำแล้วคำเล่าอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกคำพูดของเขาล้วนไพเราะเสนาะหู ซาบซึ้งกินใจ

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเขาเป็นคนที่ดีมากจริง ๆ

มีบางคนอบอุ่นจนถึงด้านใน อย่างเช่นธันวา

“ธันวา คะ คุณอย่าทำแบบนี้ได้ไหม...”

“ก๊อก ๆ ...” ในเวลานี้นั้น เสียงเคาะประตูก็ได้ดังขึ้น

ไม่รอให้ธันวาตอบโต้ ชายชุดดำกลุ่มใหญ่ก็ปรี่บุกเข้ามา

ชัชนันท์มองด้วยใบหน้าที่งุนงง พลันถามขึ้น “พวกคุณทำอะไร”

เหล่าชายชุดดำกลับไม่พูดพล่ำทำเพลง เพียงแค่พยักหน้าอย่างสุภาพกับเธอ จากนั้นจึงเดินเข้าไปอยู่เบื้องหน้าของธันวา “มากับพวกผมสักครู่ครับ”

เมื่อเทียบกับชัชนันท์แล้ว ธันวาดูเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากกว่า สีหน้าดูสุขุมเยือกเย็น

“ไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังเดทอยู่” ธันวากล่าว

แต่ทว่า ไม่รอให้เขาได้เปิดปากพูด ชายชุดดำที่เป็นหัวหน้าก็ได้โบกมือให้กับคนอื่น ๆ

วินาทีต่อมา ธันวาก็ถูกกลุ่มชายชุดดำใช้แรงดึงขึ้นมา

“ขออภัยด้วยครับ” หัวหน้าชายชุดดำกล่าว

ชัชนันท์ขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึมทันที พร้อมยืนขึ้นแล้วกล่าว “พวกคุณเป็นใครกัน รู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้”

“ไม่เป็นไร คนพวกนี้เป็นคนที่ผมรู้จัก คนของบ้านผมเอง” ธันวากล่าวอย่างปลอบโยน

อารมณ์ของชัชนันท์จึงค่อย ๆ สงบลง

“ไปกับพวกผมสักครู่ครับ” หัวหน้าชายชุดดำกล่าวย้ำ

จากนั้น พวกชายชุดดำก็ได้พาตัวธันวาออกไป

ธันวาดิ้นรนขัดขืน แต่กลับไร้ประโยชน์ ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงให้กลุ่มชายเสื้อดำพาตัวเขาไป ด้านหนึ่งก็หันศีรษะแล้วยิ้มให้ชัชนันท์ “รอผมก่อนนะ ผมจะรีบกลับมา”

ชัชนันท์พยักหน้าอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ เธอรู้สึกว่ามันพิลึกพิลั่นเป็นอย่างมาก ในเมื่อเป็นคนที่เขารู้จักหรือเป็นคนของบ้านเขา แล้วทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้ล่ะ

ครอบครัวของธันวาก่อนที่เขาจะเข้ามายังบริษัท เธอทำความรู้จักมาก่อนอย่างดีแล้ว ในข้อมูลเขียนไว้ว่าพ่อกับแม่เป็นคนธรรมดา

แต่เมื่อมองดูท่าทีของกลุ่มชายชุดดำพวกนั้น มันกลับไม่ต่างกับแบล็กดั๊กเลยแม้แต่น้อย

เธอนั่งลงบนเก้าอี้อีกด้วยความสงสัย แล้วดื่มน้ำอย่างไม่รีบร้อน

…………

บริเวณทางเข้าร้านอาหาร ขบวนรถหรูสีดำที่นำโดยบูกัตติ เวย์รอน หยุดจอดอย่างไม่เกรงกลัว

กลุ่มรถยนต์หรูรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นจากทั่วทุกมุมโลก ได้ดึงดูดสายตาผู้คนนับไม่ถ้วน

แทนไทที่อยู่ภายในรถเปิดกระจกรถครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นถึงใบหน้าอันหล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครที่กำลังสูบบุหรี่อยู่

ควันสีขาวที่ลอยฟุ้งกระจายออกไปนอกกระจกรถ และสลายหายไปในความมืด

เรือนร่างที่แต่งกายด้วยชุดสีดำ ทำให้ลักษณะที่เย็นชาเป็นพิเศษของเขาเด่นชัดออกมา

เหล่าหญิงสาวที่ผ่านไปมา ไม่มีสักคนที่จะไม่เหลียวมองภายในรถคันนี้

เพียงแค่ชายตามอง ผู้คนมากมายก็เหมือนกับถูกมอมเมาอย่างไรอย่างนั้น คลุ้มคลั่งผู้ชายอยู่ภายในใจอย่างไม่หยุดหย่อน

เขาไม่เคยปรายตามองผู้คนด้านนอกเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ตำแหน่งของทางออกอย่างเงียบ ๆ คิ้วที่เหมือนคมดาบขมวดขึ้น

ยิ่งดูเย็นชาสูงส่งเข้าถึงยากเช่นนี้ ก็ยิ่งดึงดูดผู้คน โดยเฉพาะสำหรับหญิงสาววัยรุ่น ผู้ชายแบบนี้เป็นจุดสนใจที่สุด

ต่อให้เขาจะไม่ชายตามอง เพียงแค่การสูบบุหรี่เช่นนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใจของพวกเธอบ้าคลั่ง

ใครจะต้านทานเทพบุตรหนุ่มอันแสนเย็นชาที่หลุดออกมาจากการ์ตูนได้กัน หญิงสาวคนไหนจะอดใจไหว

ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็พาตัวธันวาออกมาอย่างอึกทึก

ธันวาเดินมาอยู่ท่ามกลางพวกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะให้ผู้อื่นจำได้ จึงนำหมวกปลายแหลม พร้อมด้วยหน้ากากอนามัยสีดำมาสวมใส่ ใบหน้าของเขาทั้งหมดถูกบดบังอย่างสมบูรณ์

ชายชุดดำนำธันวาไปตลอดทาง เมื่อไปถึงข้างรถบูกัตติ เวย์รอน จึงเปิดประตูออกให้เขา

หลังจากที่ธันวาขึ้นรถไปแล้ว ชายชุดดำก็ปิดประตูรถลง

ใบหน้าของพวกเขามีหลายจุดที่คล้ายคลึงกัน แต่ลักษณะนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว